การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนด้วยตัวเองเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและน่าท้าทาย เพราะจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้หลายคนรู้สึกกังวลหากไม่เคยไปมาก่อน ซึ่งการวางแผนการเดินทางและเลือกจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมจะช่วยให้การเที่ยวของเราราบรื่นยิ่งขึ้น
และในช่วงปลายปีแบบนี้หากเราต้องการที่จะไปเที่ยวจีนด้วยตัวเองครั้งแรก ควรไปที่เมืองไหนดี และก่อนไปเที่ยวจีนต้องเตรียมอะไรบ้าง วันนี้พี่หมี TQM มีข้อมูลการเที่ยวประเทศจีนมาฝากกันครับ

แนะนำ 7 เมืองสุดฮิตสำหรับมือใหม่เที่ยวจีนด้วยตัวเอง
1. ปักกิ่ง (Beijing)
ปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดสำหรับการเดินทางครั้งแรก ที่นี่คุณจะได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมจีนและประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน โดยเฉพาะสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และทางการเมืองของจีน โดยหากเลือกไปเที่ยวปักกิ่งครั้งแรกนั้นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยมีดังนี้
- กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China) : หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนเมื่อไปเที่ยวปักกิ่งครั้งแรก การเดินชมความยาวและความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีนจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม
- จัตุรัสเทียนอันเหมิน (Tiananmen Square) : จตุรัสกลางเมืองขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าทางเข้าของพระราชวังต้องห้าม เป็นสถานที่สำคัญเหตุการณ์ทางการเมืองและประวัติศาสตร์ของจีน นอกจากนี้ยังสามารถเดินดูนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จีน , อนุสาวรีย์วีรชน ได้ที่นี่ด้วยเช่นกัน
- พระราชวังต้องห้าม (The Forbidden City) : พระราชวังเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายร้อยปีและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ที่นี้เต็มไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมจีนโบราณ มีการจัดแสดงศิลปวัตถุและสมบัติของราชวงศ์หมิงและชิง

2. เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)
เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความทันสมัยและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่มีเสน่ห์จากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและความเป็นเมืองสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว มีตึกระฟ้าและแหล่งช้อปปิ้งระดับโลก จึงทำให้เซี่ยงไฮ้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีแพลนเที่ยวจีนครั้งแรก สถานที่ที่ควรไปเมื่อไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ ได้แก่
- เดอะบันด์ (The Bund) : ถนนเลียบแม่น้ำหวงผู่ แม่น้ำสายสำคัญของเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่นี่เต็มไปด้วยตึกสูงสไตล์แบบยุโรป สถานที่นี้เป็นจุดเดินเล่นและจุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยว และใครที่เป็นสายช้อปที่นี่ก็มีช้อปสินค้าแบรนด์เนมให้ได้เดินเลือกซื้อกันอีกด้วย
- เซี่ยงไฮ้ ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland) : เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญในเซี่ยงไฮ้ เป็นสวนสนุกในเครือดิสนีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยนำเสนอความมหัศจรรย์และแฟนตาซีในสไตล์ดิสนีย์ ผสมผสานวัฒนธรรมจีนเข้ากับโลกแห่งจินตนาการของดิสนีย์ มีโซนต่างๆมากมาย เช่น Zootopia , Mickey Avenue , Tomorrowland และ Pixar Toy Story Land และอีกมากมาย
- สวนอี้หยวน (Yuyuan Garden) : สวนสไตล์จีนโบราณในใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ที่มีการจัดตกแต่งสวนอย่างสวยงาม และยังเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนและชื่นชมความงามของธรรมชาติและศิลปะ มีสถาปัตยกรรมโบราณที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม มีศาลาหินที่งดงามซึ่งตั้งอยู่ริมสระน้ำ สร้างขึ้นจากหยกขาวและหินอ่อน
.jpg)
3. จางเจียเจี้ย (Zhangjiajie)
จางเจียเจี้ย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน จุดเด่นของจางเจียเจี้ยได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างฉากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Avatar ทำให้สถานที่นี้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากมาสัมผัส โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดก็คือ
- อุทยานจางเจียเจี้ย ( Zhangjiajie National Forest Park) : อุทยานแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะมรดกโลกของยูเนสโก และเป็นแรงบันดาลใจของฉากภูเขาลอยในภาพยนตร์ Avatar คุณจะได้เห็นยอดเขาหินทรายที่สลับซับซ้อนและทะยานขึ้นจากพื้นดินอย่างสวยงามตระการตา
- สะพานแก้วจางเจียเจี้ย (Zhangjiajie Glass Bridge) : สะพานแก้วที่ยาวและสูงที่สุดในโลก ามหุบเขาลึก ให้คุณได้ชมวิวทิวทัศน์ของหุบเขาที่สวยงามจากมุมมองที่ตื่นเต้นเร้าใจ นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมเดินเล่นหรือทดสอบความกล้าด้วยการมองลงไปยังพื้นแก้วที่ใสกริบ
- เขาเทียนเหมินซาน (Tianmen Mountain) : เขาเทียนเหมินซาน มีฉายาว่า "ประตูแห่งสวรรค์" โพรงหินขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ บนภูเขานี้ยังมีการนั่งกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก เพื่อชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของหุบเขาเส้นทางขึ้นลงที่คดเคี้ยวตามแนวภูเขา นอกจากนี้ยังมีทางเดินกระจกที่สร้างไว้รอบหน้าผาให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ตื่นเต้น

4. เฉิงตู (Chengdu)
เป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับโลกในฐานะบ้านเกิดของหมีแพนด้า สัตว์ประจำชาติของจีนนอกจากนั้นยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาหารรสชาติจัดจ้านอย่าง หม้อไฟเสฉวน น้ำซุปหม่าล่าที่เผ็ดร้อน พร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลายชนิด จึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติและสัตว์ป่า โดยหากไปเฉิงตูควรจะไปตามพิกัดเหล่านี้
- ภูเขาชิงเฉิง (Mount Qingcheng) : ภูเขาชิงเฉิงเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่งดงามและมีความสำคัญทางวัฒนธรรม เนื่องจากเป็นแหล่งกำเนิดของลัทธิเต๋า (Daoism) บนภูเขามีวัดและวิหารโบราณที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นไปเพื่อชมวิวทิวทัศน์และศึกษาเกี่ยวกับปรัชญาเต๋าได้ เส้นทางเดินป่าและการนั่งกระเช้าลอยฟ้ายังเป็นกิจกรรมที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว
- ถนนโบราณจินหลี่ (Jinli Ancient Street) : ถนนคนเดินจิ๋นหลี่เป็นถนนโบราณที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีนดั้งเดิมและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย ที่นี่คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศของยุคราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิง ทั้งยังมีร้านค้าที่ขายของที่ระลึก สินค้าหัตถกรรม และร้านอาหารสตรีทฟู้ดมากมายที่เสิร์ฟอาหารพื้นเมืองรสชาติเข้มข้น
- ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ (Chengdu Research Base of Giant Panda Breeding) : ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้าในเฉิงตูนี้เป็นสถานที่ที่ให้ผู้คนได้มีโอกาสใกล้ชิดกับแพนด้าและเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์สัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ภายในศูนย์มีพื้นที่กว้างขวางและจัดแสดงแพนด้าทั้งในวัยเด็กและวัยโต การเยี่ยมชมในช่วงเช้าจะได้เห็นแพนด้าช่วงเวลารับประทานอาหารและเล่นสนุก

5. ซีอาน (Xi'an)
ซีอานเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความรุ่งเรืองของอารยธรรมจีนโบราณผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ และซีอานเองก็ยังเป็นเมืองปลายทางของเส้นทางสายไหม มีประวัติศาสตร์จีนยาวนานกว่า 3,000 ปี สถานที่ท่องเที่ยวหลักในซีอาน มีดังนี้
- สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้และนักรบดินเผา (Terracotta Army) : เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกที่น่าทึ่ง สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งมีนักรบดินเผาหลายพันตัวที่ถูกฝังพร้อมกับจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ นักรบเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องจักรพรรดิในโลกหลังความตาย แต่ละตัวมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไปตามตำแหน่งในกองทัพ
- กำแพงเมืองโบราณซีอาน (Xian City Wall) : กำแพงเมืองโบราณที่ยังคงรักษาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ มีความยาวประมาณ 13.7 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือเช่าจักรยานเพื่อปั่นชมวิวบนกำแพงนี้ ซึ่งให้ทัศนียภาพที่สวยงามของเมืองทั้งในและนอกกำแพง โดยเฉพาะในช่วงเย็นเมื่อไฟประดับเมืองสว่างไสว
- เจดีย์ห่านป่าใหญ่ (Giant Wild Goose Pagoda) : เจดีย์ห่านป่าใหญ่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 ในสมัยราชวงศ์ถัง เพื่อเก็บรักษาคัมภีร์และพระพุทธรูปที่นำมาจากอินเดียโดยพระถังซัมจั๋ง เจดีย์มีความสูง 7 ชั้นและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางศาสนาที่สำคัญของซีอาน ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในจีน และสามารถขึ้นไปชมวิวของเมืองจากเจดีย์ได้

6. กุ้ยหลิน (Guilin)
กุ้ยหลิน เป็นที่รู้จักจากภูมิประเทศที่โดดเด่นของภูเขาหินปูนและแม่น้ำหลีเจียง ที่สวยงาม เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและทัศนียภาพที่สวยงามของภูเขา แม่น้ำ และถ้ำที่แปลกตา ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในกุ้ยหลิน มีดังนี้
- แม่น้ำหลีเจียง (Lijiang River) : แม่น้ำหลีเจียงเป็นไฮไลต์หลักของการเที่ยวกุ้ยหลิน การล่องเรือในแม่น้ำหลีเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เนื่องจากคุณจะได้เห็นทัศนียภาพของภูเขาหินปูนที่ตั้งเรียงรายอย่างงดงามไปตามแม่น้ำ
- ถ้ำขลุ่ยอ้อ (Reed Flute Cave) : ถ้ำขลุ่ยอ้อเป็นถ้ำหินปูนที่มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามและเต็มไปด้วยสีสันจากแสงไฟที่ประดับประดาอยู่ภายใน ตัวถ้ำมีความยาวประมาณ 240 เมตร และมีชื่อเสียงจากการเป็น "พระราชวังใต้ดิน" ภายในมีหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างหลากหลายและดูตระการตา
- เขางวงช้าง (Elephant Trunk Hill) : เป็นสัญลักษณ์ของเมืองกุ้ยหลิน มีลักษณะคล้ายช้างที่กำลังใช้งวงดูดน้ำจากแม่น้ำ ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบระหว่างแม่น้ำหลีเจียงและแม่น้ำถาวฮัว บริเวณรอบเขางวงช้าง เป็นสวนสาธารณะที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยว

7. ฮาร์บิน (Harbin)
ฮาร์บิน อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน มีความโดดเด่นจากอากาศหนาวเย็นและวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากรัสเซีย เมืองนี้ได้รับฉายาว่า “เมืองแห่งน้ำแข็ง” และเป็นที่รู้จักทั่วโลกจากงานเทศกาลน้ำแข็งและหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสถานที่ท่องเที่ยวในฮาร์บิน ที่ไม่ควรพลาดมีดังนี้
- เทศกาลน้ำแข็งและหิมะฮาร์บิน (Harbin Ice and Snow Festival) : เทศกาลน้ำแข็งและหิมะฮาร์บินเป็นเทศกาลฤดูหนาวที่มีชื่อเสียงระดับโลก จัดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี นักท่องเที่ยวสามารถชมประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต มีการจัดแสงสีสันต่างๆ ทำให้ประติมากรรมยิ่งดูงดงามในยามค่ำคืน
- สวนเสือไซบีเรีย (Siberian Tiger Park) : เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองฮาร์บิน เป็นที่อยู่อาศัยของเสือไซบีเรียหรือเสือโคร่งอามูร์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์เสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถบัสพิเศษเพื่อชมเสือเหล่านี้ในสภาพแวดล้อมที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างดี
- ลานสกีหยาปู่ลี่ (Yabuli Ski Resort) : เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมฤดูหนาว โดยเฉพาะสกีและสโนว์บอร์ด มีลานสกีที่มีระยะทางรวมกว่า 30 กิโลเมตร ประกอบไปด้วยลานสกีระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับมืออาชีพ สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเล่นสกี ยังสามารถเพลิดเพลินกับการนั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวบนยอดเขา หรือสนุกกับการล่องเรือในฤดูหนาวอีกด้วย

ก่อนไปจีนต้องเตรียมอะไรบ้าง อัปเดตข้อมูล 2567
ก่อนการไปเที่ยวจีน ยิ่งถ้าหากเราไปเที่ยวจีนด้วยตัวเองครั้งแรกด้วยแล้ว การเตรียมตัวเองและเตรียมเอกสารต่างๆ ควรจัดเตรียมให้พร้อมก่อนที่จะเดินทาง โดยสิ่งที่ต้องรู้หรือต้องเตรียมก่อนไปจีนใน 2567 นั้นมีดังนี้
- เตรียมเอกสาร : ควรเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินไป-กลับ หลักฐานการจองที่พัก หนังสือเดินทาง รวมไปถึงประกันสุขภาพ หรือ ประกันเดินทาง ส่วนวีซ่าประเทศไทยและจีนได้ลงนามข้อตกลงยกเว้นวีซ่าร่วมกันตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา โดยพำนักได้ครั้งละไม่เกิน30วัน (ภายในเวลา180 วันระยะเวลาในการพำนักรวมกันต้องไม่เกิน90วัน )
- เตรียมแอปพลิเคชันที่จำเป็น : จีนเป็นประเทศที่เน้นการใช้เทคโนโลยีในการชำระเงินและการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นแอปแปลภาษา (Daxiang , Baidu Translate) หรือแม้แต่แอปสำหรับการจ่ายเงิน (Alipay , Wechat Pay) รวมไปถึงแอปสำหรับเดินทาง (Didi , MetroMan China , Baidu Map)
- การใช้อินเทอร์เน็ตในจีน : จีนมีกำแพงอินเทอร์เน็ต (Great Firewall) ที่บล็อกการเข้าถึงบางเว็บไซต์เช่น Google, Facebook, Instagram และ YouTube ซึ่งหากเราต้องการที่จะใช้งานแอปเหล่านี้จะต้องทำการเปิดบริการโรมมิ่ง จากเครือข่ายโทรศัพท์ที่ท่านใช้งานอยู่ในประเทศไทย หรือซื้อซิมเฉพาะใช้งานในต่างประเทศ ไม่ควรที่จะใช้งานระบบ VPN เนื่องจากขัดต่อกฎหมายจีน
- ปลั๊กไฟและอุปกรณ์ชาร์จ : ประเทศจีนใช้แรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 220V ส่วนปลั๊กที่สามารถใช้งานที่จีนมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ประเภท A (ปลั๊กหัวแบน สองขา) , ประเภท I (เป็นหัวแบน 3 ขา เอียงออกจากกันเป็นตัว V) และ ประเภท G (ปลั๊กหัวสี่เหลี่ยม 3 หัว)
- ฤดูกาลของจีน : ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง (เมษายน-พฤษภาคม, กันยายน-ตุลาคม): อากาศเย็นสบาย เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว , ฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม): อาจร้อนชื้นในบางพื้นที่ แต่เหมาะสำหรับการเยี่ยมชมภูเขาและพื้นที่ธรรมชาติ , ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์): ในภาคเหนือของจีนจะหนาวจัด โดยเฉพาะปักกิ่งและฮาร์บิน ควรเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม
- วันชาติจีน : หลีกเลี่ยงการเดินทางช่วงสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม เนื่องจากเป็วันชาติจีน เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองทั้งในรูปแบบพิธีการและการพักผ่อน ของชาวจีน จึงทำให้ในหลายสถานที่ท่องเที่ยวจะมีผู้คนที่หนาแน่นมาก
- ประกันเดินทางประเทศจีน : การทำประกันการเดินทาง เป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเฉพาะในเรื่องค่ารักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุในต่างประเทศ ควรเลือกแผนที่ครอบคลุมการรักษาในจีน และการยกเลิกเที่ยวบินหรือกระเป๋าหาย

การเที่ยวจีนด้วยตัวเองครั้งแรกอาจดูน่ากลัวเล็กน้อย แต่ถ้าเตรียมตัวดี การเดินทางจะสนุกและไม่มีปัญหาใด ๆ สิ่งสำคัญคือการเตรียมแผนการเดินทางล่วงหน้า เลือกเมืองที่คุณสนใจและวางแผนการเดินทางให้เหมาะสมกับเวลาและงบประมาณของคุณ และอย่าลืมที่จะทำประกันเดินทางประเทศจีน ช่วยคุ้มครองคุณจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็น คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเที่ยวบินดีเลย์ ยกเลิกเที่ยวบิน รวมไปถึงช่วยคุ้มครองกระเป๋าและสัมภาระต่างๆ ของเรา สนใจประกันเดินทางประเทศจีน กรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกัน หรือหากต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัยกับ TQM สามารถแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านเบอร์ Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ