24/12/67

|

อ่านแล้ว 1,346 ครั้ง

เมาแล้วขับ ถ้าเกิดอุบัติเหตุ เคลมประกันรถยนต์ได้ไหม

    การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบางโอกาสอาจดูเป็นเรื่องปกติสำหรับหลายคน แต่หากต้องขับรถหลังจากดื่ม อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุและผลกระทบทางกฎหมายที่ร้ายแรง หลายคนอาจสงสัยว่า เมาแค่ไหนถึงเรียกว่าเมาแล้วขับ และหาก เมาแล้วชน ประกันจ่ายไหม หรือ เมาแล้วเกิดอุบัติเหตุ พ.ร.บ. จ่ายไหม วันนี้พี่หมี TQM จะพาคุณทำความเข้าใจระดับแอลกอฮอล์ที่กฎหมายกำหนด ความคุ้มครองของประกันภัย และคำแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจากการเมาแล้วขับ เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือและตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมในทุกสถานการณ์บนท้องถนน!

 

เมาแล้วขับคืออะไร?

    "เมาแล้วขับ" หมายถึง การขับรถในขณะที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจ ความสามารถในการควบคุมรถ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

เมาแค่ไหนถึงเรียกว่าเมาแล้วขับ

เมาแค่ไหนถึงเรียกว่าเมาแล้วขับ

    ตามกฎหมายจราจรทางบกในประเทศไทย ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ถือว่าเมาสุราและห้ามขับรถคือ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างไรก็ตาม มีบางกรณีที่ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ถือว่าเมาสุราจะลดลงเหลือ 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ได้แก่

 

  1. ผู้ขับขี่อายุต่ำกว่า 20 ปี
  2. ผู้ขับขี่ที่ถือใบขับขี่ชั่วคราว
  3. ผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบขับขี่
  4. ผู้ขับขี่ที่อยู่ระหว่างถูกพักใช้ใบขับขี่

 

    หลายคนอาจสงสัยว่า เราจะทราบได้อย่างไรว่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของเรานั้นเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์หรือไม่ เนื่องจากเราไม่มีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์เหมือนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ ในความเป็นจริง ร่างกายของแต่ละคนมีการดูดซับและขับแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายที่แตกต่างกัน ทางที่ดีที่สุดคือ หลีกเลี่ยงการดื่มแล้วขับโดยเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวคุณเองและผู้อื่น แม้ว่าหลายเว็บไซต์จะมีการแสดงตัวเลขปริมาณแอลกอฮอล์จากเครื่องดื่มแต่ละประเภท แต่ตัวเลขเหล่านั้นเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น เพราะแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มแต่ละชนิดมีความเข้มข้นไม่เท่ากัน รวมถึงการผสมและการบริโภคของแต่ละคนก็ส่งผลที่แตกต่างกัน ดังนั้น วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือ "ดื่มแล้วไม่ขับ" อย่างเคร่งครัด!

 

โทษของการเมาแล้วขับรถ

    ในปัจจุบัน กฎหมายเกี่ยวกับการเมาแล้วขับได้ถูกปรับปรุงให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากการเมาแล้วขับถือเป็นการกระทำที่สามารถก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตทั้งต่อตัวผู้ขับขี่เองและผู้อื่น โดยกฎหมายได้กำหนดบทลงโทษ ดังนี้

 

  1. ทำผิดครั้งแรก โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท
  2. ทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี หากกระทำผิดซ้ำภายใน 2 ปีนับจากครั้งแรก จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับตั้งแต่ 50,000-100,000 บาท พร้อมถูกพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรืออาจถูกเพิกถอนใบขับขี่
  3. ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับสูงสุด 200,000 บาท และถูกเพิกถอนใบขับขี่ทันที
  4. ขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เมาแล้วขับชน ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม?

เมาแล้วขับชน ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม?

    หลายคนอาจไม่ทราบว่า หากขับรถในขณะมึนเมาและถูกจับ หรือมีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ประกันรถยนต์ที่คุณทำไว้จะไม่ครอบคลุมค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าคุณจะซื้อประกันชั้น 1 หรือมีทุนประกันสูงเพียงใดก็ตาม

 

    สำหรับ พ.ร.บ. รถยนต์ ถึงแม้จะยังคงให้ความคุ้มครองอยู่ แต่จะครอบคลุมเฉพาะค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บเท่านั้น โดยจะจ่ายค่ารักษาได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน และหากเกิดกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร พ.ร.บ. จะจ่ายสูงสุดไม่เกิน 35,000 บาทต่อคน

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์

    ดังนั้น หากเมาแล้วขับจนเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายต่อรถยนต์หรือค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดด้วยตัวเอง ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการขับรถหลังดื่ม เพื่อป้องกันทั้งความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด

 

    เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการเมาแล้วขับ การมีประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมและครอบคลุมทุกความเสี่ยงถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการขับขี่อย่างปลอดภัย หากคุณกำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สามารถ เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ กับ TQM ได้ง่าย ๆ พร้อมเปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัทในที่เดียว เพื่อความอุ่นใจในทุกการเดินทาง!

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง