ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางไกลเที่ยวสงกรานต์
เชื่อว่าหลายคนต่างตั้งตารอคอย ให้ถึง
วันหยุดยาวช่วงสงกรานต์อย่างใจจดใจจ่อ เพราะจะได้พักผ่อนเติมพลังให้กับตัวเองอย่าวเต็มที่ ซึ่งในประเทศไทยก็มีสถานที่สวยๆ ที่เหมาะแก่การไปเที่ยวสงกรานต์มากมาย และหน้าร้อนแบบนี้ทะเล หรือน้ำตก ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ พร้อมมอบความเย็นฉ่ำ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ห้อมล้อมไปโดยอากาศบริสุทธิ์ จนแทบไม่อยากให้ช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้หมดไปแม้แต่วินาทีเดียว!
สำหรับใครที่ไม่อยากไปสถานที่ไกลๆ หรืออยากขับรถไปเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ ด้วยตัวเอง อย่าง ประจวบคีรีขันธ์ หรือ ชลบุรี ก็มีทะเลสวยๆ พร้อมบรรยากาศที่แสนสดชื่น รอต้อนรับนักท่องให้ไปดื่มด่ำกับความงามจากธรรมชาติที่แสนพิเศษ! ที่สำคัญคืออยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถขับรถไปได้ด้วยตัวเอง และถ้าไม่อยากให้ความสุขในช่วงวันหยุดยาวต้องสะดุด! ควรตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทางไกลไปเที่ยวสงกรานต์ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน พี่หมีมีขั้นตอนการตรวจเช็คสภาพรถยนต์อย่างละเอียดมาบอกครับ...
ตรวจเช็คลมยางและดอกยาง
สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือการตรวจเช็คลมยางว่าอ่อนเกินไปหรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่าดอกยางตื้นเกินกว่ากำหนดหรือเปล่า! โดยลมยางที่ได้มาตรฐานคือ ต้องมีมากกว่า 3-5 ตารางนิ้ว ซึ่งต้องคำนึงถึงจำนวนผู้โดยสาร และสัมภาระต่างๆ เพราะหากลมยางอ่อนเกินไป อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้
ตรวจเช็คระบบเบรก
เป็นระบบที่สำคัญมาเป็นลำดับต้นๆ เช่นกัน เพราะหากระบบขัดข้องอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้! ซึ่งสามารถตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตัวเอง โดยการสตาร์ทเครื่อง จากนั้นเข้าเกียร์ D แล้วลองเหยียบแป้นว่าเบรกอยู่หรือไม่ รวมถึงให้ตรวจสอบว่าแป้นเบรกมีการคืนคัว และระยะฟรีอย่างไร อีกทั้งมีเสียงผิดปกติหรือไม่ หากไม่แน่ใจแนะนำให้เอารถเข้าศูนย์ที่ดีที่สุดครับ
ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์
ให้ตรวจสอบว่าเครื่องยนต์มีความพร้อมในการใช้งาน หรือเกิดความผิดปกติอะไรหรือไม่ เพราะหากเกิดมีปัญหาระหว่างขับรถ มีความเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุทั้งต่อตนเอง และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ได้
ตรวจเช็คระบบไฟ
สิ่งที่ลืมไม่ได้คือการตรวจเช็คระบบไฟรอบรถ ว่ามีความพร้อมในการใช้งานหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟถอยหลัง และไฟหรี่
ตรวจเช็คว่ามีรอยรั่วซึมหรือไม่
ให้ตรวจเช็คโดยการดูบริเวณใต้ท้องรถ ว่ามีน้ำหยดหรือไม่ เพราะนั้นคือสัญญานของรอยรั่ว ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในระหว่างขับรถ! โดยสีของน้ำที่รั่วสามารถบอกอาการได้ดังนี้
• ของเหลวสีแดงเกิดจากพวงมาลัยมีปัญหา
• ของเหลวสีเขียวคือระบบความเย็นมีปัญหา
• ของเหลวสีดำเกิดจากการรั่วของน้ำมัน
ในกรณีที่น้ำหยดอาจเกิดจากระบบแอร์มีปัญหา และหากมีน้ำหยดที่ห้องเครื่อง เกิดจากท่อน้ำทิ้งคอยล์เย็นเกิดปัญหา
ตรวจเช็คของเหลวภายในเครื่องยนต์
ระดับน้ำภายในเครื่องยนต์ควรอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ อีกทั้งระดับน้ำในหม้อน้ำ รวมถึงหม้อน้ำพัก ควรเปลี่ยนถ่ายทันทีหากพบว่าน้ำมันเครื่องมีสีดำ มิเช่นนั้นคเรื่องยนต์อาจได้รับความเสียหาย
ตรวจเช็คที่ปัดน้ำฝน
ควรอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอย่างไม่มีติดขัด หากมีสภาพที่เสื่อม หรือหมดอายุการใช้งานให้รีบเปลี่ยนทันที
นอกจากนี้การเตรียมความพร้อมของสภาพร่างกาย ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน โดยควรปฏิบัติตามดังนี้
นอนหลับให้เพียงพอ
หากคุณต้องขับรถทางไกลควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 8-10 ชั่วโมงขึ้นไป เพราะหากนอน
ดึกอาจทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้า และหลับในได้
งดดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์มีส่วนทำให้ความสามารถในการขับขี่น้อยลง และเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต!
ในกรณีเมาแล้วขับถือเป็นความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี ปรับ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด
อาหารที่รสชาติจัดจ้าน มีส่วนทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน ระบบขับถ่ายผิดปกติ หากทานอาหารที่ไม่สะอาด ก็อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ เพราะฉะนั้นควรระมัดระวังในการรับประทานอาหารอย่างพิถีพิถัน
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือควรศึกษา
เส้นทางการจราจรบนท้องถนน เพราะหากต้องเผชิญกับสภาพรถติด อาจทำให้ทริปนี้กร่อยลงได้! รวมถึงควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินในแต่ละจังหวัดนั้นๆ อย่างละเอียด เพื่อจะได้ไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัย นอกจากนี้
การทำประกันภัยรถยนต์ ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญมาในลำดับต้นๆ โดยจะช่วยคุ้มครองในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนน ซึ่งที่ TQM มีประกันภัยรถยนต์จากหลายบริษัทชั้นนำ ที่มาพร้อมข้อเสนอดีๆ และการคุ้มครองที่ครอบคลุม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง
READ MORE :