เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 8,739 ครั้ง
เมื่อฤดูฝนมาถึง รถยนต์ต้องเผชิญกับความชื้นและน้ำฝนที่ส่งผลกระทบต่อสภาพของตัวรถ โดยเฉพาะส่วนใต้ท้องรถซึ่งเป็นพื้นที่ที่โดนน้ำและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ง่าย หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจทำให้เกิดสนิมและความเสียหายต่อโครงสร้างรถยนต์ได้ ซึ่งหลายคนจึงเลือกดูแลรถยนต์ด้วย การพ่นกันสนิมใต้ท้องรถ แต่ก็มีข้อสงสัยถึงความจำเป็นในการพ่นกันสนิมใต้ท้องรถ และระยะเวลาในการพ่น ควรพ่นถี่แค่ไหน ปีละกี่ครั้ง วันนี้พี่หมี TQM จะมาตอบคำถามเหล่านี้ครับ
การพ่นกันสนิมใต้ท้องรถ ถือเป็นวิธีการป้องกันสนิมที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าฝนที่น้ำและความชื้นมีโอกาสซึมเข้าสู่ใต้ท้องรถได้ง่าย สนิมที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้รถยนต์ดูเก่าและไม่สวยงาม แต่ยังส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของรถ ทำให้ความแข็งแรงลดลง นอกจากนี้ การเกิดสนิมยังสามารถทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถยนต์ทำงานผิดปกติหรือเสียหายได้
การพ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์ มีข้อดีหลายอย่างที่ช่วยเสริมสร้างความทนทานและยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ได้เป็นอย่างดี ข้อดีเหล่านี้รวมถึง
การพ่นกันสนิมใต้ท้องรถช่วยสร้างชั้นป้องกันบนพื้นผิวของใต้ท้องรถยนต์ ทำให้ชิ้นส่วนโลหะไม่สัมผัสกับน้ำ ความชื้น หรือเกลือ ซึ่งเป็นตัวการหลักในการเกิดสนิม ชั้นป้องกันนี้จะทำให้การเกิดสนิมเป็นไปได้ยากขึ้น ซึ่งจะช่วยรักษาความแข็งแรงของโครงสร้างรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดีตลอดเวลา
การป้องกันสนิมช่วยให้ชิ้นส่วนโลหะใต้ท้องรถมีความคงทนและแข็งแรงยาวนานยิ่งขึ้น การพ่นกันสนิมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงที่ชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ จะเสื่อมสภาพจากการเกิดสนิม ทำให้สามารถใช้งานรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยยาวนานขึ้น
การป้องกันการเกิดสนิมสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมส่วนที่เสียหายจากสนิมได้ หากไม่มีการพ่นกันสนิม ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถอาจเกิดสนิมขึ้นจนต้องเปลี่ยนหรือซ่อมบำรุง ซึ่งมักจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการป้องกันด้วยการพ่นกันสนิมในครั้งแรก
รถยนต์ที่ได้รับการพ่นกันสนิมและดูแลรักษาอย่างดีจะมีสภาพที่ดีกว่าและมีมูลค่าสูงกว่าเมื่อถึงเวลาต้องการขายต่อ ผู้ซื้อรถยนต์มักมองหารถที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี และการมีหลักฐานว่ารถได้รับการพ่นกันสนิมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและมูลค่าของรถยนต์
โครงสร้างรถยนต์ที่แข็งแรงปราศจากสนิมมีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยให้กับผู้โดยสาร เมื่อโครงสร้างของรถยังคงแข็งแรง รถยนต์จะมีความทนทานต่อแรงกระแทกหรืออุบัติเหตุได้ดีกว่า ซึ่งเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
แม้ว่าการพ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็ยังมีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำการพ่นกันสนิม ข้อเสียเหล่านี้ได้แก่
การพ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์มีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง หรือใช้บริการจากร้านที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ การพ่นกันสนิมอาจต้องทำเป็นประจำทุกปี ซึ่งทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ต่อเนื่อง
ในบางกรณี การพ่นกันสนิมอาจทำให้การรับประกันจากโรงงานผลิตรถยนต์ถูกยกเลิกหรือเป็นโมฆะได้ โดยเฉพาะหากการพ่นกันสนิมเกิดขึ้นก่อนที่การรับประกันของโรงงานจะหมดอายุ ดังนั้น ควรตรวจสอบเงื่อนไขของการรับประกันจากโรงงานก่อนที่จะทำการพ่นกันสนิม
หากการพ่นกันสนิมไม่ได้ทำอย่างถูกต้อง อาจเกิดปัญหาตามมา เช่น การพ่นที่ไม่สม่ำเสมอ หรือการพ่นที่เข้าถึงไม่ทั่วถึง ซึ่งอาจทำให้บางส่วนของใต้ท้องรถไม่ได้รับการป้องกันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ในบางกรณี การพ่นกันสนิมอาจทำให้สารเคมีสะสมในบางจุด และก่อให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนที่บอบบางหรือทำให้เกิดการกัดกร่อนในระยะยาว
น้ำยาเคลือบที่ได้จากการพ่นกันสนิมอาจไม่ได้ทนทานตลอดอายุการใช้งานของรถ หากไม่ได้รับการพ่นซ้ำตามความเหมาะสม ชั้นป้องกันอาจเสื่อมสภาพหรือหลุดร่อนออกเมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมลดลง
สารกันสนิมบางประเภทอาจมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ หรือมีสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังหากสัมผัสโดยตรง นอกจากนี้ การพ่นกันสนิมยังต้องทำในสถานที่ที่มีการระบายอากาศดีเพื่อป้องกันการสะสมของสารเคมีที่อาจเป็นอันตราย
การพ่นกันสนิมควรทำเป็นประจำเพื่อให้มีการป้องกันที่ต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้วการพ่นกันสนิมใต้ท้องรถสามารถทำได้ปีละ 1-2 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพการใช้งานของรถยนต์ พื้นที่ที่รถยนต์ใช้เป็นประจำ และสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ ดังนี้
การพ่นกันสนิมปีละ 2 ครั้งเป็นเรื่องที่เหมาะสม โดยเฉพาะในช่วงก่อนเข้าหน้าฝนและหลังจากฤดูฝนสิ้นสุด เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่รถยนต์ต้องเผชิญกับความชื้นและน้ำมากที่สุด
การพ่นกันสนิมปีละครั้งอาจเพียงพอ โดยสามารถพ่นก่อนเข้าสู่ฤดูฝนเพื่อให้รถยนต์มีการป้องกันสนิมตลอดช่วงหน้าฝน
การพ่นกันสนิมอาจทำได้แค่ปีละครั้งหรือสองปีครั้งก็ได้ เนื่องจากรถยนต์ที่จอดอยู่ในที่ร่มมีโอกาสโดนน้ำน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้งานเป็นประจำ
การพ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์มักใช้เวลาประมาณ 1-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของรถยนต์ วิธีการพ่นที่ใช้ และความซับซ้อนของการเตรียมพื้นผิวก่อนการพ่น รายละเอียดเพิ่มเติมมีดังนี้
ขั้นตอนการเตรียมพื้นผิวก่อนการพ่นกันสนิม เช่น การทำความสะอาด การขจัดคราบสกปรก หรือน้ำมันใต้ท้องรถ อาจใช้เวลาเพิ่มเติม ซึ่งอาจเพิ่มเวลาทำงานอีก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
รถยนต์ขนาดเล็ก เช่น รถยนต์นั่งส่วนบุคคล (sedan) มักใช้เวลาน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถ SUV หรือรถกระบะ เพราะพื้นที่ใต้ท้องรถที่ต้องการการพ่นกันสนิมจะมีน้อยกว่า
วิธีการพ่นที่ใช้มีผลต่อเวลาที่ใช้ในการทำงาน เช่น การพ่นด้วยมืออาจใช้เวลานานกว่าเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องมืออัตโนมัติ นอกจากนี้ หากใช้วิธีการพ่นที่ต้องรอให้ชั้นป้องกันแห้งก่อนที่จะพ่นชั้นต่อไป ก็อาจทำให้เวลาในการทำงานเพิ่มขึ้น
ผลิตภัณฑ์กันสนิมบางประเภทอาจต้องการเวลาแห้งนานกว่าประเภทอื่น ซึ่งอาจส่งผลต่อระยะเวลาที่ต้องใช้ในการพ่นทั้งหมด
โดยทั่วไปแล้ว การพ่นกันสนิมสามารถทำได้เสร็จสิ้นภายใน 1-4 ชั่วโมง หากเป็นงานที่ทำโดยมืออาชีพในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ราคาการพ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของสารเคลือบที่ใช้ ขนาดของรถยนต์ สถานที่ที่ทำการพ่น และคุณภาพของการบริการ โดยทั่วไปแล้ว ราคาสำหรับการพ่นกันสนิมใต้ท้องรถยนต์ในประเทศไทยมักอยู่ในช่วงประมาณ 1,500 - 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับรายละเอียดดังนี้
ราคาจะแตกต่างกันตามภูมิภาคหรือจังหวัดที่ทำการพ่น ตัวอย่างเช่น ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาจมีราคาสูงกว่าในจังหวัดที่มีค่าครองชีพต่ำกว่า
เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมและบริการที่มีคุณภาพ แนะนำให้สอบถามรายละเอียดและเปรียบเทียบราคาจากหลายร้านก่อนตัดสินใจนะครับ
นอกจากการพ่นกันสนิมแล้ว การบำรุงรักษาใต้ท้องรถด้วยวิธีอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันสนิมและรักษาสภาพใต้ท้องรถให้อยู่ในสภาพดี เช่น
การพ่นกันสนิมใต้ท้องรถในหน้าฝนถือเป็นการดูแลรักษารถยนต์ที่สำคัญและควรทำเป็นประจำ ความถี่ในการพ่นกันสนิมอาจแตกต่างกันไปตามสภาพการใช้งานและพื้นที่ที่รถยนต์ใช้งาน และถ้าหมั่นดูแลรักษาใต้ท้องรถอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้รถยนต์มีสภาพที่ดีและป้องกันการเกิดสนิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ การดูแลใต้ท้องรถยนต์ให้ไม่เกิดสนิม ยังเป็นการชช่วยให้โครงสร้างรถยนต์แข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกหรืออุบัติเหตุไม่คาดฝันได้ไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตามสิง่สำคัญที่ควรมีติดรถไว้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันบนท้องถนนก็คือ ประกันรถยนต์ ที่คุ้มครองทั้งรถและคุณ รับผิดชอบค่าซ่อมรถจากอุบัติเหตุแทนคุณ และยังมีบริการรถใช้ระหว่างซ่อม เมื่อซื้อประกันรถยนต์ผ่าน TQM สนใจเช็คราคาประกันรถยนต์ เพียงกรอกข้อมูลในกล่องด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันตรงใจ หรือแชทกับพี่หมีได้ที่นี่ หรือต้องการปรึกษาเรื่องประกันภัย ติดต่อ Hotline โทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *