ตอบโจทย์ คุ้มครอง ดูแลอย่างใกล้ชิด
ในชีวิตประจำวันของเรา เรื่องความปลอดภัย ถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แถมยังต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเราไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งอันตรายแบบไหนจะเกิดขึ้นกับเรา ทั้งสิ่งที่มองเห็นและสิ่งที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทาง หรือ ขับขี่รถยนต์เป็นประจำ เพราะนอกจากจะต้องห่วงความปลอดภัยของตัวเราแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเพื่อนร่วมทางอีกด้วย ซึ่งภัยที่มาจากรถยนต์เราสามารถลดความเสี่ยงได้โดยการขับขี่อย่างมีสติ และ ทำตามกฎจราจร แต่ภัยที่เราไม่สามารถห้าม หรือ ลดความเสี่ยงได้เลย คงหนีไม่พ้นภัยจากธรรมชาติ
คุ้มครอง ทุกภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ไฟไหม้
“ภัยจากธรรมชาติ” เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถห้ามได้ ไม่ว่าจะเป็นภัยน้ำท่วม ไฟไหม้ หรือต่างๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สิ่งที่ตามมานั้นคงหนีไม่ผลเรื่องความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน พื้นที่ทำกิน หรือ รถยนต์ เมื่อเกิดภัยดังกล่าวและสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ ถือว่าหนักใจอย่างมากเลยสำหรับเจ้าของรถ เพราะนอกจากรถจะพังแล้ว ยังต้องส่งซ่อม ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ต้องเป็นผู้ดูแล ดังนั้น การเลือกทำ “ประกันรถยนต์” จึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญอย่างมาก วันนี้เราจึงมาพร้อมกับ
น้ำท่วม ไฟไหม้ มีแบบประกันคุ้มครองอย่างไรบ้าง? เพื่อตอบโจทย์ปัญหาภัยธรรมชาติ พร้อมการคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ หากคุณเลือกทำประกันรถยนต์
น้ำท่วม ไฟไหม้ ประกันภัยไหนคุ้มครองบ้าง ?
ประกันรถยนต์ชั้น 1
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประกันรถยนต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะ
ประกันภัยชั้น 1 มีการคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สินของเราและของคู่กรณี แถมยังคุ้มครองไปถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติต่างๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น และ ประกันภัยชั้น1 ยังคุ้มครองได้ทุกกรณี หากว่าคู่กรณีจะหนีไปแล้วก็ตาม (ชนแล้วหนี)
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2
คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์เฉพาะความเสียหาย อย่างเช่น จากไฟไหม้ , การโจรกรรม และ ความคุ้มครองรับผิดต่อทรัพย์สินร่างกายของบุคคลภายนอก พร้อมทั้งซ่อมรถคู่กรณีอย่างเดียว ไม่ซ่อมรถของผู้ซื้อประกัน และ คุ้มครองรถยนต์สูญหาย ไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2 + เป็นที่นิยมมากในหมู่คนที่ต้องการต่อประกันรถยนต์ เพราะมีความคุ้มครองที่ค่อนข้างสูงมาก และที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย พร้อมคุ้มครองซ่อมทั้งรถของคู่กรณี และ ซ่อมรถของผู้ซื้อประกัน อีกทั้งยังคุ้มครองไปถึงกรณีรถสูญหาย และ ไฟไหม้ (จำกัดโดยทุนประกันและมีเงื่อนไข)
กรณีที่ประกันชั้น 1 , ชั้น 2 , ชั้น 2+ คุ้มครอง
กรณี : ถ้าหากจอดรถทิ้งไว้แล้วเกิดน้ำท่วม ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครองทุกกรณี แต่ประกันรถยนต์ชั้น 2 และ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ไม่คุ้มครอง
กรณี : รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ รถชน ซ่อมรถคู่กรณี เท่านั้น ประกันรถยนต์ชั้น 2 คุ้มครอง
กรณี : รถยนต์สูญหาย ไฟไหม้ รถชน หรือ ซ่อมรถคู่กรณี+รถผู้ซื้อประกัน ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครอง
ไม่ว่าจะเป็น
อุบัติเหตุบนท้องถนน หรือ ภัยจากธรรมชาติ เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ การเลือกทำประกันรถยนต์ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยล่ะ พร้อมการคุ้มครอง ดูแล ทั้งเรื่องค่าใช่จ่าย และปัญหาต่างๆ
READ MORE :
► ประกันรถน้ำท่วม จ่ายเท่าไหร่?
► 5 ไอเดียจัดระเบียบรถ
► เจอโคลนจนรถติดหล่ม ต้องทำยังไง?