เช็กลิสต์ตรวจสอบบ้านหลังแผ่นดินไหว ขั้นตอนง่ายๆ ที่ต้องรู้

     เมื่อเกิดแผ่นดินไหว สิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทำคือ เช็กบ้านหลังเกิดแผ่นดินไหว อย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างบ้านยังปลอดภัย และไม่เสี่ยงต่อการพังถล่มภายหลัง เพราะแม้โครงสร้างภายนอกจะดูปกติ แต่อาจมีความเสียหายซ่อนอยู่ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในระยะยาว วันนี้พี่หมี TQM มีขั้นตอนตรวจสอบบ้านหลังแผ่นดินไหว แบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำเองได้ มาฝากกันครับ

ทำไมต้องตรวจสอบบ้านหลังเกิดแผ่นดินไหว

     บางครั้งแผ่นดินไหวไม่ได้ทำให้บ้านพังทันที แต่โครงสร้างของบ้านอาจเสียหายได้ โดยเฉพาะบ้านเก่าหรือบ้านที่ไม่ได้มีโครงสร้างต้านแรงแผ่นดินไหวโดยเฉพาะ การตรวจสอบบ้านหลังเกิดแผ่นดินไหว จึงเป็นการลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ผนังแตกร้าว โครงสร้างทรุด หรือหลังคาเสียหาย

 

ขั้นตอนตรวจสอบบ้านหลังแผ่นดินไหวที่ควรทำทันที

     การตรวจสอบบ้านหลังหลังเกิดแผ่นดินไหว ต้องเริ่มจากการเช็คอย่างละเอียดเพื่อหาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับบ้าน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ดังนี้

 

1. ตรวจโครงสร้างหลักของบ้าน

     การตรวจสอบโครงสร้างหลักของบ้านเป็นขั้นตอนแรกที่ต้องทำหลังจาก แผ่นดินไหว เพื่อตรวจหาความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือน โดยเฉพาะในส่วนของเสา คาน และฐานราก

 

• • ตรวจดูว่ามีรอยร้าวในเสา คาน หรือผนังรับน้ำหนักหรือไม่
  • สังเกตว่าผนังหรือเสาเกิดการเอียง ทรุด หรือโยกผิดปกติหรือเปล่า
  • ฟังเสียงในพื้นบ้าน หากเดินแล้วมีเสียงแตก หรือยวบผิดปกติ ควรรีบตรวจสอบโดยช่างทันที

 

2. ตรวจสอบผนังภายในและภายนอก

     การตรวจสอบบ้านหลังแผ่นดินไหว ยังต้องเช็กถึงการเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผนังทั้งภายในบ้าน และภายนอกบ้านซึ่งอาจมีรอยแตกร้าวที่ไม่เห็นได้ชัดในตอนแรก

 

• • มองหารอยแตกร้าวแนวเฉียง รูปซิกแซก หรือแตกร้าวยาวจากบนลงล่าง
  • เช็กสีผนังว่ามีการหลุดลอกหรือเปลี่ยนสีผิดปกติหรือไม่ เพราะอาจบ่งบอกถึงความชื้นหรือโครงสร้างที่มีปัญหา
  • ถ้าบ้านมีอิฐโชว์แนว ให้สังเกตว่ามีแนวอิฐหลุด บิดงอ หรือหลุดจากกันหรือไม่

3. ตรวจสอบสิ่งของภายในบ้าน

     หลังจาก ตรวจสอบบ้านหลังหลังเกิดแผ่นดินไหว ในส่วนของโครงสร้างแล้ว อย่าลืมตรวจสอบสิ่งของภายในบ้านที่อาจเกิดความเสียหายหรือเคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิม

 

• • เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆ ตรวจสอบว่าไม่มีการล้มทับหรือเกิดความเสียหายต่อเฟอร์นิเจอร์ และหากมีสิ่งของตกหล่นควรจัดระเบียบให้เรียบร้อย
  • กระจกและสิ่งของแตกหัก กระจกที่แตกหักอาจเป็นอันตรายได้ ควรตรวจสอบให้ดีและทำความสะอาดบริเวณนั้นอย่างระมัดระวัง

 

4. ตรวจระบบน้ำและไฟฟ้า

     แผ่นดินไหวอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าและท่อประปาภายในบ้าน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงในการใช้งานบ้านได้

 

• • ตรวจรอยรั่วของท่อน้ำ ท่อน้ำทิ้ง และเช็กความชื้นผิดปกติ
  • เช็กสายไฟว่าแน่น ไม่หลุดหลวม และไม่มีรอยไหม้หรือร้อนเกินไป
  • สังเกตว่าเครื่องใช้ไฟฟ้ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น เปิดไม่ติด มีเสียงแปลก

 

5. ตรวจพื้นและฝ้าเพดาน

     ตรวจสอบพื้นและฝ้าเพดานหลังคาที่เสียหายจากแผ่นดินไหว ซึ่งอาจเกิดการพังทลาย หรือรั่วซึมได้ ทำให้บ้านเสี่ยงต่อความเสียหายที่รุนแรงขึ้น

 

• • สังเกตพื้นบ้านว่ามีการทรุด ร้าว หรือยกตัวจากแรงสั่นสะเทือนหรือไม่
  • ตรวจฝ้าเพดานว่ามีรอยร้าวหรือแยกจากคานหรือโครงเหล็กหรือเปล่า
  • หากมีแผ่นฝ้าหลุดหรือเปิดออก ควรซ่อมทันทีเพื่อป้องกันการตกใส่ผู้อยู่อาศัย

     ขั้นตอนตรวจสอบบ้านหลังแผ่นดินไหว อาจดูยุ่งยาก แต่จริงๆ แล้วถือเป็นขั้นตอนที่จำเป็นและสำคัญไม่ควรปล่อยละเลย สังเกตอย่างรอบคอบ มองหารอยร้าว ความผิดปกติ และหากจุดไหนมีความเสี่ยงมากจนเกินไปควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยตรวจสอบ ก็สามารถป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้แล้ว

 

     หากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากแผ่นดินไหว การทำประกันบ้านที่ครอบคลุมถึงความเสียหายจากแผ่นดินไหวจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในกรณีเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หากคุณยังไม่มีประกันบ้าน ควรพิจารณาเลือกประกันที่ให้ความคุ้มครองภัยจากแผ่นดินไหว จะดีที่สุด โดยที่ TQM มีประกันบ้านที่ให้ความคุ้มครองภัยจากแผ่นดินไหวและภัยพิบัติอื่นๆ อย่างน้ำท่วม ลมพายุ สนใจเช็คราคาประกันบ้านได้ที่ www.tqm.co.th หรือปรึกษาเรื่องประกันภัยโทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง