หนาวนี้เตรียมไปดูทะเลหมอกที่ไหนดี
หน้าหนาวกำลังจะเข้ามาถึงช่วงวันหยุดยาว และ เทศกาลต่าง ๆ ก็กำลังเริ่มทยอยใกล้เข้ามา ในช่วงปลายปีแบบนี้หลายคนอาจจะลังวางแผนเดินทางในช่วง
วันหยุดยาวปลายปีที่จะถึงนี้ว่าจะไปที่ไหนกันดี แต่สถานที่สุดฮิตในช่วงหน้าหนาวก็คงหนีไม่พ้นการไปสัมผัสกับอากาศเย็นๆ ในภาคเหนือหรือภาคอีสานของประเทศไทย ที่มความสวยงามและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง ไปรับลมหนาว นอนดูดาวในตอนกลางคืน ตื่นขึ้นมาพร้อมทะเลหมอก พี่หมีบอกเลยครับว่าฟิน แต่จะมีที่เที่ยวที่ไหนบ้างนั้นไปดูกันเลยครับ
1.ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย
หากคิดถึงอากาศหนาวเย็นก็ต้องคิดถึงส่วนเหนือสุดของประเทศกันก่อนอย่าง จังหวัดเชียงราย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่ผู้คนต่างแนะนำว่าต้องไปชมทะเลหมอกให้ได้สักครั้งและนอกจากนี้ด้วยวิวทิวทัศน์ที่เป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับกันไปกับทพเลหมอกสีขาวทั่วผืน และเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็นทั้งปีตั้งแต่ช่วงฤดูฝนลากยาวจนถึงฤดูหนาวเลยทีเดียว ภูชี้ฟ้า เป็นหน้าผาสูงเป็นแนวยาวไปตามรอยตะเข็บชายแดนไทย-ลาว ปลายหน้าผามีลักษณะยื่นออกมาคล้ายมือ จึงถูกเรียกกันว่าเป็นภูชี้ฟ้า
2.ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ดอยหลวงเชียงดาว หรือ ดอยเชียงดาว ถือเป็นสถานที่ยอดฮิตอีกหนึ่งสถานที่ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ และที่นี่สวยงามทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากทะเลหมอกแล้วที่นี่ยังมีทะเลดาวบนท้องฟ้า ที่ระยิบระยับในช่วงตอนกลางคืน บวกกับอากาศที่เย็นสบายรับรองว่าฟิน
3.ห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่
สถานที่สุด Unseen อีกหนึ่งแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีชื่อเสียงมากๆ รวมถึงเป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวกล่าวถึงเป็นอย่างมาก ที่นี่ครอบคลุมพื้นที่ของอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เท่านั้นยังไม่พอที่ห้วยน้ำดังยังสามารถมองเห็นดอยเชียงดาวได้อีกด้วย และในหน้าหนาวก็จะพบกับเหล่าบรรดาดอกไม้หลากหลายสีสันที่พร้อมกันเบ่งบานอีกด้วย
4.ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
ดอยเสมอดาว คือ ดอยที่สื่อความหมายถึงที่บ่งบกว่าเป็นดยที่สูงจนแทบจะเสมอกับดวงดาวบนท้องฟ้าเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นจุดชมแสงแรกและแสงสุดท้ายของวันได้อีกด้วย ดอยเสมอดาวเป็นที่นิยมของคนที่ชอบเดินทางไปสัมผัสกับหมอกและอากาศหนาวเป็นอย่างมาก เพราะเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สำคัญ อีกทั้งยังเป็นวิวที่เสามารถชมความสวยงามได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว
5.ภูลังกา จังหวัดพะเยา
หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยชื่อสักเท่าไหร่เป็นสถานที่ที่ชมทะเลหมอกได้สวยงามอีกหนึ่งแห่ง ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำเปื่อย ป่าน้ำหยวน ป่านน้ำลาว และ ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยม ที่เที่ยวสำคัญของที่แห่งนี้คือ ภูเทวดา ยอดอยที่มีความสูงที่สูงที่สุดในเทือกเขาสันปันน้ำ จุดนี้นอกจากชมทะเลหมอกได้แล้วยังสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและดูพระอาทิตย์ตกได้
6.ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
๓ทับเบิก ถือเป็นจุดที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชนบูรณ์ เป็นทะเลหมอกที่ติดท็อปอันดับต้นๆที่คนไทยนิยมไปเยียมชมความสวยงามในสถานที่แห่งนี้ เป็นจุดชมวิวที่มีให้ครบไม่ว่าจะเป็น ทะเลหมอก ทะเลภูเขา ป่าไม้ที่ความอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
7.ดอยเมี่ยง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ดอยเมี่ยง ถือเป็นทะเลหมอกแห่งใหม่ที่กำลังถูกกล่าวขานเป็นอย่างมาก พื้นที่เป็นป่าดิบชื้น มีภูเขาสลับกันสูงเตี้ยมากมาย อีกทั้งยังมีพันธุ์ไม้หลายชนิด และที่จุดชมวิวเรายังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของปายได้แบบ 360 องศา และอากาศหนาวเย็นพร้อมทะเลหมอกสวยๆให้ได้ชมกัน
8.ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
หากพูดถึงทะเลหมอกต้องห้ามพลาดที่ดอยอ่างขางเป็นอันขาด เพราะเป็นสถานที่ที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี สามารถไปชมทะเลหมอกที่สวยงามที่นี่ได้ อากาศยู่ที่ประมาณ 17 องศาตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงเดือนธันวาคม และ มกราคม จะมีสภาพอากาศที่เย็นลงอีก และ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะนิยมไปชมแม่คะนิ้ง หรือ น้ำข้างแข็งพร้อมตื่นเช้ามาชม
ทะเลหมอกกัน
9.ห้วยอีสัน จังหวัดหนองคาย
ใครว่าภาคอีสานหาจุดชมวิวไม่ได้ ทะเลหมอกในภาคอีสานถือเป็นจุด Unseen มากๆ เพราะไม่ค่อยมีใครทราบว่าที่ภาคอีกสานจะมีจุดชมทะเลหมอกเช่นเดียวกัน ซึ่งเป้นจุดที่สวยงามมากๆ เพราะเราจะสามารถมองเกห็นทะเลหมอกที่ลอยอยู่เหนือแม่น้ำโขง แต่จุดนี้ไม่สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไปได้ แต่จะมีรถของชาวบ้านที่พานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังจุดชมวิวนั้นได้
10.เขาไข่นุ้ย จังหวัดพังงา
ภาคใต้ก็ชมทะเลหมอกกันได้ที่จังหวัดพังงา พบความงามทะเลหมอกที่ไล่ระดับอย่างสวยงามถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่น่าสนใจมากๆ หากเบื่อการชมหมอกจากทางภาคเหนือแล้วก็ย้ายมาดูหมอกจากทางภาคใต้กันบ้าง ที่นี่จะมีจุดชมทะเลหมอกได้ 2 ที่ คือบริเวณทางด่านล่างของเขา และ ด้านบนของภูเขา ที่จะมีความสวยงามของทะเลหมอกต่างไปคนละแบบคนละมุม
เป็นยังไงบ้างครับกับ
สถานที่เที่ยวที่ให้ไปนอนดูดาว พร้อมชมทะเลหมอกกันในช่วงหน้าหนาวที่จะถึงนี้ อีกทั้งหากใครที่ไม่อยากขึ้นไปชมในช่วงเทศกาลก็ลองหาวันว่าง ๆเคลียร์ตัวเองแล้วไปสัมผัสอากาศเย็นพร้อมความสวยงามของ
ทะเลหมอกเผื่อผ่อนคลายจากการทำงาน เพราะบางจุดนั้นเราสามารถเดินทางขึ้นไปชมทะเลหมอกกันได้ทั้งปีอีกด้วยนะครับ
READ MORE :
► 5 ประเทศน่าเที่ยวแบบไม่ต้องทำวีซ่า
► 4 เมืองท่องเที่ยวในญี่ปุ่นไปได้ทั้งปี
► 4 สถานที่ Countdown ระดับโลก