08/10/64

|

อ่านแล้ว 347 ครั้ง

วิธีเช็กรถยนต์เบื้องต้นหลังรถถูกน้ำท่วม

    ซ่อมรถยนต์หลังถูกน้ำท่วม เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเช็กอุปกรณ์ไหนของรถยนต์บ้าง ชิ้นส่วนไหนที่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือซ่อมเพื่อให้รถยนต์กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม ซึ่งถ้าเรานำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมเพื่อให้ช่างช่วยตรวจสอบให้ เจอช่างดีก็อุ่นใจไป แต่ถ้าเจอช่างไม่ดีก็อาจเสียรู้ ถูกหลอกให้เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นได้ วันนี้พี่หมี TQM จึงรวบรวม วิธีเช็กรถยนต์เบื้องต้นหลังรถถูกน้ำท่วม แต่ละระดับมาฝากกันครับ
 
วิธีเช็กรถยนต์เบื้องต้นหลังรถถูกน้ำท่วม
 

น้ำท่วมรถสูงถึงระดับพื้นรถยนต์

    น้ำท่วมเข้ามาในห้องโดยสาร แต่ท่วมไม่ถึงเบาะรถยนต์ มีโอกาสทำให้อุปกรณ์รถยนต์ได้รับความเสียหาย ควรตรวจเช็กเบื้องต้น ได้แก่
  • ระบบเบรกทั้ง 4 ล้อ และผ้าเบรก เมื่อล้อรถยนต์ถูกแช่น้ำเป็นเวลานาน ทำให้เกิดสนิมบนอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนรถยนต์ที่ทำจากเหล็กและโลหะ อย่างบริเวณใต้ท้องรถและผ้าเบรกของทั้ง 4 ล้อ
  • ห้องเครื่องยนต์ คลัทช์คอมแอร์ สายพานแอร์ และไดสตาร์ท เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมเช็ก หากได้รับความเสียหายจากน้ำเข้า อาจทำให้เกิดปัญหาระยะยาวตามมาได้
  • พรมภายในห้องโดยสาร เมื่อมีความเปียกชื้น ควรถอดพรมไปซักและตากแดดเพื่อขจัดกลิ้นอับชื้น ส่วนภายนอกรถยนต์ก็ควรทำความสะอาดเพื่อล้างคราบโคลนสิ่งสกปรกต่างๆ และป้องกันการกัดกินสีรถของคุณ
น้ำท่วมรถสูงถึงระดับพื้นรถยนต์
 

น้ำท่วมรถสูงถึงระดับเบาะผู้โดยสาร

    น้ำท่วมรถถึงเบาะที่นั่ง มีโอกาสทำให้อุปกรณ์รถยนต์ได้รับความเสียหายหลายส่วน ควรตรวจเช็กเบื้องต้น ได้แก่
  • แบตเตอร์รี่ เมื่อนำรถขึ้นจากน้ำแล้ว ห้ามสตาร์ทรถโดยเด็ดขาด ให้ถอดแบตเตอร์รี่ออกในทันทีเพราะระดับความสูงของน้ำจะสร้างความเสียหายภายในห้องเครื่องยนต์ 
  • ห้องเครื่องยนต์ กล่อง ECU เป็นสมองกลไฟฟ้าควบคุมเครื่องยนต์
  • พัดลมระบายความร้อน เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการถ่ายเทความร้อนของห้องเครื่อง
  • เครื่องยนต์, น้ำมันเครื่อง, ระบบเกียร์, น้ำมันเกียร์, ขั้วสายไฟต่างๆ, พวงมาลัยไฟฟ้า EPS
  • พรมรองพื้นกับเบาะที่นั่ง ถ้าถอดออกได้ ควรนำออกมาทำความสะอาดทั้งหมด แล้วผึ่งแดดไว้ ส่วนตัวรถให้เปิดประตูทุกบานและจอดตากแดดจนกว่าจะแน่ใจว่าภายในแห้ง และมีกลิ่นอับลดลง 
  • สวิตช์แผงประตู และระบบเซ็นทรัลล็อก
  • ชุดตู้แอร์

 


 

น้ำท่วมรถสูงเกินคอนโซลหน้าขึ้นไป

    รถยนต์ถูกน้ำท่วมสูงเกินคอนโซล หรือแทบมิดหลังคา มีโอกาสทำให้อุปกรณ์รถยนต์ได้รับความเสียหายมากที่สุด จำเป็นต้องตรวจเช็กอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ 
    เมื่อน้ำลดแล้ว หรือสามารถนำรถขึ้นมาจากน้ำได้ ห้ามสตาร์ทรถโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจรและเครื่องยนต์ได้รับความเสียหายอย่างมาก สิ่งแรกที่ควรทำคือ ควรถอดแบตเตอร์รี่ออกในทันที และตรวจสอบว่ามีน้ำเข้าแบตเตอร์รี่หรือไม่ หากมีน้ำเข้า แปลว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
    จากนั้นควรนำรถไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเช็กอย่างละเอียด โดยมีการเช็กของเหลวทุกอย่างภายในรถ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำหล่อเย็น หรือสารหล่อลื่น และยังต้องเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่แผงหน้าปัทม์และคอนโซล จะต้องถอดออกมาทำความสะอาดและเป่าให้แห้งทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามรถที่ถูกน้ำท่วมมิดคัน ไม่สามารถที่จะซ่อมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ หากรถยนต์ของคุณมีประกันที่คุ้มครอง ก็สบายใจได้ เพราะบริษัทประกันยินดีที่จะจ่ายเงิน 70-80% ของทุนประกันเพื่อเป็นการขอซื้อซากรถนั้นเอง
 
ขายซากรถถูกน้ำท่่วม
 
    วิธีเช็กรถยนต์เบื้องต้นหลังรถถูกน้ำท่วมอาจจะไม่ได้ละเอียดมาก แต่ก็พอให้เพื่อนๆ ทราบว่ามีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนไหนของรถยนต์ที่ต้องตรวจเช็กเป็นพิเศษหลังรถถูกน้ำท่วมมาเป็นเวลานาน และสามารถนำไปเทียบกับ list รายการซ่อมรถยนต์ เพื่อไม่ให้เสียรู้ช่างได้ 
    เมื่อน้ำท่วมรถ แน่นอนสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ไม่น้อย ย่อมมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมตามมา ฉะนั้นอย่าลืม ทำประกันรถยนต์ คุ้มครองน้ำท่วม เพื่อช่วยชดใช้ค่าเสียหาย รับมือกับค่าซ่อมอย่างสบายๆ เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ราคาสุดคุ้ม กับ TQM คลิกที่นี่เลย >> bit.ly/3szwEeP หรือโทร 1737 ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง
 
 

READ MORE : 

 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล