เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 5,011 ครั้ง
การพัฒนารถยนต์ในปัจจุบันได้ก้าวล้ำไปมาก รวมถึงการเปลี่ยนจากการใช้พลังงานเชื้อเพลิงมาใช้พลังงานไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้า EV ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ซึ่งในแต่ละประเภทมีเทคโนโลยีและการทำงานที่แตกต่างกัน โดยส่งผลต่อประสิทธิภาพ ระยะทางการขับขี่ และความเหมาะสมในการใช้งาน วันนี้พี่หมี TQM จะพาเพื่อนๆ มาไขคำตอบของตัวย่อรถยนต์ไฟฟ้า HEV PHEV BEV EREV และ FCEV แต่ละตัวมีลักษณะการทำงานเหมือนหรือต่างกันอย่างไรกันครับ
รถ HEV นั้นย่อมาจาก Hybrid Electric Vehicle เป็นรถยนต์ที่ใช้ทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่ช่วยเก็บพลังงานจากการเบรกและการขับขี่ในรูปแบบไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริดสามารถสลับการใช้พลังงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อัตโนมัติ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมีระบบควบคุมที่ช่วยให้ทั้งสองระบบทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับรถ PHEV ย่อมาจากคำว่า Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีลักษณะการทำงานคล้ายรถ hybrid (HEV) ที่มีเครื่องยนต์สันดาปที่คอยทำหน้าที่ขับเคลื่อนเป็นหลัก แต่จะต่างตรงที่รถ PHEV มีแบตเตอรี่ที่ขนาดใหญ่กว่าและสามารถชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานภายนอกได้ ทำให้สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าเต็มรูปแบบได้ระยะทางที่ยาวนานขึ้น
รถ BEV ย่อมาจากคำว่า Battery Electric Vehicle เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน มอเตอร์ไฟฟ้าจะได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สามารถชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานภายนอกได้ รถยนต์ BEV มักมีระยะทางการขับขี่ที่ยาวนานกว่า PHEV และไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงไม่มีเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ในขณะขับขี่อีกด้วย
รถ EREV ย่อมาจากคำว่า Extended Range Electric Vehicle เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก แต่มีเครื่องยนต์สันดาปขนาดเล็กที่ใช้เพื่อผลิตไฟฟ้าเพื่อชาร์จแบตเตอรี่เมื่อแบตเตอรี่หมด รถยนต์ EREV สามารถขับขี่ในโหมดไฟฟ้าเต็มรูปแบบได้ระยะทางยาวขึ้นกว่ารถยนต์ PHEV และไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางในการขับขี่ อีกทั้งยังไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในโหมดไฟฟ้า
ปิดท้ายที่รถ FCEV ย่อมาจากคำว่า Fuel Cell Electric Vehicle เป็นรถยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าผ่านกระบวนการทางเคมีในเซลล์เชื้อเพลิง มอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเซลล์เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน รถยนต์ FCEV มีการปล่อยน้ำเป็นผลพลอยได้จากกระบวนการนี้ ทำให้ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
และนี้ก็เป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันตามเทคโนโลยีการทำงานและการใช้งาน แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดพลังงาน, การลดการปล่อยมลพิษ, หรือการขับขี่ในระยะทางยาว อีกสิ่งสำคัญสำหรับคนใช้รถไฟฟ้า คือการมี ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไว้ดูแลคุ้มครองรถที่คุณรักหากสนใจ สามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ไฟฟ้าได้ที่นี่ หรือปรึกษาเรื่องประกันภัยกับ TQM โทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *