19/06/67

|

อ่านแล้ว 1,454 ครั้ง

รถยนต์ไฟฟ้า EV ชาร์จไฟบ้านอย่างไรให้ปลอดภัยและถูกต้อง

    การติดตั้งเครื่องชาร์จภายในบ้าน ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับรถไฟฟ้า EV มากขึ้น เพียงแต่จะต้องเข้าใจในระบบการชาร์จรถไฟฟ้า EV ที่บ้านก่อนติดตั้ง เพื่อความปลอดภัยตลอดการใช้งาน วันนี้พี่หมี TQM จึงจะพาไปรู้จักประเภทของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และสิ่งที่ต้องคำนึงเพื่อชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านอย่างปลอดภัยและถูกต้อง

 

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร

    เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ทำหน้าที่เป็นตัวอัดประจุไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยสามารถแบ่งการชาร์จออกเป็น 2 ประเภท คือ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับ (EV AC Charger) และ เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสตรง (EV DC Charger) ซึ่งมีความแตกต่างกันดังนี้

 

1. กระแสไฟฟ้า

  • AC (Alternating Current) Charging :
    •  ใช้กระแสไฟฟ้าสลับที่ได้จากระบบไฟฟ้าทั่วไป เช่น ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านและที่ทำงาน
    • ตัวแปลงไฟ (Onboard Charger) ในรถยนต์ไฟฟ้าจะเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) เป็นกระแสไฟฟ้าตรง (DC) เพื่อใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่
  • DC (Direct Current) Charging :
    • ใช้กระแสไฟฟ้าตรงที่จ่ายไฟตรงเข้าสู่แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้า
    • ไม่ต้องผ่านตัวแปลงไฟในรถยนต์ ทำให้สามารถชาร์จได้รวดเร็วกว่า

 

2. ความเร็วในการชาร์จ

  • AC Charging :
    • Level 1 (ชาร์จด้วยปลั๊กไฟบ้านทั่วไป): ความเร็วในการชาร์จช้า (ประมาณ 1.4-2 kW) ใช้เวลาหลายชั่วโมงถึงข้ามคืน
    • Level 2 (ชาร์จด้วยเครื่องชาร์จติดผนัง): ความเร็วในการชาร์จปานกลาง (ประมาณ 6-11 kW) สามารถชาร์จเต็มได้ในเวลา 4-6 ชั่วโมง
  • DC Charging :
    • ความเร็วในการชาร์จสูง (50 kW ขึ้นไป) บางสถานีชาร์จเร็วสามารถจ่ายไฟได้ถึง 350 kW ขึ้นอยู่กับความสามารถของสถานีและรถยนต์
    • สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ถึง 80% ได้ในเวลา 20-30 นาที

 

3. การใช้งานและสถานที่ติดตั้ง

  • AC Charging :
    • เหมาะสำหรับการใช้งานที่บ้านและที่ทำงาน
    • ติดตั้งง่ายกว่าและค่าใช้จ่ายต่ำกว่า DC Charging
    • เหมาะสำหรับการชาร์จระยะยาว เช่น การชาร์จข้ามคืน
  • DC Charging :
    • เหมาะสำหรับสถานีชาร์จสาธารณะและสถานที่ที่ต้องการการชาร์จเร็ว เช่น บนทางหลวงและสถานีบริการน้ำมัน
    • ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงกว่าและต้องการระบบไฟฟ้าที่มีความสามารถสูง
    • เหมาะสำหรับการชาร์จระหว่างการเดินทางหรือการชาร์จที่ต้องการความเร็วสูง

ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

ข้อดีและข้อเสียของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าประเภท AC และ DC

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าประเภท AC

ข้อดี : ค่าใช้จ่ายต่ำ เหมาะสำหรับการใช้งานที่บ้าน สามารถใช้ประโยชน์จากการชาร์จในช่วงเวลากลางคืนที่มีอัตราค่าไฟฟ้าต่ำ

ข้อเสีย : ความเร็วในการชาร์จช้า

 

เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าประเภท DC

ข้อดี : ความเร็วในการชาร์จสูง ช่วยลดเวลาการรอคอย เหมาะสำหรับการเดินทางไกล

ข้อเสีย : ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงและอาจต้องการการอัพเกรดระบบไฟฟ้า

 

การเลือกประเภทการชาร์จขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของผู้ใช้

  • สำหรับการใช้งานประจำวันและการชาร์จที่บ้าน : AC Charging เป็นทางเลือกที่ดีและประหยัด
  • สำหรับการเดินทางไกลและความต้องการชาร์จเร็ว : DC Charging เป็นทางเลือกที่เหมาะสม

 

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนติดตั้งระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในบ้าน

    สำหรับการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน สิ่งแรกเลยที่จะต้องคำนึงก็คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เป็นแบบไหน รุ่นและยี่ห้อจะต้องใช้กับเครื่องชาร์จแบบใด จากนั้นจึงมาพิจารณาระบบไฟฟ้าในบ้าน และจุดที่จะติดตั้งเครื่องชาร์จตรงส่วนไหนของบ้าน

 

ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าภายในบ้าน

    สำหรับคนที่ต้องการชาร์จรถไฟฟ้าในบ้าน จะต้องใช้ขนาดมิเตอร์ 30(100) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าขนาดมิเตอร์บ้านพักทั่วไป ที่ใช้มิเตอร์เพียง 15(45) ฉะนั้นควรติดต่อทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) มาเปลี่ยนมิเตอร์ที่บ้านก่อนติดตั้งเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าเพื่อป้องกันการใช้ไฟฟ้ามากเกินไปจนเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

 

สายเมนและอุปกรณ์ป้องกัน

    ขนาดสายเมนจะต้องมีขนาด 25 ตร.มม. และใช้ลูกเซอร์กิตหรือเบรกเกอร์ลูกย่อย (MCB) สวิตซ์ไฟฟ้าอัตโนมัติที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกระแสไฟฟ้าส่วนเกิน โดยจะต้องสามารถรับกระแสไฟได้ถึง 100 (A) เพื่อรองรับและสอดคล้องกับขนาดมิเตอร์ที่เพิ่มขึ้น

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนติดตั้งระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในบ้าน

ตู้ควบคุมไฟฟ้า

    ตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB) จะต้องมีช่องว่างสำหรับติดตั้งลูกเซอร์กิตหรือเบรกเกอร์ลูกย่อย (MCB) แต่หากตู้ไม่มีช่องว่าง จำเป็นต้องเพิ่มตู้ควบคุมย่อยอีก 1 จุด

 

เครื่องตัดไฟรั่ว (RCD)

    อุปกรณ์สายชาร์จไฟฟ้ารถ EV จะมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าออก หากไม่มีระบบตัดไฟภายในตัว จำเป็นจะต้องติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD) เพื่อทำหน้าที่ตัดไฟ เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ป้องกันการเกิดเพลิงไหม้ได้ แต่หากสายชาร์จไฟฟ้ามีระบบตัดไฟภายในตัวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่ม

 

เต้ารับ

    ลักษณะเต้ารับสำหรับเสียบชาร์จรถไฟฟ้า จะขึ้นอยู่กับรูปแบบปลั๊กของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่น ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องเป็นชนิด 3 รู และทนกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 16(A)

ประเภทเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

จุดติดตั้งเต้ารับแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

    ตำแหน่งที่ติดตั้งเต้ารับแท่นชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ควรห่างจากจุดที่เสียบชาร์จรถไฟฟ้าเกิน 5 เมตร เพราะความยาวของสายชาร์จส่วนใหญ่อยู่ที่ 5-7 เมตร และที่สำคัญจะต้องอยู่ในที่ร่ม กันแดด ฝน และฝุ่นได้ และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกจุดชาร์จใกล้ตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB) จะช่วยประหยัดค่ใช่จ่ายในการเดินสายไฟ

 

    สรุปก็คือ เมื่อต้องการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในบ้านจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักโดยตรวจสอบจากรายการข้างต้น เลือกอุปกรณ์ชาร์จที่ได้มาตรฐาน และพิจารณาจ้างช่างไฟฟ้าที่มีใบอนุญาตเพื่อให้แน่ใจว่าการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าภายในบ้านเราเป็นไปอย่างเหมาะสมและตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยทั้งหมด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ทางที่ดีเตรียมรับมือด้วย ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่คุ้มครองมากกว่าตัวรถยนต์ คือคุ้มครองรวมถึงเครื่องชาร์จ และสายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านด้วย หากสนใจ สามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าได้ที่นี่ หรือปรึกษาเรื่องประกันภัยกับ TQM โทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล