รถยนต์ไฟฟ้าช่วยลดฝุ่น PM2.5 แล้ว ยังมีอะไรดี ๆ อีกเยอะ ที่คุณอาจไม่รู้
ฝุ่นละออง PM 2.5 ถือเป็นปัญหาที่ไม่สามารถกำจัดได้ในครั้งเดียว! ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าสาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดฝุ่นชนิดนี้ก็คือ การเผาไหม้ ควันดำจากรถรถยนต์ รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กจิ๋วนี้ด้วยกันทั้งนั้น! นอกจากจะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจแล้ว มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งอีกด้วย!
BEV (Battery Electric Vehicles) : ประเภทรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยไอเสีย เนื่องจากขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า รวมถึงใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ โดยใช้การเสียบปลั๊กในการชาร์จไฟ
PHEV (Plug-In Hybrid Electric Vehicles) : รถยนต์ไฟฟ้า 2 ระบบ โดยมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน และ มอเตอร์ไฟฟ้าที่เป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่งใช้วิธีการเสียบปลั๊กในการชาร์จไฟเช่นกัน
HEV (Hybrid Electric Vehicles) : เป็นประเภทรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้การขับเคลื่อนโดยการใช้เครื่องยนต์สลับกับมอเตอร์ไฟฟ้า แต่ไม่มีช่องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟเหมือนกับ 2 ประเภทแรกดังข้างต้น
รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 ประเภทได้มีการทอลองว่า ปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์บนท้องถนน ณ ปัจจุบัน และหากการหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในวงกว้างเกิดขึ้นจริง ก็มีส่วนช่วยลดพิษภายในประเทศได้ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรทำควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีที่เป็นต้นเหตุของการเกิดมลพิษทางอากาศ เพื่อจะได้ช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองภายในประเทศให้เบาบางลงเสียที
ข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง ?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเป็นประเภทรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า จึงมีส่วนช่วยลดการเกิดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์ในอากาศ ที่เป็นต้นเหตุของภาวะเรือนกระจก พร้อมทั้งช่วยให้มีสภาพแวดล้อมที่ดี ลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ให้เบาบางลงอีกด้วย อีกทั้งการใช้รถยนต์ยนต์ไฟฟ้ายังช่วยประหยัดค่าใช่จ่ายได้ถึง 45,000 ต่อปี โดยเป็นการวิจัยของยูโรเปี้ยน ไคลเมต ฟาวเดชั่น มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งยุโรป เนื่องจากเป็นรถที่ไม่ต้องเติมน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้นเกือบทุกเดือน! และนอกจากช่วยให้มีอากาศที่บริสุทธิ์ สามารถสูดเข้าร่างกายได้อย่างเต็มปอดแล้ว การเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้า ยังมาพร้อมขอดีอีหนานับประการเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น
1. ประหยัดค่าใช้จ่าย
นอกจากไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันแล้ว ยังช่วยประหยัดค่าซ่อมบำรุงได้อีกด้วย เนื่องจากเป็นประเภทรถยนต์ที่ไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน จึงไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน และการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก
2. ไม่มีเสียงดังรบกวน
รถยนต์ไฟฟ้ามีพลังจากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์ในการขับเคลื่อน จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาการเผาไหม้ อีกทั้งมีเสียงที่เงียบไม่ก่อให้เกิดความรำคาญ พร้อมตอบสนองในการขับขี่ได้อย่างตรงใจ เนื่องจากไม่มีขั้นตอนการทดเกียร์
3. มีความเร็วที่สมบูรณ์แบบ
รถยนต์ไฟฟ้ามีความเร็วที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่อง หรือเร่งเครื่อง โดยจะมีความเร็วตั้งแต่ตอนเริ่มต้น เนื่องความเร็วของระบบไฟฟ้าเป็นความแรงที่มีประสิทธิภาพ และสมบูรณ์แบบมากกว่ารถยนต์ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง
4. ขับได้ลื่นไหล
อีกหนึ่งข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าคือ คบสบาย มีความลื่นไหลไม่กระชากตอนที่เปลี่ยนเกียร์ และไม่กระชากตอนที่ออกตัวอีกด้วย
5. ชาร์จไฟได้สะดวกทุกที่
สามารถทำหารชาร์จไฟได้อย่างสะดวกสบาย เพียงเอาปลั๊กมาเสียบกับตัวรถยนต์ โดยสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา (ที่มีปลั๊กไฟ) ถือเป็นการประหยัดเวลาได้ดีทีเดียว และไม่ต้องกังวลว่ารถจะดับกลางทางหรือไม่
6. มีความปลอดภัยสูง
ถึงแม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแต่ไม่ปัญหาไฟช็อตจากการโดนน้ำให้เป็นกังวลใจ โดยมีการพัฒนาให้มีความปลอดภัยสูง สามารถขับรถฝ่าน้ำท่วมได้อย่างไม่ติดขัด
สำหรับใครที่กำลังสนใจรถยนต์ไฟฟ้า พี่หมีแนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด รวมถึงทดลองใช้งานดูก่อน ว่ามีประสิทธิภาพที่ตรงใจผู้ใช้งานหรือไม่ ทั้งนี้ทั้งนั้น การทำประกันภัยรถยนต์ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน โดย
ประกันรถยนต์จะช่วยคุ้มครองกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างครอบคลุม (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขกรมธรรม์ของแต่ละบริษัท) โดยที่ TQM มีประกันภัยรถยนต์จากหลายบริษัทชั้นนำ ที่มาพร้อมการคุ้มครองที่ตอบโจทย์ และข้อเสนอดีๆ มากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง
READ MORE :