เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้กันมั้ย น้ำมันในถังเหลือน้อย แต่รถยังติดอยู่กลางทาง เหยียบเบรกแล้วเหยียบเบรกอีก จนรถซดน้ำมันแบบไม่เกรงใจว่าจะไปถึงปลายทางหรือเปล่า ซึ่งปกติแล้วเวลารถติดไฟแดง คนส่วนใหญ่มักใส่เกียร์ (D) แล้วเหยียบเบรกค้างไว้ แต่ถ้ารถติดนานๆ อาจจะเข้าเกียร์ว่าง (N) ให้รถอยู่นิ่งๆ โดยไม่เหยียบเบรก แต่ 2 วิธีนี้
วิธีไหนจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่ากัน วันนี้พี่หมี
TQM จะพาไปหาคำตอบครับ
จากการทดสอบ รถ BMW 325ci โมเดล E93 รุ่นปี 2009 เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร ซึ่งเคลมอัตราสิ้นเปลืองที่ 13.33 กม./ลิตร และ 9.8 กม./ลิตร (ในเมือง) ซึ่งการทดสอบดังกล่าว อ้างอิงตัวเลขจากออนบอร์ดของรถ และเปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 24 องศาเซลเซียส
ผลลัพธ์ที่ได้พบว่า การใส่เกียร์ N ประหยัดกว่าใส่เกียร์ D อยู่ 0.8 ลิตร/ชั่วโมง เนื่องจาก เมื่อใส่เกียร์ D แล้วเหยียบเบรกค้างไว้ อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 2.8 ลิตร/ชั่วโมง ขณะที่ใส่เกียร์ว่าง N อัตราสิ้นเปลืองลดลงเหลือ 2 ลิตร/ชั่วโมง
แม้ว่าตัวเลข 0.8 ลิตรจะดูน้อยนิด แต่ถ้าดูจากราคาน้ำมันบาท/ลิตร จะพบว่าไม่น้อยเลย..
ทั้งนี้ต้องบอกว่า อัตราสิ้นเปลืองจากการใช้เกียร์ทั้ง 2 แบบ จะแตกต่างไปตามรถแต่ละรุ่น แต่จากผลการทดสอบก็น่าจะพอสันนิษฐานได้ว่า การใส่เกียร์ D ขณะติดไฟแดง กินน้ำมันมากกว่าใส่เกียร์ (N)
เทคนิคใช้เกียร์ออโต้อย่างไรให้ถูกสถานการณ์
-
ตำแหน่งเกียร์ P ใช้จอดรถปกติ จอดบริเวณที่ลาดชัน และจอดรถโดยไม่กีดขวางรถคันอื่น เมื่อจอดแล้วรถไม่สามารถเลื่อนได้
-
ตำแหน่งเกียร์ R ใช้เวลารถถอยหลัง เป็นตำแหน่งที่ต้องใช้เท้าเหยียบเบรกทุกครั้งที่เข้าเกียร์ เมื่อเหยียบแล้วค่อยๆ ผ่อนเท้า ให้รถถอยหลังอย่างช้าๆ
-
ตำแหน่งเกียร์ N เป็นตำแหน่งเกียร์ว่าง ใช้สำหรับการหยุดรถชั่วคราวในบริเวณที่ราบ เช่น รถติดไฟแดงนานๆ หรือจอดรถในตำแหน่งที่กีดขวางเส้นทางจราจร หรือจอดรถซ้อนคัน เพื่อให้สามารถเลื่อนไปข้างหน้าและหลังได้
-
ตำแหน่งเกียร์ D ใช้เวลาขับรถเดินหน้าปกติ
-
ตำแหน่งเกียร์ 2 ใช้เมื่อขับรถขึ้นทางลาดชันที่ไม่สูงมาก สามารถใช้ความเร็วได้พอสมควร
-
ตำแหน่งเกียร์ L ใช้ความเร็วต่ำ สำหรับการขับขี่ขึ้นทางลาดชันที่สูงมาก
มาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ น่าจะพอเข้าใจเรื่องเกียร์กันบ้างแล้ว หากเจอสถานการณ์รถติดนานๆ ให้ใส่เกียร์ N หรือเกียร์ว่าง จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากกว่า แถมไม่ต้องเมื่อยเท้าคอยเหยียบเบรกอีกด้วย แต่ถ้าเจอรถหนาแน่น ติดแบบไหลๆ เลือกที่จะเหยียบเบรกค้างไว้แล้วปล่อยไหลที่เกียร์ D จะช่วยประหยัดกว่า เพราะการเปลี่ยนสลับใส่เกียร์ N, เกียร์ D บ่อยๆ จะยิ่งทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การใช้เกียร์เหมาะสมกับสถานการณ์ ช่วยประหยัดน้ำมันแล้วยังช่วยรักษาเครื่องยนต์ให้มีอายุยาวนาน ไม่พังง่าย และที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมา แต่ถ้าอุบัติเหตุนั้นเลี่ยงไม่ได้ การมีประกันรถยนต์ไว้ ช่วยอุ่นใจ มีประกันภัยช่วยเหลือเรื่องเคลมและเซฟค่าซ่อมไม่ให้กระทบเงินเก็บของคุณ สนใจมองหาประกันรถยนต์ราคาถูกใจ ผ่อน 0%
คลิกที่นี่เลย