ฝนตกรถเสียหลักลงข้างทาง ประกันชั้นไหนคุ้มครอง

     ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ผู้ใช้รถต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ เพราะเป็นช่วงที่มักเกิดอุบัติเหตุ รถเสียหลักลงข้างทางได้เนื่องจากฝนที่ตกลงมาทำถนนลื่น เราจะเห็นได้จากตามข่าวอุบัติเหตุรถไถลลงข้างทางในช่วงฝนตกอยู่เป็นประจำ ซึ่งตามมาทั้งความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แล้วอย่างนี้แล้วหากฝนตก ถนนลื่น ทำรถเสียหลักลงข้างทาง ต้องทำอย่างไร ประกันชั้นไหนคุ้มครองบ้าง วันนี้พี่หมี TQM มีคำตอบมาฝากครับ

ประกันรถยนต์ชั้นไหน ให้ความคุ้มครองรถเสียหลักลงข้างทาง

ประกันรถยนต์ชั้น 1

     ประกันชั้น 1 ถือเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองต่อความเสียหายต่อรถยนต์ที่ทำประกันในกรณีรถชนทั้งแบบมีคู่กรณีและการชนแบบไร้คู่กรณี รถชนเสาไฟฟ้า รถชนต้นไม้ หรือแม้แต่รถเสียหลักลงข้างทาง นอกจากนี้แล้วประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังให้ความคุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถ ไฟไหม้รถ รถหาย อีกด้วย แต่ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์แต่ละบริษัทด้วยนะครับ

 

     แต่ส่วนประกันชั้น 2+ จะให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายของรถยนต์คันเอาประกันภัยเมื่อเกิดเหตุชนแบบมีคู่กรณีเท่านั้น และประกันชั้น 3+ นั้นให้ความคุ้มครองเฉพาะกรณีชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น

ขับรถตกข้างทาง ต้องทำอย่างไร

• ตั้งสติ : แน่นนอนว่าสิ่งที่เราควรทำมากที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์รถเสียหลักลงข่้างทาง หรือเกิดอุบัติเหตุ สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งสติให้มั่นคง อย่าตื่นตระหนก การตั้งสติจะช่วยให้เราจัดการกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ดีขึ้น 
• เปิดไฟฉุกเฉิน : เพื่อเป็นการแจ้งเตือน ส่งสัญญาณให้รถคันที่ตามมารู้ว่ารถเราเกิดอุบัติเหตุ รวมไปถึงหากเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ ให้ปิดเครื่องยนต์เพื่อป้องกันไฟไหม้หรือการระเบิด
• ออกจากรถ :  ถ้ายังสามารถออกจากรถได้ ควรออกจากรถอย่างระมัดระวังและอยู่ในที่พื้นที่ที่ปลอดภัย ห่างจากถนน ป้องกันรถที่ขับตามมาเฉี่ยวชนเรา
• โทรแจ้งตำรวจหรือหน่วยกู้ภัย : แจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแจ้งตำแหน่งที่คุณอยู่ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่
• โทรแจ้งบริษัทประกันภัย : ถ้าคุณมีประกันภัยรถยนต์ ให้ติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อแจ้งเหตุและขอคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการเคลมประกันรถยนต์ต่อไป

วิธีป้องกันขับรถตกข้างทางในช่วงฝนตกถนนลื่น

• ลดความเร็ว : ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนนและการมองเห็นที่จำกัด การขับเร็วเกินไปอาจทำให้ควบคุมรถได้ยากขึ้นในสภาพถนนที่ลื่น ซึ่งควรใช้ความเร็วอยู่ที่ 40-60 กิโลเมตร
• เปิดไฟหน้า : เปิดไฟหน้าเพื่อเพิ่มการมองเห็นของคุณและเพื่อให้ผู้ขับขี่คนอื่นสามารถมองเห็นคุณได้ง่ายขึ้น 
• เพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้า : เพิ่มระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ควรเว้นระยะห่าง 4-5 วินาที ไม่ควรขับใกล้กับรถคันข้างหน้า เผื่อกรณีที่จำเป็นต้องเบรกรถกะทันหัน และหลีกเลี่ยงการเบรกอย่างกระทันหันเพื่อเป็นการป้องกันล้อหมุนและการลื่นไถล
• เช็คที่ปัดน้ำฝน : ตรวจสอบให้แน่ใจว่าที่ปัดน้ำฝนอยู่ในสภาพดีและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ตรวจสอบยางรถยนต์ : ในช่วงหน้าฝนควรตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ของรถให้พร้อมต่อการใช้งาน โดยเฉพาะยางรถยนต์ ควรเช็คความดันลมที่เหมาะสมและมีร่องลึกพอที่จะรีดน้ำออกจากพื้นผิวถนน
• ระวังแอ่งน้ำ : หลีกเลี่ยงการขับผ่านแอ่งน้ำลึกเพราะอาจทำให้เกิดอาการรถเหินน้ำ (hydroplaning) และทำให้รถสูญเสียการควบคุม รถเสียหลักลงข้างทางได้

     ในการขับรถช่วงหน้าฝนนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขับด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยฝนที่ตกลงมาทำให้ทัศนียภาพการมองเห็นลดลง รวมไปถึงพื้นถนนลื่น เสี่ยงต่อการทำให้รถตกไถลตกข้างทางได้หากขับมาด้วยความไม่ระวัง แต่เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าหากทำประกันชั้น 1 ก็จะให้ความคุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุ อย่างหากขับรถตกข้างทาง ประกันชั้น 1 ก็ยังให้ความคุ้มครอง หากสนใจประกันชั้น 1 สามารถเช็คเบี้ย เปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์ชั้น 1 ด้วยตัวเอง พร้อมบริการเสริมผ่อนได้ 0% สนใจคลิกเลยที่นี่

 

     หรือหากต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัยกับ TQM สามารถแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านเบอร์ Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ