ขับรถขึ้น - ลงภูเขาอย่างไร ให้ปลอดภัย

     ช่วงปลายปีที่มีวันหยุดยาวเยอะแบบนี้ หลายคนกำลังเตรียมตัววางแผนที่จะออกไปเที่ยวกันแน่นอน โดยสถานที่ยอดฮิตในช่วงปลายปีแบบนี้คงนี้ไม่พ้นการขึ้นเขา ขึ้นดอย เพื่อเป็นสัมผัสกับอากาศหนาวขึ้นไปชมทะเลหมอก และหลายคนจึงเลือกที่จะขับรถยนต์ไปเนื่องจากการเข้าไปชมทะเลหมอกนั้นจะอยู่บนภูเขาที่สูง และแน่นอนว่าการขับรถขึ้น - ลงภูเขา ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงด้วยถนนที่มีความลาดชัน โค้งที่เยอะ วันนี้พี่หมี TQM เลยมีทริคขับรถขึ้นภูเขา ลงภูเขา อย่างไรให้ปลอดภัย มาฝากกันครับ

เทคนิคขับรถขึ้นภูเขา ลงภูเขา ให้ปลอดภัย

1. การเตรียมรถให้พร้อมต่อการใช้งาน

     ถือเป็นสิ่งแรกที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนที่จะออกเดินทาง คือการเตรียมรถให้พร้อมต่อการใช้งาน การนำรถไปตรวจเช็กสภาพ ตรวจดูในจุดต่างๆ เช่น สภาพยางรถยนต์ หม้อน้ำ เบรก เป็นต้น ว่ามีชิ้นส่วนไหนชำรุดหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทำการเปลี่ยนซ่อมได้ทันที นอกจากการเตรียมรถให้พร้อมแล้ว การเตรียมตัวของคนที่ขับรถก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยจะต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและที่สำคัญงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเพื่อความปลอดภัย

 

2. ใช้เกียร์ที่ถูกต้อง

     สำหรับการใช้เกียร์รถยนต์ในการขับขึ้น-ลงภูเขาก็เป็นสิ่งที่คนใช้รถต้องรู้ด้วยเช่นกัน โดยพี่หมี จะแบ่งเป็นรถเกียร์ออโต้ และ รถเกียร์ธรรมดา

• รถเกียร์ออโต้ ควรใช้เกียร์ต่ำในการขับขึ้น-ลงภูเขา ใช้เกียร์ D2,D3,L, ตามระดับของความชันของถนน และเมื่อพ้นระดับความชันแล้วให้ทำการสลับมาใช้เกียร์ D แทนไม่ควรขับลากเกียร์ต่ำนาน เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ดับระหว่างทางได้
• รถเกียร์ธรรมดา ควรใช้เกียร์ต่ำในการขับขึ้น-ลงภูเขา โดยใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ 2 ควบคู่กับการทำความเร็วที่เหมาะสม

 

3. การใช้ความเร็วรถที่เหมาะสม

     สำหรับความเร็วที่เหมาะสมในการขับขึ้นภูเขานั้นควรอยู่ที่ความเร็วประมาณ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนความเร็วในการขับลงภูเขานั้นควรอยู่ที่ 30-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และควรเว้นระยะห่างจากรถคันข้างหน้าประมาณ 30-50 เมตร เพื่อป้องกันการเกิดเหตุฉุกเฉินนั้นเอง

4. ขึ้นเขา แตะคันเร่งเบาๆ เร่งเครื่องให้สม่ำเสมอ

     ในกรณีที่ต้องขับรถขึ้นภูเขา ให้เราทำการแตะคันเร่งเบาๆ และเร่งเครื่องให้สม่ำเสมอ เพื่อเป็นการส่งกำลังให้รถขึ้นภูเขาได้อย่างต่อเนื่อง โดยให้รอบเครื่องยนต์อยู่ประมาณ 2000-3500 รอบ แต่ห้ามเกิน 4000 รอบ และไม่ควรเร่งๆ หยุดๆ เพราะจะทำให้รถเสียการทรงตัวได้

 

5. ลงเขา แตะเบรกเป็นระยะ อย่าเหยียบเบรกค้างไว้

     ส่วนกรณีที่ขับรถลงเขา นอกจากจะควบคุมความเร็วแล้วยังต้อง แตะเบรกเป็นระยะเพื่อเป็นการชะลอความเร็วของรถ แต่ห้ามเหยียบเบรกรถค้างไว้เด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้ผ้าเบรกไหม้ หรือเบรกแตกได้นั่นเอง

 

6. ไม่ควรขับแซงทางโค้งหรือเส้นทึบ

     สิ่งสุดท้ายคือการไม่ขับรถแซงทางโค้ง ซึ่งแน่นอนว่าถนนทางขึ้นภูเขาส่วนใหญ่จะเป็นทางที่ค่อนข้างแคบและเป็นโค้งที่ซับซ้อน โค้งหักศอกกัน กันสักส่วนใหญ่ เมื่อเราขับรถผ่านโค้ง ก็ไม่ควรที่จะเข้าโค้งกินเลน เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรถเชี่ยวได้จากเลนที่สวนทางมา หากเราไม่แน่ใจเมื่อต้องขับผ่านโค้งที่หักศอก ให้เราเปิดสัญญาณไฟ หรือบีบแตร เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปยังรถคันที่จะสวนมา

     และนี่ก็เป็นทริคการขับรถขึ้น - ลงภูเขาให้ปลอดภัย เพื่อนๆ คนไหนที่มีแพลนขับรถขึ้นเขาไปชมทะเลหมอก หรือ สัมผัสอากาศเย็นละก็อย่าลืมนำไปปรับใช้ ควบคู่กับการปฏิบัติตามกฎจราจรไปด้วย และเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางด้วย คือ ประกันภัยรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองตัวรถและคุณทุกเส้นทาง โดยสามารถกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อเปรียบเทียบราคาประกันรถยนต์จากบริษัทชั้นนำ กับ TQM พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย หรือต้องการพูดคุย ปรึกษาเรื่องประกันภัย แชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัยโทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง