รีวิว ค่ารักษาพยาบาลในญี่ปุ่น

     สวัสดีครับ คุณผู้อ่านเคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไหมครับ ที่พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ไปเที่ยวทริปต่างประเทศประจำปีกับบริษัทที่ญี่ปุ่น และพระเอกก็แอบชอบนางเอกอยู่โดยที่ไม่กล้าบอก แต่ก็มีเหตุจำเป็นที่ต้องให้ทั้งสองคนเป็นแฟนกัน 1 วัน เพราะนางเอกประสบอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาลจำใครไม่ได้ แล้วพระเอกจำเป็นต้องเป็นเจ้าของไข้โดยแจ้งกับโรงพยาบาลว่าเป็นแฟนกัน (..คงจะคุ้น ๆ ชื่อภาพยนตร์เรื่องนี้กันแล้วใช่ไหมครับ)

 

 

     

     ประเทศญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีชาตินิยมเคารพสิทธิมนุษยชนของส่วนรวมมาก ๆ ดังนั้นเรื่องค่ารักษาพยาบาลในกรณีที่ประชาชนเจ็บป่วย ทางรัฐจะช่วยดูแลและให้ผ่อนจ่ายได้ โดยที่คนญี่ปุ่นทุกคนจะต้องทำประกันการรักษาพยาบาลจากรัฐ และคนไทยที่ไปอยู่ญี่ปุ่นนานกว่า 3 เดือนก็ต้องเข้าระบบประกันนี้ด้วย โดยแบ่งออกเป็น

 

1) ประกันสำหรับประชาชนทั่วไป สมัครกับภาครัฐ (คล้ายกับประกันสังคมบ้านเรา)

2) ประกันกลุ่ม แบบประกันสุขภาพของบริษัทเอกชน

 

ใน Pantip ก็มีผู้ไปตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน วิธีการป้องกันก่อนเดินทาง ก็คือควรทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองการเดินทางระหว่างท่องเที่ยวไว้ด้วย ดังที่เคยมีข่าวว่าหญิงสาวไทยประสบภาวะหัวใจล้มเหลวขณะท่องเที่ยว ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล 6 ล้านบาท (ดูข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> ญี่ปุ่นยกกรณีสาวไทยหัวใจวายกะทันหัน ค่ารักษา18 ล้านเยน เตือนนทท.ซื้อประกัน) หรือกรณีที่สาวไทยไส้ติ่งแตกที่ญี่ปุ่น ต้องเสียค่ารักษาประมาณ 3 แสนบาท โดยไม่ได้จ่ายประกันการเดินทางไว้ก่อนมาเที่ยว (ดูข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> สาวไทยไส้ติ่งอักเสบที่ญี่ปุ่น เจอค่ารักษาล้านเยนวอนช่วย)

 

 

 

แน่นอนว่าหากเป็นนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวไม่กี่วัน แล้วเกิดอุบัติเหตุ หรือ ล้มป่วยจะต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลของประเทศญี่ปุ่น ก็ต้องจ่ายเต็มจำนวนซึ่งส่วนลดต่าง ๆ นั้นหากทำประกันการเดินทางมาแล้วก็จะช่วยได้ แต่ในส่วนค่ารักษาต่อไปนี้ขอพูดถึงกรณีผู้ที่เข้าระบบประกันสุขภาพแห่งชาติของญี่ปุ่นก่อนนะครับ

 

1) จ่ายแค่ 30% ที่เหลือประกันสุขภาพแห่งชาติของญี่ปุ่นออกให้

2) จ่ายแค่ 20% กรณีเป็นพลเมืองญี่ปุ่นที่อายุ 70 ปี ขึ้นไปและไม่ได้ทำงานแล้ว

3) จ่ายแค่ 10% กรณีเป็นพลเมืองญี่ปุ่นที่อายุ 75 ปี ขึ้นไป

 

โดยที่ค่ารักษาพยาบาลที่ญี่ปุ่น บางรายการก็มีราคาถูกกว่าที่ประเทศไทย แต่บางรายการก็สูงกว่า ซึ่งคุณสามารถเตรียมตัวก่อนการเดินทางโดยดูคู่มือการรักษาพยาบาลในประเทศญี่ปุ่นได้ที่นี่

 

 

 

เพราะฉะนั้น คนที่เดินทางไปเรียน หรือไปทำงาน โดยต้องอยู่เกิน 3 เดือนขึ้นไป จะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30% เพราะได้จ่ายค่าประกันให้กับประกันสุขภาพแห่งชาติของญี่ปุ่นไปแล้ว แต่หากอยากให้มีประกันที่ครอบคลุมทั้งหมดโดยไม่ต้องสำรองจ่าย มีวิธีซื้อประกัน 2 แบบ คือ

 

1) ซื้อประกันการเดินทางรายปี (ทำตั้งแต่ยังไม่ได้เดินทางไปญี่ปุ่น) เพื่อครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุ และสุขภาพขณะอยู่ญี่ปุ่น

2) ทำประกันชีวิต และประกันสุขภาพที่ไทย โดยเลือกบริษัทที่คุ้มครองอุบัติเหตุและสุขภาพทั้งในและต่างประเทศ

(จากเรื่อง : ตามไปดู! หาหมอในญี่ปุ่น )

 

     นอกจากนี้ประเทศญี่ปุ่น ยังมีเหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวในเขตจังหวัดที่มีความเสี่ยง หากประสบอุบัติเหตุก็จะต้องมีค่ารักษาพยาบาลเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยครั้ง แต่ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงภัยที่ผู้เดินทางไม่ควรประมาทที่จะทำประกันการเดินทางเอาไว้กับการเดินทางออกนอกประเทศทุกกรณี เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเสียเงินกับค่ารักษาพยาบาลสูง ๆ ซึ่งหากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประกันการเดินทางสามารถสอบถามพี่หมีโดยทิ้งเบอร์ไว้ได้ใน Live Chat หรือโทร 1737 ได้เลยครับ

 

ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก : การประกันสุขภาพของญี่ปุ่น https://dr-passport.com