ทริคสุดเจ๋งแก้อาการเจ็ทแล็ก เมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ

     การเดินทางไปต่างประเทศโดยเฉพาะเที่ยวบินระยะไกล อาจทำให้หลายคนต้องเจอกับอาการ Jet Lag หรือ เจ็ทแล็ก ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการเดินทางข้ามเขตเวลา ทำให้นาฬิการ่างกายรวน หลับไม่เป็นเวลา อ่อนเพลีย ปวดหัว หรือแม้แต่เบลอไปทั้งวัน วันนี้พี่หมี TQM มี วิธีแก้เจ็ทแล็ก แบบเข้าใจง่าย ได้ผลจริง ที่จะช่วยให้ทุกการเดินทางของคุณมีแต่ความสดใส พร้อมลุยตั้งแต่วันแรกมาฝากกันครับ

Jet Lag คืออะไร ทำไมถึงเกิดขึ้น

     Jet Lag หรือ เจ็ทแล็ก คืออาการที่เกิดจากการเดินทางข้ามเขตเวลา (Time Zone) อย่างรวดเร็ว จนทำให้ "นาฬิกาชีวิต" ภายในร่างกายเราสับสน ร่างกายยังปรับตัวไม่ทันกับเวลาใหม่ เช่น จากนอนตอนกลางคืนที่ไทย แต่พอไปถึงยุโรป กลายเป็นเช้าพอดี ทำให้เกิดอาการง่วงตอนกลางวัน ตาสว่างตอนกลางคืน หรือทำให้เรารู้สึกไม่สดชื่น เหนื่อยง่าย เหมือนนอนไม่พอ เป็นต้น

 

Jet Lag อาการเป็นอย่างไร

     อาการเจ็ทแล็ก อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพ ระยะเวลาของการเดินทาง และจำนวนโซนเวลาที่เปลี่ยนแปลง แต่โดยทั่วไป อาการที่พบบ่อยมีดังนี้

 

• • นอนไม่หลับตอนกลางคืน
  • ง่วงนอนตอนกลางวัน
  • ปวดหัว วิงเวียน
  • หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน
  • ระบบย่อยอาหารรวน

 

Jet Lag เป็นนานแค่ไหน

     โดยทั่วไป อาการ Jet Lag จะอยู่ได้นาน 1-3 วัน แต่บางคนอาจใช้เวลานานถึง 1 สัปดาห์ กว่าจะปรับตัวได้ขึ้นอยู่กับจำนวนโซนเวลาที่ข้าม (ยิ่งเยอะ ยิ่งใช้เวลานาน) , อายุ (คนที่อายุน้อยมักปรับตัวได้ไวกว่า) และสุขภาพโดยรวม เป็นต้น

Jet lag วิธีแก้ที่ได้ผลจริง ใช้ได้ทุกทริป

 

1. ปรับเวลานอนก่อนเดินทาง

     หนึ่งใน วิธีแก้เจ็ทแล็ก ที่ช่วยได้ดีคือการปรับเวลานอนล่วงหน้า 2-3 วันก่อนเดินทาง โดย ถ้าต้องเดินทางไปประเทศที่เวลาช้ากว่าบ้านเรา ให้เข้านอนช้าขึ้นวันละ 1-2 ชั่วโมง หรือถ้าประเทศปลายทางมีเวลาที่เร็วกว่าบ้านเรา ให้เข้านอนเร็วขึ้นวันละ 1-2 ชั่วโมง พยายามใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับเวลาของประเทศปลายทางตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง

 

2. เลือกเที่ยวบินให้เหมาะสม

     ควรเลือกเที่ยวบินที่ทำให้ถึงจุดหมายในช่วงเย็นหรือค่ำ จะช่วยให้สามารถเข้านอนได้ตามเวลาท้องถิ่นได้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงเที่ยวบินที่เดินทางถึงปลายทางในช่วงเช้าตรู่ เพราะอาจทำให้ต้องอดทนรอจนถึงเวลากลางคืนก่อนจะได้นอนจริง ๆ

 

3. ดื่มน้ำเยอะ ๆ และเลี่ยงคาเฟอีน

     ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เพราะบนเครื่องบินมีความชื้นต่ำทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ง่าย ซึ่งจะทำให้ Jet Lag รุนแรงขึ้น รวมไปถึงหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีน เพราะอาจรบกวนการนอนตอนถึงที่หมาย

4. ปรับตัวตามเวลาท้องถิ่นทันที

     ตั้งนาฬิกาตามเวลาของประเทศปลายทางทันทีที่ขึ้นเครื่อง รวมไปถึงปรับพฤติกรรมต่างๆ เช่น กินอาหารและนอนตามเวลาท้องถิ่น และพยายามอย่าหลับในเวลาที่ไม่ควรหลับ เพื่อป้องกันอาการเจ็ทแลค

 

5. รับแสงแดดเพื่อช่วยปรับนาฬิกาชีวิต

     แสงแดดเป็นตัวช่วยรีเซ็ตนาฬิกาชีวิตที่ดีที่สุด เพราะช่วยกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายให้รับรู้ว่า ตอนนี้เป็นกลางวันแล้วนะ การออกไปโดนแสงแดดช่วยให้นาฬิการ่างกายปรับตัวเร็วขึ้น ถ้าไปประเทศที่เวลาช้ากว่าบ้านเรา ควรรับแสงแดดในช่วงเช้า หรือถ้าไปประเทศที่เวลาเร็วกว่า ควรรับแสงแดดในช่วงเย็น

 

6. ใช้เมลาโทนินช่วยปรับเวลา

     เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมการนอนหลับ หากใช้ในปริมาณน้อยๆ และถูกเวลา อาจช่วยบรรเทาอาการ Jet Lag ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ด้วยนะครับ

     การเผชิญกับ Jet Lag หรือ เจ็ทแล็ก เป็นเรื่องธรรมดามากของนักเดินทางทุกคน แต่ถ้าเรารู้ วิธีแก้เจ็ทแล็กที่ถูกต้อง ก็สามารถลดอาการนี้ได้แบบชิลๆ ไม่ว่าจะบินไกลแค่ไหน ร่างกายเราก็พร้อมลุย ใครที่มีแผนเดินทางต่างประเทศเร็วๆ นี้ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมตาม วิธีแก้เจ็ทแล็ก ที่พี่หมีนำมาฝากกันในวันนี้ไปปรับใช้กันนะครับ

 

     อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก่อนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็คือ การมีประกันการเดินทาง หมดกังวลค่ารักษาพยาบาล , ถูกยกเลิกเที่ยวบิน , ความล่าช้าของเที่ยวบิน หรือกระเป๋าเดินทางหาย สนใจประกันการเดินทางกับ TQM สามารถกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันที่ตรงใจคุณ หรือทักแชทหาพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ