ค่าเสื่อมราคารถยนต์ คืออะไร มีวิธีคิดค่าเสื่อมอย่างไร

     รถยนต์แน่นอนว่าหากใช้งานเป็นระยะหลายปีก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพของรถยนต์ตามอายุการใช้งานกันเป็นธรรมดา คนมีรถส่วนใหญ่จึงจะเคยได้ยินคำว่า ค่าเสื่อมรถยนต์ หรือ ค่าเสื่อมราคารถยนต์ กันมาแล้วบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่คนใช้รถต้องรู้เรื่องนี้ วันนี้พี่หมี TQM เลยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ค่าเสื่อมราคารถยนต์ คืออะไร มีวิธีคิดค่าเสื่อมราคารถยนต์ทางภาษีอย่างไรบ้าง มาฝากกันครับ

ค่าเสื่อมราคารถยนต์ คืออะไร

     ค่าเสื่อมราคารถยนต์ คือการลดลงของมูลค่าของรถยนต์เมื่อเวลาผ่านไปซึ่งเป็นผลมาจากการใช้งาน อายุของรถยนต์ ความเสื่อมสภาพ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ความต้องการในตลาดรถมือสอง และปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อมูลค่าของรถยนต์ โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์ใหม่จะมีมูลค่าสูงสุดในช่วงเวลาที่ซื้อออกจากโชว์รูม  โดยทั่วไปค่าเสื่อมราคารถยนต์สำหรับปีแรกนี้จะอยู่ระหว่าง 15-35% และอาจจะมีมูลค่าสูงสุดถึง 50% หรือมากกว่านั้นในช่วง 3 ปีหลังมา

วิธีคิดค่าเสื่อมราคารถยนต์ คำนวณอย่างไร

1. วิธีคิดค่าเสื่อมราคารถยนต์แบบเส้นตรง

     วิธีเส้นตรงเป็นวิธีที่ง่ายและนิยมใช้กันมากที่สุดในการคำนวณค่าเสื่อมราคารถยนต์ วิธีนี้จะคำนวณโดยการแบ่งมูลค่าที่ลดลงอย่างเท่ากันในแต่ละปีตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์ แต่จะยกเว้นปีแรกและปีสุดท้ายที่จะไม่คิดเต็มปี มีสูตรในการคำนวณดังนี้

ค่าเสื่อมราคาต่อปี =  ราคาซื้อรถยนต์ − มูลค่าคงเหลือ ÷ อายุการใช้งานของรถ

ตัวอย่างเช่น

     คุณซื้อรถยนต์มาในราคา 1,000,000 บาท และคาดว่าจะมีมูลค่าคงเหลือ 200,000 บาทหลังจากใช้งานไป 10 ปี ค่าเสื่อมราคาจะคำนวณได้ดังนี้

1,000,000 − 200,000 ÷ 10 = 80,000 บาทต่อปี

     ดังนั้นในแต่ละปี มูลค่าของรถยนต์จะลดลงปีละ 80,000 บาท

 

2. วิธีคิดค่าเสื่อมราคารถยนต์แบบลดลงทวีคูณ

     วิธีนี้เป็นการคำนวณค่าเสื่อมราคาที่หักค่าเสื่อมราคามากขึ้นในปีแรก ๆ และลดลงในปีหลัง ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีการเสื่อมสภาพเร็วในช่วงปีแรก ๆ ของการใช้งานและจะไม่นำราคาซากรถมาคำนวณด้วย มีสูตรในการคำนวณดังนี้

ค่าเสื่อมราคา = มูลค่าทางบัญชี (ราคาทุน – ค่าเสื่อมราคาสะสม) x อัตราค่าเสื่อมราคา (100 ÷ อายุการใช้งานของสินทรัพย์) x 2

 

3. วิธีคิดค่าเสื่อมราคารถยนต์แบบผลรวมจำนวนปี

     เป็นหนึ่งในวิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาที่นิยมใช้ ซึ่งจะทำให้ค่าเสื่อมราคาลดลงมากในช่วงปีแรก ๆ ของอายุการใช้งานรถยนต์ และจะลดน้อยลงเรื่อย ๆ ในปีหลัง ๆ คล้ายกับวิธีคิดค่าเสื่อมราคารถยนต์แบบลดลงทวีคูณ มีสูตรในการคำนวณดังนี้

ค่าเสื่อมราคา =  (ราคาต้นทุน – มูลค่าคงเหลือ) x จำนวนปีที่เหลือ ÷ ผลรวมจำนวนปี

ปัจจัยที่มีผลต่อค่าเสื่อมราคารถยนต์ มีอะไรบ้าง

• อายุของรถยนต์ รถยนต์ใหม่จะมีการเสื่อมราคาที่สูงกว่าในช่วงปีแรก ๆ ของการใช้งาน หลังจากนั้นอัตราการเสื่อมราคาจะลดลงเมื่อรถยนต์มีอายุมากขึ้น โดยส่วนใหญ่รถยนต์จะสูญเสียมูลค่ามากที่สุดในช่วง 1-3 ปีแรก
• สภาพของรถยนต์ สภาพภายนอกและภายในของรถยนต์มีความสำคัญ รถยนต์ที่มีการบำรุงรักษาดีและไม่มีความเสียหายใหญ่ ๆ จะมีค่าเสื่อมราคาน้อยกว่า
• ยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ รถยนต์บางยี่ห้อหรือรุ่นอาจมีค่าเสื่อมราคาที่น้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ เนื่องจากความนิยมและความน่าเชื่อถือในแบรนด์
• ระยะทางที่ใช้งาน รถยนต์ที่มีการใช้งานมากและมีระยะทางสะสมสูงกว่าค่าเฉลี่ยจะมีค่าเสื่อมราคามากกว่า เนื่องจากมีความเสื่อมสภาพจากการใช้งานที่เพิ่มขึ้น
• เทคโนโลยีและการออกแบบ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อาจทำให้รถยนต์รุ่นเก่าเสียมูลค่าเร็วขึ้น เช่น การออกแบบใหม่, ระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัย หรือเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน เป็นต้น

     

     จะเห็นได้ว่าค่าเสื่อมราคารถยนต์นั้นมีความสำคัญอย่างมาก อีกทั้งการรู้วิธีการคิดค่าเสื่อมราคารถยนต์และปัจจัยที่มีผลต่อค่าเสื่อมราคาจะช่วยให้คุณสามารถประเมินมูลค่ารถยนต์ได้เป็นอย่างดี เพื่อใช้ในการซื้อขายรถต่อไป

 

     อีกสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนมีรถก็คือ ประกันรถยนต์ ที่จะช่วยคุ้มครองทุกการขับขี่ของคุณให้ปลอดภัย คุ้มครองทั้งรถและคุณ และช่วยเหลือและออกค่าซ่อมแทนคุณ ให้ไม่กระทบเงินเก็บ หากสนใจสามารถเช็คราคาประกันรถยนต์ออนไลน์ กับ TQM กรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อต้นหาแผนประกัน พร้อมรับบริการเสริมมากมาย รือต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัย โทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง