1. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกต้อง ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
2. ผู้ขับขี่ต้องการเลี้ยวรถต้อง ชะลอรถและเปิดไฟเลี้ยวก่อนถึงทางเลี้ยวไม่น้อยกว่า 30 เมตร
3. การหยุดรถบริเวณทางแยกผู้ขับขี่ต้อง หยุดหลังเส้นแนวหยุด
4. การจอดรถต้องจอดให้ห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 เซนติเมตร
5. การขับรถผ่านทางร่วมทางแยกที่มีสัญญาณจราจรไฟกระพริบสีเหลือง.ผู้ขับขี่ต้อง ลดความเร็วของรถลงและผ่านทางเดินรถนั้นไปด้วยความระมัดระวัง
6. ผู้ขับขี่ต้องเปิดไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ ให้รถคันอื่นเห็นได้ในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร
7. เมื่อผู้ขับขี่พบเครื่องหมาย "เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด" ผู้ขับขี่ควร หยุดรอให้คนข้ามถนนและรถที่มาจากทางด้านขวามือขับผ่านไปก่อนแล้วจึงเลี้ยวซ้ายผ่านไป
หมวดเครื่องหมายและป้ายจราจร
1. ห้ามขับรถแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น ในเขตทางที่ติดตั้งป้าย
2. ห้ามขับรถทุกชนิดเข้าไปในทิศทางที่ติดตั้งป้าย
3. ห้ามกลับรถไปทางซ้าย
4. ห้ามใช้เสียง
5. ห้ามใช้ความเร็วเกินกว่าที่กำหนดเป็น "กิโลเมตรต่อชั่วโมง" ตามจำนวนตัวเลขที่รับในป้ายนั้น ๆ
6. ต้องหยุดรถตรงตำแหน่งที่ติดตั้งป้ายและให้รถที่กำลังสวนทางมาผ่านไปก่อน
7. ผู้ขับขี่รถทุกชนิด ต้องขับรถวนทางซ้ายของวงเวียน และหยุดรอให้รถที่แล่นอยู่ในทางรอบบริเวณวงเวียนผ่านไปก่อน
หมวดมารยาทและจิตสำนึก
1. การขับรถเข้าวงเวียนที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจรควร ให้รถทางซ้ายมือของเราที่อยู่ในวงเวียนไปก่อน
2. ในกรณีที่ท่านขับรถผ่านซอยที่มีรถรอออกเป็นจำนวนมากควร เปิดทางให้รถออกจากซอยได้บ้างสลับกับรถทางตรง
3. การให้สัญญาณไฟทุกครั้งเมื่อต้องการเลี้ยวซ้ายหรือขวา เป็นการให้สัญญาณไฟที่ถูกต้องเมื่อขับรถเข้าสู่ทางร่วมทางแยก
4. เมื่อขับรถในช่องจราจรขวาสุด และมีรถด้านหลังขับขึ้นมาด้วยความเร็วสูง.ท่านควร ให้สัญญาณไฟเลี้ยวซ้าย และเปลี่ยนไปยังช่องจราจรด้านซ้าย เพื่อให้รถที่มีความเร็วสูงกว่ารถของท่านแซงขึ้นไปอย่างปลอดภัย
5. การใช้ไฟสูงที่ถูกต้องและไม่เสียมารยาท เปิดไฟสูงเพื่อตรวจสอบสภาพถนนและริมถนน เฉพาะเส้นทางที่มืดมากและไม่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา และปิดไฟสูงทันทีที่มีรถวิ่งอยู่ด้านหน้าหรือสวนทางมา
6. เมื่อขับรถเข้าเขตชุมชนที่มีการจราจรติดขัด ผู้ขับรถควร ขับช้า ๆ โดยระมัดระวังคนเดิน ใช้แตรเมื่อจำเป็นเพื่อเตือนคนเดินถนนหรือรถคันอื่นเท่านั้น
7. การขับรถบนทางด่วนที่ถูกต้องเหมาะสม ควรไม่ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด
หมวดเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย
1. การขับรถขณะฝนตกผู้ขับขี่ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง
2. เมื่อเกิดรถเสีย ควรนำรถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน
3. การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะ นิ้วมือทั้งห้า จับพวงมาลัยให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตัว
4. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรถอนคันเร่ง จับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป
5. ขณะขับรถขึ้นทางลาดชัน ถ้าเครื่องยนต์ดับควร เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ เข้าเกียร์ว่าง และติดเครื่องใหม่
6. ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควร จอดรถในที่ปลอดภัยแล้วเรียกช่างมาตรวจเช็ค
7. ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควร คุมสติ บังคับพวงมาลัย ลดความเร็วลงและไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหัน
หมวดการบำรุงรักษารถ
1. แบตเตอรี่ควรมีฉนวนหุ้มที่ขั้วแบตเตอรี่ที่ขั้วบวก
2. สาเหตุไฟไม่ชาร์จเข้าแบตเตอรี่เกิดจาก ไดชาร์จชำรุดหรือสายพานไดชาร์จหย่อนหรือขาด
3. สาเหตุรถสตาร์ทไม่ติดเกิดจาก แบตเตอรี่ไม่มีไฟ
4. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อ รถเสียหรือเกิดอุบัติเหตุ
5. ในการถอดขั้วแบตเตอรี่ ควรถอดขั้วลบก่อน
6. คราบขี้เกลือที่ขั้วแบตเตอรี่เกิดจาก น้ำกรดทำปฏิกิริยากับอากาศ
7. แบตเตอรี่รถยนต์จะมีขนาดแรงดันไฟฟ้า 12 โวลท์

นี่เป็นเพียงแนวข้อสอบใบขับขี่ 2563 บางส่วนเท่านั้น พี่หมีเชื่อว่าถ้าเราเตรียมความพร้อมมาอย่างดี ไม่ว่าข้อสอบนั้นจะยากแค่ไหน ก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน และพอหลังจากที่เราทำใบขับขี่รถยนต์แล้ว ก็อย่าลืมมองหา ประกันภัยรถยนต์ ไว้คอยคุ้มครองรถของคุณ โดยเพื่อนๆสามารถเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ได้ง่ายๆคลิกเลย เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1737 ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ
READ MORE :