Visa on Arrival คืออะไร เช็คข้อมูลและเงื่อนไขก่อนเดินทาง

     การเดินทางไปต่างประเทศเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องวีซ่า ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศเป้าหมายได้ หนึ่งในประเภทของวีซ่าที่ได้รับความนิยมมากคือ Visa on Arrival หรือ VOA วันนีพี่หมี TQM จะพามาทำความเข้าใจว่า Visa on Arrival คืออะไร ประเทศไหนบ้างที่สามารถใช้ได้ และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง กันครับ

Visa on Arrival คืออะไร

     Visa on Arrival คือ ระบบวีซ่าที่ให้ผู้เดินทางสามารถขอวีซ่าได้เมื่อเดินทางถึงสนามบินหรือด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทาง โดยไม่ต้องยื่นขอล่วงหน้า การขอวีซ่าประเภทนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการเดินทางแบบเร่งด่วน หรือไม่มีเวลายื่นวีซ่าก่อนการเดินทาง โดยก่อนการเดินทางจะต้องเตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการยื่น Visa on Arrival ให้เรียบร้อยก่อน อย่างไรก็ตาม การได้รับ Visa on Arrival ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละประเทศ และผู้เดินทางต้องตรวจสอบข้อกำหนดให้ละเอียดก่อนออกเดินทางด้วยนะครับ

 

Visa on Arrival มีกี่ประเทศ

     ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ให้บริการ Visa on Arrival แก่นักเดินทางจากประเทศต่าง ๆ ซึ่งแต่ละประเทศจะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งประเทศที่ให้บริการ Visa on Arrival ตามภูมิภาคหลัก ๆ ดังนี้

 

1. Visa on Arrival ประเทศในเอเชีย

• • ไทย (สำหรับนักท่องเที่ยวบางประเทศ)
  • อินเดีย
  • มัลดีฟส์
  • ศรีลังกา
  • เนปาล
  • กัมพูชา
  • ลาว
  • เมียนมา
  • อินโดนีเซีย
  • เวียดนาม (เฉพาะบางกรณี)

 

2. Visa on Arrival ประเทศในยุโรป

• • ตุรกี
  • ยูเครน
  • อาร์เมเนีย

 

3. Visa on Arrival ประเทศในแอฟริกา

• • อียิปต์
  • เคนยา
  • มาดากัสการ์
  • เอธิโอเปีย

 

4. Visa on Arrival ประเทศในอเมริกาใต้

• • โบลิเวีย
  • เอกวาดอร์

     อย่างไรก็ตาม รายชื่อประเทศที่รองรับ Visa on Arrival อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามนโยบายของแต่ละประเทศ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับสถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนเดินทาง

Visa on Arrival ที่ประเทศไทยรองรับมีประเทศไหนบ้าง

     สำหรับประเทศและดินแดนที่สามารถขอรับการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival: VOA) ที่ประเทศไทยรองรับ และพำนักได้ไม่เกิน 15 วัน มีรายชื่อดังนี้ (ข้อมูลจาก กรมการกงสุล อัปเดต ณ วันที่15 กรกฎาคม 2567)

• • อาร์เมเนีย
  • เบลารุส
  • ภูฏาน*
  • โบลิเวีย
  • บัลแกเรีย*
  • จีน*
  • คอสตาริกา
  • ไซปรัส*
  • เอลซัลวาดอร์
  • เอธิโอเปีย
  • ฟีจี*
  • จอร์เจีย*
  • อินเดีย*
  • คาซัคสถาน*
  • คีร์กีซสถาน
  • มอลตา*
  • เม็กซิโก*
  • นามิเบีย
  • นาอูรู
  • ปาปัวนิวกินี*
  • ปารากวัย
  • โรมาเนีย*
  • รัสเซีย*
  • ซาอุดีอาระเบีย*
  • เซอร์เบีย
  • เซเชลส์
  • ไต้หวัน*
  • อุซเบกิสถาน*
  • ตูนิเซีย
  • วานูอาตู
  • เวเนซุเอลา

หมายเหตุ
* ขณะเดียวกันประเทศและดินแดนเหล่านี้ ได้รับสิทธิยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว ทํางาน หรือการติดต่อธุรกิจระยะสั้น สามารถพํานักได้ไม่เกิน 60 วัน

Visa on Arrival ใช้เอกสารอะไรบ้าง

     การขอ Visa on Arrival นั้นจำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ แต่โดยทั่วไปแล้วเอกสารพื้นฐานที่ต้องใช้มีดังนี้

• • หนังสือเดินทาง (Passport) : ต้องมีอายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันที่เดินทางเข้า และต้องมีหน้าว่างสำหรับการประทับตราวีซ่า
  • แบบฟอร์มขอวีซ่า  : สามารถขอและกรอกได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของประเทศปลายทาง
  • รูปถ่าย : บางประเทศกำหนดให้ใช้รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต ต้องเป็นรูปสี พื้นหลังขาว ไม่มีหมวกหรือแว่นตากันแดด
  • ตั๋วเครื่องบินขาออก : ต้องมีตั๋วเครื่องบินที่แสดงให้เห็นว่าคุณจะเดินทางออกจากประเทศนั้นภายในเวลาที่กำหนด บางประเทศไม่อนุญาตให้ขอวีซ่าหากไม่มีตั๋วเครื่องบินขากลับ
  • หลักฐานการเงิน : บางประเทศต้องใช้หลักฐานการเงิน เช่น ใบแจ้งยอดบัญชีธนาคารหรือเงินสดในสกุลเงินท้องถิ่น เพื่อแสดงว่ามีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายระหว่างการพำนัก
  • หลักฐานการจองที่พัก : เพื่อใช้ใช้เป็นหลักฐานว่าคุณมีที่พักระหว่างการเดินทาง เช่น ใบจองโรงแรม เป็นต้น
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่า : ค่าใช้จ่ายในการขอ Visa on Arrival ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศ และมักต้องจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิต

     Visa on Arrival ถือเป็นอีกทางเลือกที่สะดวกสำหรับนักเดินทางที่ไม่ต้องการทำเรื่องขอวีซ่าล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศมีข้อกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ให้ดีก่อนออกเดินทาง อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ คือการทำประกันการเดินทาง ช่วยให้ทริปเที่ยวไม่สะดุดคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล , ถูกยกเลิกเที่ยวบิน , ความล่าช้าของเที่ยวบิน หรือกระเป๋าเดินทางหาย สนใจประกันการเดินทางกับ TQM สามารถกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันที่ตรงใจคุณ หรือทักแชทหาพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ