28/11/67

|

อ่านแล้ว 502 ครั้ง

วิธีเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์ยังไง ให้เหมาะกับเครื่องยนต์รถ

    น้ำมันเครื่องรถยนต์ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์ของรถยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ พร้อมทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้นด้วย แต่การเลือกน้ำมันเครื่องที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์นั้น จะต้องคำนึงจากหลากหลายปัจจัย หากเลือกน้ำมันเครื่องผิด อาจส่งผลร้ายต่อเครื่องยนต์ได้ วันนี้พี่หมี TQM มีคำแนะนำในการเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับรถยนต์ของผู้ขับขี่มาฝากครับ

 

น้ำมันเครื่องรถยนต์คืออะไร

    น้ำมันเครื่องรถยนต์ คือ น้ำมันที่ทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นให้กับชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องยนต์ ที่จะช่วยลดแรงเสียดทาน พร้อมทั้งเคลือบโลหะ ป้องกันการสึกหรอ และลดการเกิดสนิม ช่วยระบายความร้อน ป้องกันการรั่วซึม พร้อมทั้งยังช่วยชะล้างคราบสกปรกที่เกิดจากการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์รถได้ด้วยครับ

 

ประโยชน์ของน้ำมันเครื่องรถยนต์

    น้ำมันเครื่องรถยนต์ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยน้ำมันเครื่องไม่ได้เพียงแค่ช่วยหล่อลื่นภายในเครื่องยนต์ แต่ยังมีหน้าที่และประโยชน์หลากหลาย ที่ส่งผลโดยตรงต่อการใช้รถยนต์ ดังต่อไปนี้

 

  • ช่วยลดแรงเสียดทาน น้ำมันเครื่องจะทำหน้าที่เป็นฟิล์มเคลือบส่วนต่างๆในเครื่องยนต์เอาไว้ จึงทำให้ช่วยลดแรงเสียดทาน และทำให้เครื่องยนต์ทำงานไหลลื่นมากขึ้น
  • ป้องกันการเกิดสนิม น้ำมันเครื่องเป็นตัวช่วยในการป้องกันสนิมที่จะเกิดขึ้นในเครื่องยนต์ของรถยนต์ โดยสนิมมักจะเกิจากการเผาไหม้ภายในชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์
  • ช่วยระบายความร้อน เวลาเครื่องยนต์ทำงานหนักๆ น้ำมันเครื่องจะช่วยดูดซับความร้อนเหล่านั้น แล้วค่อยๆ ปล่อยออกไป ทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนจนเกินไป
  • ป้องกันอาการรั่วซึม น้ำมันเครื่องเป็นตัวช่วยป้องกันการรั่วซึมภายในกระบอกสูบได้ เพราะด้วยการทำงานในรูปแบบฟิล์มเคลือบชิ้นส่วนต่างๆ เอาไว้
  • ช่วยชะล้างคราบเขม่าจากการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ คราบเขม่า ผงโลหะ สิ่งสกปรกจากการเผาไหม้ อาจทำให้เครื่องยนต์อุดตันได้ น้ำมันหล่อลื่นจึงเข้ามาช่วยล้างเขม่าเหล่านี้ออกจากเครื่องยนต์

วิธีเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์

วิธีเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์

    วิธีในการเลือกน้ำมันเครื่องให้กับรถยนต์แต่ละคัน อาจต้องคำนึงจากหลากหลายปัจจัยที่แตกต่างกันออกไป เพื่อที่เครื่องยนต์จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องคำนึงจากปัจจัยดังต่อไปนี้

 

เลือกจากประเภทของน้ำมันเครื่อง

    น้ำมันเครื่องรถยนต์ในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ โดยในน้ำมันเครื่องแต่ละประเภทจะมีอายุการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปให้ผู้ขับขี่ได้เลือกใช้ดังนี้ครับ

 

  • น้ำมันเครื่องธรรมดา (Mineral Oil) เป็นน้ำมันเครื่องที่เหมาะสำหรับรถยนต์ทั่วไป ใช้งานไม่หนัก มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 5,000 – 8,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 6 เดือน
  • น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic Oil) เป็นน้ำมันเครื่องที่เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ต้องการการปกป้องที่มากกว่าน้ำมันเครื่องธรรมดา จะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 8,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 6 เดือน
  • น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ (Fully Synthetic Oil) เป็นน้ำมันเครื่องที่เหมาะสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงหรือรถยนต์ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 10,000 – 20,000 กิโลเมตร หรือไม่เกิน 6 เดือน

 

เลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์จากค่าความหนืด

    น้ำมันเครื่อง จะมีค่าความหนืดมาตรฐานของ SAE (The Society of Automotive Engineer) ที่บอกถึงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องรถยนต์ ซึ่งจะประกอบไปด้วยตัวเลข 2 ชุด ที่จะอยู่ด้านหน้า และด้านหลัง ของตัวอักษร W (Winter Grade) พร้อมมีขีดขั้นกลาง เช่น 5W-40, 10W-30, 15W-40 เป็นต้น โดยสามารถอธิบายได้ดังนี้

 

  • ตัวเลขหน้า W จะบอกถึงความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิต่ำ หรือในสภาพอากาศหนาว ยิ่งตัวเลขน้อย น้ำมันก็จะยิ่งไหลลื่นได้ดีในอากาศเย็น เช่น 5W จะไหลลื่นได้ดีกว่า 10W ในอุณหภูมิต่ำ ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดง่ายในสภาพอากาศหนาวเย็น
  • ตัวเลขหลัง W จะบอกถึงค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องในอุณหภูมิสูงหรือในสภาวะที่เครื่องยนต์ทำงานปกติ ยิ่งตัวเลขมาก น้ำมันก็จะยิ่งมีความหนืดมากขึ้นในอุณหภูมิสูง เช่น 40 จะมีความหนืดมากกว่า 30 เมื่อเครื่องยนต์ร้อนเต็มที่ ซึ่งช่วยปกป้องชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ได้ดีในสภาวะที่ต้องทำงานหนัก

 

เลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์จากมาตรฐาน API

    การเลือกใช้น้ำมันเครื่องรถยนต์ที่มีมาตรฐาน API (American Petroleum Institute) จะช่วยในเรื่องการหล่อลื่น การระบายความร้อนภายในเครื่องยนต์ โดยแบ่งเกรดเป็นระดับต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับเครื่องยนต์ที่มีการพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกัน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

 

  • น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน มาตรฐาน API สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน จะลงท้ายด้วย S (Spark Ignition) เช่น API SP, API SN-Plus, API SN, API SM, API SL และ API SJ เป็นต้น ซึ่งจะเน้นเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง ปกป้องเทอร์โบชาร์จ และปกป้องระบบควบคุมการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียได้ดี
  • น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล มาตรฐาน API สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล จะลงท้ายด้วย C (Compression Ignition) เช่น API CK-4, API CJ-4, API CI-4 Plus, API CI-4, API CH-4, API CG-4 และ API CF-4 เป็นต้น ซึ่งจะช่วยยืดอายุการทำงานของอุปกรณ์บำบัดไอเสียมีความสามารถในการอุ้มเขม่า และควบคุมการสะสมสิ่งสกปรกบริเวณลูกสูบได้ดี

 

เลือกน้ำมันเครื่องจากลักษณะการใช้งานของรถยนต์

    การใช้งานรถยนต์ ก็ถือเป็นปัจจัยที่นำมาใช้ในการเลือกน้ำมันเครื่องให้กับรถยนต์ของเราด้วย เพราะการใช้งานจะเป็นตัววัดว่าต้องเลือกน้ำมันเครื่องแบบไหนให้กับรถยนต์ โดยสามารถแบ่งได้เป็นดังนี้

 

  • รถยนต์ที่ถูกใช้งานในเมือง มักจะมีการจราจรติดขัดอยู่บ่อยครั้ง ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่รองรับการหยุด และต้องสตาร์ทรถบ่อยครั้ง
  • รถยนต์ที่ถูกใช้ในการขับทางไกลหรือบรรทุกของหนัก ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดสูงและช่วยลดการสึกหรอ

 

การเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์จากยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ

    ยี่ห้อน้ำมันเครื่อง ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่ควรนำมาพริจารณาในการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องด้วย เพราะบางทีเราอาจซื้อน้ำมันเครื่องของปลอมไปใช้โดยไม่รู้ตัวก็เป็นไปได้ครับ ดังนั้นผู้ขับขี่ควรศึกษาวิธีสังเกตน้ำมันเครื่องปลอมเอาไว้ เพื่อที่รถยนต์ของท่านจะไม่ถูกทำร้าย ซึ่งผู้ขับขี่สามารถซื้อน้ำมันเครื่องรถยนต์จากยี่ห้อชั้นนำอย่าง

 

  • น้ำมันเครื่องรถยนต์ Mobil 1 น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% มีประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงและการขับขี่ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย พร้อมช่วยลดการสะสมของคราบเขม่าและเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องเครื่องยนต์
  • น้ำมันเครื่องรถยนต์ Castrol EDGE ใช้เทคโนโลยี TITANIUM FST™ เพิ่มความแข็งแรงให้ฟิล์มน้ำมัน รองรับแรงกดดันสูงได้ดี เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ต้องการสมรรถนะสูงและการปกป้องระยะยาว
  • น้ำมันเครื่องรถยนต์ Shell Helix Ultra ผลิตด้วยเทคโนโลยี PurePlus ที่เปลี่ยนก๊าซธรรมชาติให้เป็นน้ำมันพื้นฐานคุณภาพสูง และช่วยทำความสะอาดเครื่องยนต์อย่างล้ำลึก ลดการสะสมของคราบสกปรก
  • น้ำมันเครื่องรถยนต์ PTT Lubricants ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องคุณภาพจากประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงมีราคาย่อมเยาและเหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพอากาศ
  • น้ำมันเครื่องรถยนต์ Total Quartz เป็นสูตรน้ำมันเครื่องที่รองรับการใช้งานหลากหลาย รวมถึงรถยนต์ไฮบริด ซึ่งจะช่วยลดการเสียดสีในเครื่องยนต์และช่วยประหยัดน้ำมัน

ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์

ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์

    การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรถยนต์จะต้องคำนึงจากหลากหลายปัจจัย แต่หลักๆแล้วจะต้องคำนึงจากเรื่องของ “ระยะทาง” และ “ระยะเวลา” โดยจะนิยมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เมื่อรถยนต์วิ่งถึงระยะ 8,000 – 10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือนของการขับขี่ หรือขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่ผู้ขับขี่ใช้ด้วยครับ ซึ่งผู้ขับขี่ทุกคนควรศึกษาว่าน้ำมันเครื่องรถยนต์แต่ละประเภทควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ เพื่อป้องกันการปัญหาภายในเครื่องยนต์ของรถด้วยครับ

 

น้ำมันเครื่องรถยนต์ราคาอยู่ที่เท่าไหร่

    น้ำมันเครื่องมักมีราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยอาจขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำมันเครื่อง และสถานที่ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องด้วย โดยราคาจะเป็นตามนี้

 

  • ศูนย์บริการรถยนต์ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 2,500 บาท
  • อู่รถยนต์ทั่วไป ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 500 บาท

 

    ทั้งนี้การเลือกน้ำมันเครื่องรถยนต์ที่เหมาะสม ก็เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ได้นานขึ้นด้วยครับ ถึงแม้ผู้ขับขี่จะเลือกน้ำมันเครื่องที่คู่ควรกับรถยนต์แล้ว แต่ก็อย่าลืมที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทางและระยะเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อรักษาประสิทธิภาพการหล่อลื่นและป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์ หรือถ้าผู้ขับขี่อยากเพิ่มความอุ่นใจให้กับรถยนต์ของท่าน ประกันรถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะความคุ้มครองของประกันรถยนต์ที่พร้อมช่วยเหลือคุณในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด ผู้ขับขี่ท่านใดสนใจสามารถเช็คราคาประกันรถยนต์สุดคุ้ม เพียงกรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันที่ตรงใจ หรือทักแชทหาพี่หมี TQM ได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ

 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง