เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 299 ครั้ง
ช่วงเดือนพฤษภาคม-เดือนตุลาคมของทุกปี ถือเป็นช่วงที่มักเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างบ่อยครั้ง เนื่องด้วยเป็นฤดูฝนของประเทศไทย วันนี้พี่หมี TQM จะมาแนะนำข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามที่คนขับรถควรทราบกันในขณะที่ขับรถตอนฝนตก เพราะเราเข้าใจว่า การขับรถตอนฝนตก เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงยากในช่วงฤดูฝน แต่เราสามารถเตรียมตัวเพื่อเลี่ยงกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทางรถยนต์ขณะฝนตกหนัก
การขับรถในช่วงฤดูฝนหรือขับรถตอนฝนตกนั้น ผู้ขับขี่จะต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาพทัศนวิสัยที่ลดลงจากฝนตกหนักและมีหมอก รวมถึงอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งการขับรถลุยน้ำนั้น เป็นสิ่งที่อันตรายพอสมควร เพราะปริมาณน้ำที่ท่วมขังยังทำให้การจราจรติดขัดและใช้เวลาเดินทางนานขึ้น และหากมีลมแรงหรือเกิดพายุ อาจทำให้รถสะบัดไปมาได้ง่ายและควบคุมได้ยากขึ้นด้วย
รถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรหมั่นตรวจเช็คสภาพอยู่เสมอ ยิ่งในช่วงฤดูฝนยิ่งต้องดูแลสภาพรถยนต์ให้ดี ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรกของรถยนต์ ระบบไฟที่คอยส่องสว่าง ระบบที่ปัดน้ำฝน ระบบยางและช่วงล่างของรถยนต์ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ต้องตรวจเช็คให้ดีก่อนขับรถตอนฝนตก เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
การตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทางในขณะที่ฝนตก ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เราควรเช็คเส้นทางให้ดีว่ามีอุบัติเหตุหรือไม่ เส้นทางถนนเป็นอย่างไร มีการปิดเส้นทางหรือมีจุดที่ห้ามรถวิ่งผ่านหรือไม่ เพื่อเป็นการลดการเกิดอุบัติเหตุในการขับรถตอนฝนตก
ความเร็วในการขับรถตอนฝนตก ควรขับไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเป็นความเร็วที่ผู้ขับสามารถควบคุมรถได้ เพราะถนนจะมีความลื่นกว่าปกติ ที่อาจทำให้เกิดเหตุการณ์รถหมุนหรือรถเหินน้ำได้ รวมถึงการเว้นระยะห่างกับรถคันข้างหน้า เพื่อความปลอดภัยจากการเบรกอย่างกะทันหันหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับรถคันข้างหน้า
ขณะฝนตกควรใช้ไฟปกติหรือไฟตัดหมอก เพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนของเราและเพือนร่วมทางคันอื่นๆด้วย โดยก่อนขับรถต้องเช็คสภาพไฟก่อนออกเดินทาง ว่าติดควรถ้วนดีอยู่ใช่หรือไหม
“สติ” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถในสถานการณ์ปกติ หรือขณะที่ฝนตก เพราะสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมักเกิดจากการตกใจ การหักเลี้ยว รวมถึงการเบรกอย่างกะทันหัน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ การควบคุมสติ คอยสังเกตุสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว หรือการคาดการณ์สิ่งต่างๆที่พึงจะเกิดขึ้นในขณะนั้น จะทำให้เรามีการคิดวิธีรับมีกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
การเปิดไฟสูงในการขับรถตลอดเวลาในช่วงฝนตก อาจทำให้เราขับรถได้ง่ายขึ้น แต่อาจจะเป็นการไปรบกวนรถคันอื่นที่กำลังขับสวนกันมา และการเปิดไฟฉุกเฉินในการขับรถตลอดเวลา ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเลย ในขณะที่ฝนตกหรือฝนไม่ตกก็ตาม เพราะการเปิดไฟฉุกเฉิน จะทำให้รถคันข้างหลังที่ตามมา ไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้ขับจะเลี้ยวรถไปทางซ้ายหรือทางขวากันแน่ เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
การเบรกรถอย่างกะทันหัน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นอันดับต้นๆ เลย เพราะการเบรกรถอย่างกะทันหันจะทำให้รถที่ขับตามเรามาชนท้ายต่อกันไปเรื่อย จนทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ ข้อควรแก้ไขคือ การเว้นระยะห่างกับรถยนต์คันหน้าอย่างเหมาะสม เพื่อเป็นการที่เราจะสามารถหักหลบหรือลดการเกิดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้
การสังเกตป้าย จุดต่างๆที่มีการกันไว้ หรือล้อมป้ายเอาไว้ เพราะจุดนั้นอาจมีหลุม มีบ่อ หรือมีจุดที่ต่ำจนน้ำท่วมขังเป็นจำนวนมาก จนสามารถทำให้รถของเราอาจเกิดอุบัติเหตุหรือรถจมน้ำเลยก็ว่าได้ เราควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังเป็นจำนวนมาก เพราะการที่เราขับรถฝ่าน้ำท่วมที่สูง อาจทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำเข้ารถหรือเครื่องยนต์ดับตามมาก็เป็นได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อควรปฏิบัติและข้อห้ามเบื้องต้นในการขับรถตอนฝนตก ที่พึงควรทำ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะฝนตก และที่สำคัญยังมีข้อควรปฏิบัติที่สำคัญที่สุดคือเรื่องประกันรถยนต์ที่ควรมีอยู่ตลอด วันนี้พี่หมี TQM ขอแนะนำประกันรถยนต์ คุ้มครองทั้งรถและคุณจากอุบัติเหตุ ให้คุณหมดห่วงเรื่องค่าซ่อมและค่ารักษาพยาบาล หากสนใจสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์จากบริษัทประกันชั้นนำกับ TQM โดยกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุด หรือหากต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัยกับทาง TQM สามารถทักแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่าน Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *