เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 1,700 ครั้ง
การขับรถบนท้องถนน ไม่ได้มีแค่การควบคุมพวงมาลัยและเหยียบคันเร่ง แต่ต้องคำนึงถึง กฎหมายจราจร และ กฎความเร็วที่กำหนด เพื่อให้เดินทางได้อย่างปลอดภัย ไม่โดนใบสั่ง และลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ วันนี้พี่หมี TQM จะพาทุกคนมาอัปเดต กฎหมายกำหนดความเร็วบนทางหลวง ว่าแต่ละพื้นที่สามารถขับได้เร็วสูงสุดเท่าไหร่ พร้อมแนะนำวิธีขับรถให้ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย ไปดูกันเลย!
หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมต้องมีการจำกัดความเร็ว? จริง ๆ แล้ว การกำหนดความเร็วบนถนน ไม่ได้มีไว้แค่เพื่อออกใบสั่ง แต่เพื่อช่วยให้การจราจรมีระเบียบ ลดอุบัติเหตุ และช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้ดีขึ้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน
✅ ป้องกันอุบัติเหตุจากการใช้ความเร็วเกินกำหนด
✅ ลดความเสี่ยงต่อผู้ใช้ถนนรายอื่น เช่น คนเดินเท้า และจักรยานยนต์
✅ ควบคุมการจราจรให้เป็นระเบียบ
✅ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเบรกและหยุดรถได้ทันในกรณีฉุกเฉิน
🚗 ในเขตกรุงเทพฯ เมืองพัทยา และเขตเทศบาล
👉 จำกัดความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
🚗 นอกเขตพื้นที่ดังกล่าว (เช่น ทางหลวงและมอเตอร์เวย์)
👉 จำกัดความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
🚨 หมายเหตุ: บางเส้นทางอาจมีข้อยกเว้น สามารถขับได้สูงสุด 120 กม./ชม. ตามป้ายกำหนด
🏍️ ในเขตกรุงเทพฯ เมืองพัทยา และเขตเทศบาล
👉 จำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.
🏍️ นอกเขตพื้นที่ดังกล่าว (ทางหลวงและมอเตอร์เวย์)
👉 จำกัดความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
✅ ข้อควรระวังสำหรับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์
นอกจากรถยนต์ส่วนบุคคลและมอเตอร์ไซค์แล้ว ยังมีกฎหมายกำหนดความเร็วสำหรับรถประเภทอื่น ๆ ด้วย ได้แก่
🚐 รถโดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 15 ที่นั่ง
👉 ความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม.
🚌 รถโดยสารที่มีที่นั่งเกิน 15 ที่นั่ง (เช่น รถบัสโดยสาร)
👉 ความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม.
🚛 รถบรรทุกขนาดใหญ่
👉 ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม.
🚜 รถลากจูง หรือรถที่ใช้ขนส่งวัตถุอันตราย
👉 ความเร็วสูงสุด 60 กม./ชม.
หากขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด คุณอาจได้รับใบสั่งและโดนปรับตามกฎหมายจราจร ดังนี้
📌 พี่หมีแนะนำ : ถ้าต้องขับขี่ทางไกล ควรเปิด GPS และดูป้ายจำกัดความเร็ว เพื่อป้องกันการโดนปรับ
บางเส้นทาง เช่น มอเตอร์เวย์หรือทางด่วน อาจอนุญาตให้ขับได้ 120 กม./ชม. หรือบางพื้นที่อาจกำหนดไว้ 90 กม./ชม. ดังนั้นต้องดูป้ายให้ดี
แม้ว่าจะขับในพื้นที่ที่กำหนดให้ 100 กม./ชม. แต่ถ้าถนนลื่น ฝนตก หรือมีหมอก ควรลดความเร็วเพื่อความปลอดภัย
หากเดินทางไกล การใช้ Cruise Control สามารถช่วยควบคุมความเร็วให้คงที่ ลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ และช่วยให้ไม่เผลอขับเร็วเกินกำหนด
โค้งขึ้นเขา ทางลาดชัน หรือเขตโรงเรียน ห้ามแซงเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้
การขับรถให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้หมายถึงแค่ขับไม่เกินความเร็วที่กำหนด แต่ยังรวมถึงการใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับสภาพถนน สภาพอากาศ และสภาพจราจรในขณะนั้นด้วย การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ แต่หากเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น การมี ประกันรถยนต์ ที่เหมาะสมก็ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้
ดังนั้น ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง นอกจากการตรวจสอบกฎจราจรและกฎหมายจำกัดความเร็วแล้ว อย่าลืมตรวจสอบความคุ้มครองของประกันรถยนต์ ว่ายังครอบคลุมเพียงพอหรือไม่ หากต้องการ เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ หรือมองหาประกันที่เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของคุณ หรือสามารถ ปรึกษาพี่หมี TQM ได้ที่ Hotline 1737 ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *