อาการเกียร์หลุดอันตรายแค่ไหน

     รถยนต์ เป็นยานพาหนะที่สำคัญต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์ มอบความสะดวกสบายในการเดินทาง ปัจจุบันรถยนต์บนท้องถนนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัด และยังเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ดังนั้นผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องมีสติ และ เคารพกฎหมายการจราจรบนท้องถนน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต อีกทั้งผู้ขับขี่ทุกท่านจะต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถตามกฎหมายประเภทต่างๆ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าตนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการขับขี่

 

 

     

     นอกจากข้อปฏิบัติตามกฎหมายที่ต้องให้ความสำคัญแล้ว เรื่องการดูแลรถยนต์ก็ถือเป็นสิ่งที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด โดยเฉพาะระบบการทำงานของรถยนต์ เพราะหากรถยนต์เกิดเสียหาย หรือ มีความผิดปกติเกิดขึ้นในขณะขับรถ ถือว่าเสี่ยงอันตรายต่อผู้ขับขี่ และผู้ที่สัญจรไปมา วันนี้พี่หมีมีหนึ่งปัญหาที่เกิดขขึ้นได้ยาก และพบน้อยมาก แต่…ผลเสียที่ตามมาไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย  คือ “อาการเกียร์หลุด เกียร์ค้าง” ที่สามารถส่งผลอันตรายต่อชีวิตได้

     ไม่ว่าคุณจะเชื่อมั่นในรถยนต์ของคุณแค่ไหน แต่เมื่อมีการใช้งานในระยะยาว ก็หลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นไม่ได้ โดยเฉพาะอาการเกียร์หลุด เกียร์ค้าง ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แถมยังเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตอีกด้วย เนื่องจากเราไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ หากเกียร์ค้างอยู่ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง รถยนต์ก็จะมีการทำงานในตำแหน่งนั้นๆอย่างเช่น เกียร์หลุดตำแหน่ง R รถยนต์ก็จะเคลื่อนถอยหลัง ปัญหาเกียร์หลุดเกิดขึ้นจาก บูชคันเกียร์สึกหรอตามการใช้งาน  หรือ บูชคันเกียร์ทำมาจากพลาสติกเสื่อมสภาพ

 

ทำไงดี! รถยนต์เกิดอาการเกียร์หลุด

     เมื่อเจออาการเกียร์หลุด อย่าพึ่งตื่นตระหนก หรือ ตกใจไป พยายามขับรถให้ชิดขอบทาง เหยียบเบรคค้างเอาไว้ จากนั้นให้ดับเครื่องยนต์ทันที เป็นอันทุกอย่างจบ แต่ห้ามดึงเบรกมือขึ้นเพื่อให้รถหยุดโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถเสียหายมากขึ้น รวมถึงพยายามเปลี่ยนเป็นเกียร์อื่นแล้วเหยียบคันเร่ง เพราะจะเป็นอันตรายต่อคุณ และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนได้ เมื่อรถอยู่ในสภาพจอดสนิทให้โทรติดต่อช่าง หรือ เบอร์ฉุกเฉิน เมื่อทำการซ่อมต่อไป

 

 

     หากขับรถยนต์บนท้องถนน แล้วพบว่ารถยนต์เกิดความผิดปกติ อย่างเช่น อาการเกียร์หลุดไม่ว่าจะเกิดขึ้นในตำแหน่งเกียร์ P R N D 2 L หรือตำแหน่งอื่นๆ พี่หมีไม่แนะนำให้เปลี่ยนเกียร์กะทันหัน เพราะจะทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุได้  เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงก่อนออกเดินทางทุกครั้ง อย่าลืมเช็คสภาพรถยนต์ให้อยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน และเข้าศูนย์เช็คสภาพรถยนต์ทุกครั้งเมื่อครบกำหนดโดยเฉพาะรถยนต์ที่มีการใช้งานระยะยาว หรือ รถเก่า เมื่อพบว่าเกิดความผิดปกติอย่าปล่อยละเลยเด็ดขาด

 

     การขับรถยนต์บนท้องถนน ความพร้อมของรถยนต์เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารถึงที่หมายอย่างปลอดภัย เมื่อครบกำหนดเช็คสภาพรถยนต์อย่าละเลย หรือมองเป็นเรื่องเล็กน้อยเด็ดขาด สามารถนำรถมาตรวจสภาพได้ที่กรมการขนส่งทางบก หรือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ให้คุณมั่นใจทุกการเดินทาง แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์คันโปรดคุณไปอีกนาน

 

READ MORE : 

 

►  ต้องใช้เกียร์อะไรในการขึ้นลงเขา

►  ระบบเกียร์แบบไหนประหยัดน้ำมันที่สุด

►  ปัญหาเกียร์ธรรมดาและออโต้