ท้ายชนท้าย
กลายเป็น (เรื่อง) รัก
ใครว่า “ใครผิด” มีแต่สถานการณ์หัวร้อน คราวนี้เหตุบังเอิญของคนสองคนที่ถอยท้ายมาชนกันตรงหน้าบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ จนเกิดเรื่องราวความรัก เอ้ย! อุบัติเหตุขึ้น…

‘มิกกี้’ นักศึกษาสาวสุดสวย แต่ซ่อนรูปไว้ภายใต้แว่นตากรอบหนา และอาภรณ์สุดเชยที่เธอมักจะใส่เป็นประจำ เธอแอบหลงรัก ‘คุณพฤกษ์’ หนุ่มนักธุรกิจมาดเท่ที่อาศัยอยู่ข้างบ้านของ ‘แมวเหมียว’ เพื่อนสนิท ทำให้เธอมักจะแวะเวียนมาแอบส่องอยู่เป็นประจำ แม้โอกาสที่จะได้เจอจะน้อยก็ตาม
แต่แล้วในวันนี้หลังทำรายงานเสร็จ เมื่อ ‘มิกกี้’ กำลังจะกลับบ้าน พรหมลิขิตก็เป็นใจให้เธอพบกับ ‘คุณพฤกษ์’ ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด!
ขณะที่ ‘มิกกี้’ ซึ่งจอดรถขนานกับแนวรั้วหน้าบ้านของแมวเหมียวกำลังถอยรถตั้งลำอยู่
ประจวบกับจังหวะเหมาะกับที่ ‘คุณพฤกษ์’ กำลังถอยรถออกจากบ้านพอดี
ด้วยความไม่ทันระวังทำให้ ‘มิกกี้’ ถอยเพลินจนกินพื้นที่มาบริเวณหน้าบ้าน ‘คุณพฤกษ์’ แล้วเบรกไม่อยู่ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น!
เมื่อรถทั้งสองคันถอยมาปะทะกันอย่างจัง ทั้งคู่จึงรีบวิ่งลงเคลียร์กันทันที โดยที่ ‘คุณพฤกษ์’ หนุ่มสุดเนี้ยบมาด้วยอารมณ์คุกรุ่นเต็มที่ ในขณะที่มิกกี้นั้นมีแต่ความเขินปนหวาดกลัวที่จะต้องเผชิญหน้าตรงๆ กับคนที่เธอแอบมองมาร่วมปีเป็นครั้งแรก
เมื่อแรกพบสบตาทั้งคู่ต่างก็เกิดความรู้สึกบางอย่าง ทำให้ทั้ง ‘คุณพฤกษ์’ และ ‘มิกกี้’ แสร้งโมโหกลบเกลื่อนสิ่งที่อยู่ในใจ
เดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ประกันต้องมาเป็นสะพานเชื่อมความรักของคนทั้งคู่ เอ้ย มาคลี่คลายสถานการณ์วุ่นวายที่อยู่ตรงหน้า
เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ประกันภัยโผล่มาทั้งคู่เลยทำเป็นฟังอย่างตั้งใจ
แต่ทว่าใบหน้าสองคนกลับเต็มไปด้วยรอยแดงเรื่อจากความเขินอายทุกครั้งสองสายตามาประสบกันโดยไม่ตั้งใจ จนเจ้าหน้าที่ประกันภัยต้องกระแอม เรียกสติก่อนแถลงการณ์ต่อ…
เจ้าหน้าที่ประกันภัยยังคงทำหน้าที่ของตนอย่างตั้งใจด้วยสีหน้าจริงจัง
ก่อนจะรีบตัดบทสนทนาให้จบแบบกระชับได้ใจความ โดยทั้ง ‘คุณพฤกษ์’ และ ‘มิกกี้’ ก็ยินดีที่จะยอมรับความผิดอย่างเต็มใจ
และแล้วเหตุการณ์ครั้งก็จบลงด้วยดี โดยที่ความรักของ ‘คุณพฤกษ์’ และ ‘มิกกี้’ นั้นกำลังเริ่มต้นขึ้น…
สรุป*
คุณพฤกษ์ และ มิกกี้ ต่างฝ่ายต่างประมาท โดยปราศจากความระมัดระวังซึ่งบุคคลในภาวะเช่นนั้นจักต้องมีตามวิสัยและพฤติการณ์ และผู้ขับขี่อาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ แต่หาได้ใช้ให้เพียงพอไม่ เป็นการฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๓(๔)(๕)(๘) และ ๑๒๐ โดยผู้ขับขี่ต้องขับรถถอยหลังในลักษณะที่ปลอดภัยหรือไม่เป็นการกีดขวางการจราจร โดยไม่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายทั้งต้องคำนึงถึงในลักษณะที่ไม่ผิดปกติวิสัยของการขับรถธรรมดา หรือไม่อาจแลเห็นทางด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านได้พอแก่ความปลอดภัย อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นได้
เกร็ดความรู้เรื่องกฎหมาย*
มาตรา ๔๓ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ
(๔) โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน
(๕) ในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถธรรมดา หรือไม่อาจแลเห็นทางด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านได้พอแก่ความปลอดภัย
(๘) โดยไม่คำนึงความปลอดภัย หรือความเดือนร้อนของผู้อื่น
มาตรา ๑๒๐ ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถถอยหลังในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยหรือเป็นการกีดขวางการจราจร
หมายเหตุ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นการพิจารณาว่าฝ่ายใดประมาทนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่างๆ คำถามต้องให้ชัดเจน มิฉะนั้นอาจทำให้ตอบคลาดเคลื่อนได้