ประกาศเลขที่ TB0021067
ประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)
สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า ผู้ใช้บริการหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ
ของ บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด และ บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จํากัด, บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จํากัด ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า (“บริษัทฯ”) ได้จัดทําประกาศเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลขึ้น ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า (“ประกาศ”) ประกาศ เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จัดทําขึ้น เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียด ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายต่างๆ เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้บังคับกับการดําเนินงานของบริษัทตลอดจน ประกาศ กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อปฏิบัติ มาตรการ แนวทางการดําเนินการ คําสั่ง ที่ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายลําดับรอง

โปรดอ่านและ ทําความเข้าใจถึงกระบวนการที่ดําเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. คำนิยาม

"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทําให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม ซึ่งอาจรวมถึงชื่อและข้อมูลทั่วไปของผู้ใช้บริการ ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ชื่อ-นามสกุล ภาพใบหน้า เลขประจำตัว หรือเลขที่อ้างอิงอื่นใด ที่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดย ข้อมูลส่วนบุคคล ดังกล่าวอาจเก็บได้ในหลายรูปแบบ เช่น ในรูปแบบเอกสารที่เป็นกระดาษ หรือที่เก็บอยู่ในรูปแบบ อิเล็กทรอนิกส์ในระบบสารสนเทศของบริษัท

ทั้งนี้ ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ซึ่งไม่อยู่ในนิยามของ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคค พ.ศ. 2562

"ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว" หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความเสี่ยงอาจถูกนําไปสู่ การเลือก ปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ในที่นี้หมายถึง เชื้อชาติ ศาสนา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรมข้อมูลชีวภาพ หรืออื่นๆ ตามที่กฎหมายกําหนด

"เจ้าของข้อมูล" หมายความว่า บุคคลธรรมดาที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ระบุไปถึง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จํากัดเพียง ลูกค้าซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาของบริษัทฯ ในทุกช่องทางการขาย กรรมการและพนักงานของบริษัทคู่ค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา บุคลากรของบริษัทฯ ผู้มาติดต่อกับบริษัทฯ รวมถึงผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชุมผู้ถือหุ้น การพบปะนักลงทุนและนักวิเคราะห์ หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคมของบริษัทฯ

"ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ" หมายถึง ผู้มุ่งหวังหรือผู้ที่บริษัทนำเสนอขายสินค้าหรือบริการ บุคคลที่ซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ และ/หรืออาจจะซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการจากบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผู้ใช้บริการแอปพลิเคชัน ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัทฯ​และผู้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัทฯ ฯลฯ เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล และผู้ที่ข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและบริการด้วย

"บุคลากรของบริษัทฯ​" หมายความว่า คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร พนักงานประจำ พนักงานชั่วคราว พนักงานสัญญาจ้างของบริษัทฯ

"การประมวลผล" หมายความว่า การดำเนินการใดๆ ต่อข้อมูลส่วนบุคคล หรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะ โดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น เก็บรวบรวม บันทึก เก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยน รับ ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อเผยแพร่ รวมถึงการลบหรือทำลายใดๆ หรือกระทำการอื่นซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน

"ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้หมายถึง บริษัทฯ หน่วยงาน พนักงานที่รับผิดชอบในข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

"ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้หมายถึง คู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กับบริษัทฯ หรือบริษัทภายนอกที่บริษัทได้ว่าจ้าง

"บุคคลผู้หย่อนความสามารถ" หมายความว่า บุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ เป็นคนไร้ ความสามารถ หรือเสมือนไร้ ความสามารถตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์

"เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล" หมายความว่า บุคคลซึ่งบริษัทแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

2. ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ประเภทของบุคคลที่บริษัทฯ ทำการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้มุ่งหวัง ลูกค้า ผู้ใช้บริการ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าวข้างต้น เป็นประเภทของมูลของลูกค้า

3. แหล่งที่ได้มาในการเก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบริษัทฯ เก็บรวบรวมและรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

3.1
เมื่อท่านติดต่อสื่อสารโดยตรงกับท่าน สอบถามข้อมูล ผ่านไลน์ แมสเซ็นเจอร์ เฟสบุ๊ค ติ๊กต๊อก ผ่านทางเว็บไซต์แอปพลิเคชัน โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง หรือโดยวิธีการอื่นใด
3.2
เก็บรวบรวมโดยตรงจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่นการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลผ่านแบบฟอร์มการสมัครใช้บริการทั้งในรูปแบบกระดาษและรูปแบบออนไลน์ การตอบแบบสอบถาม (Survey) ของบริษัทฯ หรือการเข้าใช้งานระบบแอปพลิเคชันของบริษัทฯ (เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาด การจับสลากชิงโชค งานอีเว้นท์ หรือ กิจกรรมอื่น ๆ)
3.3
การเก็บข้อมูลจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ของคู่ค้าหรือผู้ให้บริการรายอื่นๆ อาทิ ผู้ให้บริการและแอปพลิเคชัน ผู้ให้บริการ E-Commerce ผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์ ผู้แนะนำสินค้า/บริการ
3.4
เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น การสืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบเว็บไซต์ หรือการสอบถามจากบุคคลที่สาม โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้า แต่ต้องไม่เกินสามสิบวันนับแต่วันที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งดังกล่าว รวมถึงจะดำเนินการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมหรือแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด

ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับบริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งท่านมีสิทธิ์ใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลตามกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นกำหนด

4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้ประกาศฯ ฉบับนี้ ได้แก่

4.1
ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป เช่น ชื่อ นามสกุล วัน/ดือน/ปีเกิด อายุ เพศ น้ำหนัก ส่วนสูง หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่าย ลายมือชื่อ ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่จัดส่ง สินค้า หมายเลขโทรศัพท์ โทรสาร อีเมล ไอดีผู้ใช้สำหรับไลน์แอปพลิเคชัน (Line ID) ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน และข้อมูลบุคคล ผู้รับผลประโยชน์ ผู้เอาประกัน เป็นต้น
4.2
ข้อมูลส่วนบุคคลละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลสุขภาพ ใบรับรองแพทย์ โรคต่างๆ เชื้อชาติ ศาสนา เป็นต้น
4.3
ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมการบริการ เช่น รายละเอียดการใช้บริการ (อาทิ ทะเบียนรถ ข้อมูลเกี่ยวกับรถที่ทำประกันภัย) รายละเอียดของ บริการที่ต้องการ รายละเอียดการร้องเรียนเกี่ยวกับบริการ (อาทิ วันที่สั่งซื้อบริการ ประเภทบริการ สาขาที่เกี่ยวข้อง และปัญหาที่พบ) เลขที่ใบรับเอกสารชั่วคราว รายละเอียดการส่งกรมธรรม์ ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงิน
4.4
ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่น เป็นต้น
4.5
ข้อมูลอื่น ๆ เช่น พฤติกรรมหรือแนวโน้มในการซื้อสินค้าและ/หรือบริการ บันทึกเสียงการสนทนา บันทึกภาพถ่าย อิเล็กทรอนิกส์จากแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น ไลน์ Messenger แอปพลิเคชัน บันทึกผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ และบันทึกภาพนิ่งและ/หรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ฯลฯ เป็นต้น

5. วัตถุประสงค์และฐานทางกฎหมายในประมวลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ​ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ภายใต้ฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปในี้ (รวมกันเรียกว่า "วัตถุประสงค์ที่กำหนด")

5.1
วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าและให้บริการแก่ลูกค้า และการดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้อง
5.1.1
การบริการตามคำขอของลูกค้า ฐานสัญญา การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการประมวลผลตามคำขอของลูกค้า
5.1.2
นำเสนอขายสินค้าหรือแก่ลูกค้า ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการจำเป็นเพื่อการประมวลผลตามคำขอของลูกค้า
5.1.3
เพื่อการลงทะเบียนแนะนำสมาชิกผู้มุ่งหวัง ฐานสัญญา และ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายกรณีที่เป็นการเพื่อนแนะนำเพื่อน
5.1.4
เพื่อทำสัญญาซื้อขายบริการ ฐานสัญญา บริษัทมีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามสัญญากับลูกค้าหรือ ผู้ใช้บริการ ในการออกกรมธรรม์ จัดส่ง และบันทึกข้อมูลตามแบบฟอร์มของบริษัทประกันภัย
5.1.5
เพื่อทำเอกสารใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษี ฐานกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายในการ นำส่งข้อมูลให้สรรพากร เป็นต้น
5.1.6
เพื่อดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล ฐานกฎหมาย เพื่อให้เจ้าของข้อมูลสามารถใช้สิทธิตามกฎหมาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
5.1.7
รับเรื่องข้อร้องเรียนต่าง ๆ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการให้บริการของบริษัทฯ สำหรับในกรณีการรับเรื่องร้องเรียนหรือข้อเสนอแนะจากลูกค้า
5.2
วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารและกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ
5.2.1
เพื่อการติดต่อสื่อสารนำเสนอสิทธิพิเศษต่าง ๆ สำหรับลูกค้าเก่า หรือผู้มุ่งหวังที่ได้ติดต่อขอข้อมูลด้านบริการ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
5.2.2
เพื่อการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ ฐานความยินยอม การส่งข้อความเกี่ยวกับการสื่อสารทางการตลาด การถ่ายภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวเพื่อนำไปประชาสัมพันธ์กิจกรรมการตลาดตามช่องทางสื่อต่าง ๆ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่าน
5.3
วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลและการพัฒนาคุณภาพบริการของบริษัทฯ เราอาจจะทำให้ข้อมูลของ ท่านเป็นข้อมูลแฝง เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้าหรือบุคคลอื่นใด โดยอาศัยฐานประโยชน์โดยชอบ ด้วยกฎหมาย และฐานความยินยอม หากเป็นการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงของท่าน
5.4
วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัท โดยใช้ฐานกฎหมาย เช่น กฎหมาย คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายภาษี กฎหมายประกันวินาศภัย กฎหมายคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กฎหมายประกันชีวิต เป็นต้น และเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย และดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ
5.5
วัตถุประสงค์เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยบริษัทใช้ฐานกฎหมาย เช่น กล้องวงจรปิด รายการ การบันทึกตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
5.6
เพื่อวัตถุประสงค์ที่เป็นประโยชน์ต่อท่าน เช่นการให้สิทธิพิเศษ ต่างๆ ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หากเป็นกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่าน

การประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นในส่วนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทที่ต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทฯ อาจมีผลกระทบทางกฎหมาย หรืออาจทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สัญญาที่ได้เข้าทำกับท่าน หรือไม่สามารถเข้าทำสัญญากับท่านได้ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องปฏิเสธการเข้าทำสัญญากับท่าน หรือไม่สามารถให้บริการกับท่านได้

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้

6.1
บริษัทในเครือบริษัท ที่คิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด /บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟ่า จำกัด(มหาชน) รวมถึง ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง คู่ค้าทางธุรกิจ หน่วยงานของรัฐ และ/หรือบุคลากรภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
6.2
บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อ ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อน
6.3
บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

7. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนด บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทฯ สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าวหากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของบริษัทฯ และบริษัทฯ จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

8. สิทธิต่างๆ ของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบบุคลลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หากท่านประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้

8.1
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
8.2
สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล
8.3
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
8.4
สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล
8.5
สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
8.6
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
8.7
สิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอม
8.8
สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯกำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย

บริษัทฯ​จัดให้มีช่องทางเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อมายังบริษัทฯเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้นได้ ในกรณีที่บริษัทฯ ปฏิเสธคำร้องขอข้างต้น บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทฯ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว

9. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง

บริษัทฯ อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของ บริษัทฯ ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่างๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud computing service/provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น

การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทฯจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิและหน้าที่ของ บริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของบุคคลที่ บริษัทฯ มอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ มอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของ บริษัทฯ เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้

ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้ บริษัทฯ จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่าง บริษัทฯ กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

10. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจํากัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดย เจ้าหน้าที่เฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอํานาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจําเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ของ บริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอํานาจ หน้าที่ โดยบริษัทฯ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกําหนด

นอกจากนี้ เมื่อ บริษัทฯ มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัทฯ จะกําหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษา ความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัทฯ เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคง ปลอดภัยอยู่เสมอ

11. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ในบางกรณีบริษัทฯ อาจจําเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อดําเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการแก่ท่าน เช่น เพื่อส่งข้อมูลให้กับบริษัทฯ ในเครือ เพื่อส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังระบบคลาวด์ (Cloud) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย (Server) อยู่ต่างประเทศ (เช่น ประเทศฮ่องกง ประเทศสิงคโปร์ หรือสหรัฐอเมริกา เป็นต้น) เพื่อสนับสนุนระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริการของ บริษัทฯ ที่ท่านใช้งานหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเป็นรายกิจกรรม อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จัดทํานโยบายฉบับนี้ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลยังมิได้มีประกาศกําหนดรายการประเทศปลายทางที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ดังนี้ เมื่อบริษัทฯ มีความจําเป็นต้องส่งหรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทาง บริษัทฯ จะดําเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไปมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดําเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่

1)
เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กําหนดให้ บริษัทฯ ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
2)
ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกําหนด
3)
เป็นการจําเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับ บริษัทฯ หรือเป็นการทําตามคําขอของท่านก่อนการ เข้าทําสัญญานั้น
4)
เป็นการกระทําตามสัญญาของ บริษัทฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
5)
เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ ความยินยอมในขณะนั้นได้
6)
เป็นการจําเป็นเพื่อดําเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สําคัญ

12. สิ่งอื่นที่ควรทราบ

12.1
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิที่จะบอกเลิก ระงับหรือยุติการที่ท่านใช้และเข้าถึงการให้บริการของบริษัท เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ฯลฯ เป็นต้น และบริษัทมีสิทธิที่จะยกเลิกบัญชีของท่านได้ทุกเวลา โดยไม่ได้ต้องให้คําบอกกล่าวล่วงหน้าและ โดยไม่ต้องให้เหตุผลใดๆ
12.2
หากบริษัทฯ ไม่ได้ใช้หรือบังคับใช้สิทธิของบริษัทตามข้อกําหนดและเงื่อนไข จะไม่ถือหรือตีความว่าเป็นการ สละสิทธิดังกล่าว บริษัทฯ จะยังคงมีสิทธิที่จะใช้หรือบังคับใช้สิทธิดังกล่าวได้ในอนาคตไม่ว่าในเวลาใดๆ
12.3
ในกรณีที่บทบัญญัติใดๆ ของข้อกําหนดและเงื่อนไข ไม่อาจบังคับได้ ไม่มีผล เป็นโมฆะ นํามาบังคับใช้มิได้ หรือด้วยประการอื่นใด จะไม่มีผลต่อบทบัญญัติอื่นๆ ของข้อกําหนดและเงื่อนไขที่ยังมีผลบังคับสมบูรณ์
12.4
นโยบาย ข้อกําหนดและเงื่อนไขก่อนหน้าประกาศฉบับนี้ที่เป็นความตกลงที่สมบูรณ์ระหว่างท่านและบริษัท นโยบายฉบับนี้จะเป็นส่วนเพิ่มเติมทั้งในทางวาจาหรือที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่เกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ฯลฯ เป็นต้น

13. กฎหมายที่ใช้บังคับ

กฎหมายที่ใช้บังคับนี้ให้ใช้บังคับและตีความตามกฎหมายไทย และให้ศาลไทยเป็นศาลที่มีเขตอํานาจในการพิจารณาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น

14. วิธีการติดต่อบริษัทฯ

บริษัทได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยใด ๆ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กําหนดไว้ในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ผ่าน ช่องทาง ดังนี้

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จํากัด

- ที่อยู่ : เลขที่ 123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จํากัด

- ที่อยู่ : เลขที่ 123/3 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

เบอร์โทรศัพท์ : 02-119-8537 ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์
Email : dpo@tqm.co.th

15. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้

บริษัทฯ อาจทําการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่ เกี่ยวข้องกําหนด โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ที่สําคัญใด ๆ พร้อมกับประกาศฯ ฉบับ ปรับปรุง ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้เป็นระยะๆ

ประกาศ ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2567 Rev 20241007

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล