เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 5,664 ครั้ง
รถยนต์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยมีแบตเตอรี่เป็นตัวจ่ายกระแสไฟฟ้าให้รถเคลื่อนตัวได้ หากแบตเตอรี่รถไฟฟ้าใกล้หมด จะต้องทำการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้รถสามารใช้งานขับได้ต่อไป จึงทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องรู้วิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้องเพื่อเป็นการถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถไฟฟ้า วันนี้พี่หมี TQM เลยมีวิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง มาฝากเพื่อนๆ กันครับ
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ AC คือการชาร์จไฟแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ ไม่มีขั้วบวกหรือลบ จากตัว Wallbox เข้าไปยัง On board charger ในตัวรถ จากนั้นจะแปลงกระแสไฟฟ้าเป็นสายตรงจ่ายไฟไปยังแบตเตอรี่รถยนต์นั่นเอง โดยจะใช้เวลาในการชาร์จไฟฟ้าประมาณ 4 - 7 ชั่วโมง (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ รุ่นรถไฟฟ้า) การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ AC เหมาะกับการชาร์จในพื้นที่ที่สามารถจอดรถชาร์จได้เป็นระยะเวลานาน เช่น ชาร์จที่บ้าน , ห้างสรรพสินค้า , สำนักงาน เป็นต้น
สำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ DC จะเป็นการถูกพัฒนามาจากการชาร์จรูปแบบ ระบบ AC แต่การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ DC จะเป็นการชาร์จไฟด้วยกระแสไฟตรงเข้าสู่แบตเตอรี่รถยนต์เลยทันที จะไม่ต้องถูกส่งเข้าไปยัง On board charger ก่อนเหมือนกับการชาร์จไฟฟ้าระบบ AC โดยจะใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0%-80% ในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ รุ่นรถไฟฟ้า) การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ DC เหมาะกับการชาร์จแบตเตอรี่ในช่วงเวลาที่เร่งด่วน เช่นการจอดแวะพักรถตามจุดชาร์จ หรือ บริเวณปั๊มน้ำมัน เป็นต้น
หลีกเลี่ยงการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าจนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง 0% แล้วถึงจะทำการชาร์จไฟ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ทำงานหนักจนร้อนเกินไปเมื่อทำการชาร์จไฟฟ้า และจะส่งผลทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมได้ในที่สุด ทางที่ดีพยายามรักษาแบตเตอรี่รถให้อยู่ที่ 20% แล้วทำการชาร์จจะดีที่สุด
หลายคนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสงสัยว่า ควรชาร์จแบตรถยนต์กี่เปอร์เซ็นต์ จึงช่วยยืดอายุการใช้งาน ซึ่งการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เต็ม 100% เสี่ยงต่อการที่จะทำให้แบตเตอรี่ของรถเสื่อมเร็ว โดยมีผลการทดลองมาแล้วว่าการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมคือ ควรชาร์จไฟแบตเตอรี่รถให้อยู่ระหว่าง 80%-90% เพื่อระบบ Regenerative braking (ระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟ) สามารถทำงานได้ทันที และยังเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานของผ้าเบรกอีกด้วย
หากเราทำการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากลางแจ้งที่มีอุณหภูมิสูง อากาศที่ร้อนจัด จะเสี่ยงที่จะทำให้อายุของแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมได้ไวขึ้น ควรจอดชาร์จไฟในพื้นที่ร่มเพื่อให้การชาร์จแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพที่ดี รวมไปถึงการเลี่ยงการจอดรถยนต์ตากแดดเป็นระยะเวลานานด้วย
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ DC นั้นเป็นการช่วยทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มได้อย่างรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาก็จริง แต่ก็อาจทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเสื่อมได้ไวขึ้น หากชาร์จไฟฟ้าระบบ DC บ่อยจนเกินไป เนื่องจากขณะที่ชาร์จไฟระบบ DC จะเกิดอุณหภูมิสูง ทำให้แบตเตอรี่ต้องทำงานหนัก ยิ่งหากเจออากาศที่สูงด้วยแล้ว ก็อาจจะไม่ส่งผลดีกับแบตเตอรี่รถนั้นเอง
และนี่ก็เป็นข้อควรรู้และวิธีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง จะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นมีข้อดีและข้อควรระวังที่ต้องใช้งาน เราควรให้ความสำคัญอย่างมากในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หากดูแลหรือใช้งานอย่างไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้แบตเตอรี่รถไฟฟ้าเสื่อมได้ เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นเราควรดูแลรถยนต์ไฟฟ้าของเราให้ดีด้วยนะครับ
อีกสิ่งที่สำคัญคือการมีประกันรถยนต์ ไว้ดูแลรถของคุณ โดยเพื่อนๆ สามารถเข้ามาเช็คเบี้ย เปรียบเทียบ เบี้ยประกันรถยนต์กับบริษัทประกันภัยรถยนต์ชั้นนำ ผ่อนได้ 0% สนใจกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันภัย หรือหากต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัยกับ TQM สามารถแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านเบอร์ Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *