อย่างที่เราทราบกันดีว่ารถยนต์ไฟฟ้า กับรถยนต์สันดาปนั้นมีการทำงานที่แต่กต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่รถยนต์ รวมไปจนถึง ยางรถยนต์ ซึ่งยางรถยนต์ไฟฟ้านั้นถูกออกแบบมาเพื่อรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ จึงจะมีความแตกต่างจากยางรถยนต์ปกติทั่วไป วันนี้พี่หมี TQM เลยมีข้อมูลความแตกต่างระหว่างยางรถยนต์ไฟฟ้า และยางรถยนต์สันดาป มาฝากกันครับ

ความแตกต่างระหว่างยางรถยนต์ไฟฟ้า และยางรถยนต์สันดาป
1. น้ำหนักและการรับน้ำหนัก
- ยางรถยนต์ไฟฟ้า : ยางรถยนต์ไฟฟ้าจะมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์สันดาป เนื่องจากแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักมากกว่า 10% ถึง 20% ของยางรถปกติ ดังนั้นยางที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าต้องมีความสามารถในการรับน้ำหนักมากกว่าและมีโครงสร้างที่แข็งแรง
- ยางรถยนต์สันดาป : ยางสำหรับรถยนต์สันดาปถูกออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักของรถยนต์ทั่วไป ซึ่งมักจะมีน้ำหนักน้อยกว่าเมื่อเทียบกับยางรถยนต์ไฟฟ้า
2. เสียงรบกวน
- ยางรถยนต์ไฟฟ้า : เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีการทำงานที่เงียบกว่า การลดเสียงรบกวนจากยางเป็นสิ่งสำคัญมาก ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจึงมักจะมีการออกแบบดอกยางและส่วนประกอบอื่นๆ เพื่อลดเสียงรบกวนให้มากที่สุด ทำให้ราคาของยางรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่สูงกกว่ายางรถปกติ
- ยางรถยนต์สันดาป : ส่วนยางรถยนต์สันดาปนั้นมีเสียงเครื่องยนต์เป็นปัจจัยหลัก จึงทำให้เสียงรบกวนจากยางอาจจะไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้า
3. แรงบิดและแรงขับเคลื่อน
- ยางรถยนต์ไฟฟ้า : รถยนต์ไฟฟ้านั้นมาพร้อมกับอัตราเร่งสูง กำลังส่งและแรงบิดสูงกว่ารถสันดาป รถยนต์ไฟฟ้ามักมีแรงบิดที่สูงตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งทำให้ยางต้องมีความทนทานต่อแรงบิดและการเสียดสีสูง และช่วยป้องกันยางสึกหรอเร็วกว่ากำหนด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ยางของรถยนต์ไฟฟ้ามีความหนาเป็นพิเศษกว่า รวมไปถึงดอกยาง สารเคลือบยางที่ออกแบบเพื่อการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
- ยางรถยนต์สันดาป : ในส่วนของยางรถยนต์ปกตินั้น มีแรงบิดที่ค่อยเป็นค่อยไปจะเพิ่มขึ้นตามรอบเครื่อง ยางจึงไม่ต้องทนต่อการสึกหรอสูงเท่ากับยางรถยนต์ไฟฟ้า

4. การยึดเกาะถนน
- ยางรถยนต์ไฟฟ้า : ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามักจะถูกออกแบบให้มีการยึดเกาะถนนได้มากกว่ายางรถปกติ เพื่อรับมือกับแรงบิดที่สูงและการเร่งความเร็วที่รวดเร็ว ทำให้ยางถูกผลิตออกมาให้รองรับกับแรงเสียดทาน และระบบเบรกของรถยนต์ไฟฟ้าจะใช้ระบบเบรกเฉพาะอย่าง Regenerative Braking ที่เมื่อเราเหยีบเบรกตัวรถไฟฟ้าจะหน่วงให้ช้าลง ยางรถยนต์ไฟฟ้าจึงต้องมีหน้าที่ที่ดีในการยึดเกาะถนนป้องกันรถลื่นไถลเสียหลักนั้นเอง
- ยางรถยนต์สันดาป : มีการออกแบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในสภาพถนนทั่วไปและการกระจายแรงบิดที่ค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากแรงบิดไม่ได้เกิดขึ้นทันที ทำให้ความต้องการในการยึดเกาะถนนแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้า
5. ความประหยัดพลังงาน
- ยางรถยนต์ไฟฟ้า : ยางรถยนต์ไฟฟ้า ถูกออกแบบให้มีความต้านทานการหมุนต่ำกว่า เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพเพิ่มระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จแบตเตอรี่ และช่วยเป็นการลดการปล่อยมลพิษออกมาอีกด้วย
- ยางรถยนต์สันดาป : มีความต้านทานการหมุนที่สูงกว่า เนื่องจากไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงการประหยัดพลังงานในระดับเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้า
รถยนต์ไฟฟ้าใช้ยางรถยนต์สันดาปได้ไหม
รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้ยางของรถยนต์สันดาปได้ แต่ประสิทธิภาพในการใช้งานอาจจะไม่ดีเท่ากับใช้ยางรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ต้องใช้ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ด้วยเหตุผลหลายๆองค์ประกอบ ที่พี่หมี กล่าวไปตอนต้น ทางที่ดีควรจะใช้ยางรถยนต์ไฟฟ้ากับรถไฟฟ้าจะดีที่สุดครับ นอกจากนนี้ยางรถยนต์ไฟฟ้า ยังมีอายุการใช้งานที่นานกว่ายางรถสันดาป
โดยปกติอายุของยางรถยนต์ทั่วไปจะอยู่ที่ 3-5 ปี แต่สำหรับยางรถยนต์ไฟฟ้าบางยี่ห้อสามารถใช้ได้นานมากกว่า 5 ปีเลยทีเดียว ซึ่งราคาการเปลี่ยนยางรถยนต์สันดาปจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15,000-20,000 บาท ต่อ 4 เส้น แต่สำหรับยางรถยนต์ไฟฟ้า ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 50,000-70,000 บาท ต่อ 4 เส้น (ข้อมูลจาก springnews)

และนี้ก็เป็นความแตกต่างระหว่างยางรถยนต์ไฟฟ้า และยางรถยนต์สันดาป จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ายางรถยนต์ทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่าง และการใช้งาน กันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเราควรเลือกใช้ยางรถยนต์ให้เหมาะกับประเภทของรถ ถึงแม้ว่าราคาของยางรถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาที่สูงแต่หากคำนึงถึงประสิทธิภาพการใช้งานและความปลอดภัยนั้นก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวครับ
สำหรับผู้ใช้รถไฟฟ้าที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ไฟฟ้าไว้ดูแลรถของคุณ สามารถเข้ามาเช็คเบี้ย เปรียบเทียบ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า กับ TQM ได้ พร้อมรับบริการเสริมสุดพิเศษ สนใจคลิกที่นี่ หรือโทรปรึกษาเรื่องประกันภัยได้ที่ 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ