24/10/67

|

อ่านแล้ว 709 ครั้ง

เบี้ยประกันรถยนต์ ถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับอะไร? ไขทุกปัจจัยที่คุณควรรู้!

    เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไม เบี้ยประกันรถยนต์ ของแต่ละคนถึงไม่เท่ากัน บางคนจ่ายแพง บางคนจ่ายถูก ซึ่งความจริงแล้วเบี้ยประกันไม่ได้ถูกกำหนดแค่ตามประเภทของประกันเท่านั้นนะครับ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่เข้ามามีผลด้วย วันนี้พี่หมี TQM จะมาดูกันครับว่าเบี้ยประกันรถยนต์ ถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อประกันรถให้เหมาะกับคุณ

 

1. ประเภทของประกันภัยรถยนต์

    หนึ่งในปัจจัยที่ชัดเจนที่สุดที่ส่งผลต่อเบี้ยประกันก็คือประเภทของประกันที่คุณเลือกครับ ประกันรถยนต์มีหลายแบบให้เลือก ทั้งชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 2+ และชั้น 3 แต่ละแบบมีความคุ้มครองต่างกัน ซึ่งแน่นอนว่าเบี้ยประกันก็จะแตกต่างกันไปด้วย

 

ประกันภัยชั้น 1

    ประกันชั้น 1 ถือว่าเป็นตัวท็อปเลยครับ ให้ความคุ้มครองแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุทั่วไป รถชน รถหาย ไฟไหม้ หรือแม้กระทั่งภัยธรรมชาติ อย่างน้ำท่วม แน่นอนว่าความคุ้มครองเยอะขนาดนี้ เบี้ยประกันก็มักจะสูงกว่าประกันชั้นอื่น ๆ ครับ

 

ประกันภัยชั้น 2 และ 2+

    ประกันชั้น 2 ให้ความคุ้มครองที่น้อยกว่าชั้น 1 ครับ โดยจะคุ้มครองรถหายและไฟไหม้เท่านั้น ส่วนชั้น 2+ จะเพิ่มการคุ้มครองอุบัติเหตุเฉพาะคู่กรณีเข้ามา แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ครอบคลุมความเสียหายของรถเราเองครับ ทำให้เบี้ยประกันชั้น 2+ ถูกลงเมื่อเทียบกับชั้น 1

 

ประกันภัยชั้น 3 และ 3+

    สำหรับใครที่มองหาประกันราคาถูกที่สุด ประกันชั้น 3 ก็ถือว่าตอบโจทย์ครับ แต่ต้องเข้าใจว่าความคุ้มครองน้อยมาก จะคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น ส่วนชั้น 3+ จะเพิ่มการคุ้มครองในกรณีรถเรามีคู่กรณีด้วย แต่ก็ยังจำกัดอยู่ครับ

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ TQM

2. รุ่นและยี่ห้อของรถยนต์

    รุ่นและยี่ห้อของรถยนต์ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์ครับ รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงหรือเป็นรุ่นที่อะไหล่หายาก จะมีเบี้ยประกันที่แพงกว่า เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและความเสี่ยงต่อการถูกขโมยสูงครับ

 

รถหรูหรือรถราคาสูง

    ถ้าคุณขับรถยนต์หรูหรา เช่น Mercedes-Benz หรือ BMW คุณอาจจะต้องเตรียมตัวจ่ายเบี้ยประกันที่สูงกว่ารถทั่วไปครับ เพราะการซ่อมรถเหล่านี้ใช้ค่าใช้จ่ายสูง ทำให้เบี้ยประกันสูงตามไปด้วย

 

รถยนต์เก่า

    รถยนต์ที่มีอายุมากก็อาจต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงขึ้นเช่นกันครับ เพราะรถที่ใช้มานานแล้วมีโอกาสเสียหายง่ายกว่า และค่าซ่อมแซมก็อาจสูงขึ้นตามอายุของรถ

รุ่นของรถยนต์ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อเบี้ยประกันรถยนต์

3. ประวัติการขับขี่

    ประวัติการขับขี่ก็ส่งผลไม่น้อยครับ คนที่มีประวัติการเคลมประกันบ่อย ๆ หรือเคยมีอุบัติเหตุ บริษัทประกันจะมองว่ามีความเสี่ยงมากกว่า ทำให้เบี้ยประกันแพงขึ้น แต่ถ้าคุณมีประวัติการขับขี่ที่ดี ไม่เคยเคลมประกันหรือเกิดอุบัติเหตุเลย คุณก็มีโอกาสได้รับส่วนลดพิเศษจากบริษัทประกัน ทำให้เบี้ยถูกลงได้ครับ

 

ขับรถปลอดภัย ได้ส่วนลด

    หากคุณเป็นคนขับรถระมัดระวัง ไม่เคยมีอุบัติเหตุหรือต้องเคลมประกันมาก่อน ก็อาจได้ส่วนลดพิเศษจากบริษัทประกันครับ ซึ่งช่วยลดเบี้ยประกันได้มากเลยทีเดียว

 

เคลมบ่อย เบี้ยเพิ่ม

    ในทางกลับกัน หากคุณมีประวัติการเคลมประกันบ่อย เบี้ยประกันก็จะถูกปรับให้สูงขึ้นเพราะบริษัทประกันจะมองว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเคลมประกันอีกในอนาคตครับ

 

อายุและเพศของผู้ขับขี่

    บริษัทประกันมักจะพิจารณาอายุและเพศของผู้ขับขี่ในการคำนวณเบี้ยประกันครับ คนที่อายุน้อยกว่า 25 ปี หรือเพศชายมักจะต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงกว่า เนื่องจากสถิติแสดงให้เห็นว่าคนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ

 

ผู้ชายอาจจ่ายแพงกว่า

    จากสถิติพบว่าผู้ชายมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่าผู้หญิงครับ ทำให้ผู้ชายมักต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงกว่าผู้หญิงเล็กน้อย

 

อายุมีผลต่อเบี้ยประกัน

    คนที่อายุน้อยกว่า 25 ปี มักถูกมองว่ามีประสบการณ์ขับขี่น้อย ทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่าคนที่มีอายุมาก เบี้ยประกันจึงแพงกว่าเล็กน้อยครับ

 

5. พื้นที่การใช้งาน

    ถ้าคุณขับรถในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่นหรือมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุสูง เช่น ในเมืองใหญ่ เบี้ยประกันจะสูงขึ้นครับ เนื่องจากความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุมากกว่าพื้นที่ที่มีการจราจรน้อย อย่างในชนบท

 

พื้นที่เมืองใหญ่

    หากคุณใช้งานรถยนต์ในกรุงเทพฯ หรือพื้นที่ที่มีความหนาแน่นสูง มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมาก เบี้ยประกันจะสูงขึ้นครับ

 

พื้นที่ชนบท

    ถ้าคุณขับรถในพื้นที่ชนบทหรือที่มีความเสี่ยงน้อย บริษัทประกันอาจคำนวณเบี้ยประกันในอัตราที่ถูกลง เนื่องจากโอกาสเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าครับ

ปัจจัยส่งผลให้เบี้ยประกันรถยนต์แพง

6. การเลือกความคุ้มครองเสริม

    การเลือกซื้อความคุ้มครองเสริม เช่น คุ้มครองผู้โดยสาร คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หรือคุ้มครองกระจก ก็มีผลต่อเบี้ยประกันครับ ความคุ้มครองเสริมยิ่งมาก เบี้ยประกันก็จะสูงขึ้น แต่ก็ช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้ขับขี่ได้มากขึ้นเช่นกัน

 

    เบี้ยประกันรถยนต์ จะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยครับ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของประกัน ลักษณะของรถยนต์ ประวัติการขับขี่ อายุและเพศของผู้ขับขี่ พื้นที่ใช้งาน รวมถึงการเลือกความคุ้มครองเสริม สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อเบี้ยประกันทั้งสิ้น การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการและสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ตามงบประมาณที่คุณตั้งไว้ และหากคุณกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความคุ้มครองและตรงกับงบประมาณของคุณ อย่าลืม เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อผ่านทางเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ได้แผนประกันที่คุ้มค่าที่สุดและครอบคลุมทุกความต้องการ

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง