08/05/67

|

อ่านแล้ว 104,619 ครั้ง

วิธีโอนรถแบบโอนลอย เปลี่ยนเจ้าของ ทำอย่างไร ใช้เอกสารอะไรบ้าง

    ใครที่กำลังทำเรื่องซื้อขายรถยนต์อยู่ จะมีขั้นตอนในการโอนรถยนต์ เพื่อเปลี่ยนเจ้าของใหม่ ซึ่งหากไม่ต้องการเสียเวลา การโอนลอย ก็เป็นการโอนที่นิยมในการซื้อขายกัน เนื่องจากเจ้าของรถไม่ต้องเสียเวลาเดินเรื่องเอง เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และหน้าที่การโอนรถยนต์จะเป็นของผู้ซื้อต่อไป วันนี้พี่หมี TQM จึงจะพาไปรู้จักกับการโอนลอยคืออะไร ต่างจากทั่วไปยังไง มีข้อดีข้อเสียอะไรที่ควรระวัง และที่สำคัญคือต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพื่อยื่นต่อกรมขนส่งทางบก ไปดูกันครับ

โอนลอยคืออะไร

    การโอยลอย คือ การทำสัญญาซื้อขายของผู้ขายหรือเจ้าของรถ มีการลงนามในหนังสือสัญญาซื้อขายเพื่อยืนยันว่ารถคันนี้กำลังถูกขาย และส่งมอบเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดแก่ผู้รับโอนหรือผู้ซื้อ แต่กรรมสิทธิ์จะยังไม่ถูกเปลี่ยน จนกว่าผู้ซื้อจะดำเนินการโอนที่กรมขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว

 

โอนลอยต่างจากโอนทั่วไปอย่างไร

    วิธีการโอนรถยนต์ มีทั้งหมด 2 แบบ คือ 1. การโอนแบบตรง หรือโอนรถทั่วไป เป็นการที่ผู้ขาย (เจ้าของรถคนเก่า) และผู้ซื้อ ตกลงกันและเดินทางไปจดทะเบียนผู้ครอบครองใหม่ที่กรมขนส่งทางบก โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนเจ้าของรถหรือโอนกรรมสิทธิ์ซื้อขายอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ รถบรรทุก หรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ซึ่งต่างจาก 2. การโอนลอย ที่ผู้ขายจะต้องจัดเตรียมเอกสารไว้ และผู้ซื้อจะต้องดำเนินการยื่นเอกสารที่กรมขนส่งทางบกด้วยตัวเอง

 

ข้อดีข้อเสียของการโอนลอยรถยนต์

ข้อดีของการโอนลอยรถ

    เป็นการซื้อขายที่รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขาย

 

ข้อเสียของการโอนลอยรถ

    มีความเสี่ยงเกิดขึ้น เมื่อผู้ขายมอบอำนาจให้แล้ว หากผู้ซื้อยังไม่ได้ทำเรื่องโอนรถให้เรียบร้อย ระหว่างนั้นได้มีการนำรถไปทำผิดกฎหมาย ผู้ที่รับผิดชอบยังคงเป็นเจ้าของรถคันเก่า

 

โอนลอยรถใช้เอกสารอะไรบ้าง

    หากเราต้องการโอนลอยรถ หรือ เราต้องการซื้อรถที่ถูกโอนลอย จะต้องใช้เอกสารดังนี้

  • หนังสือสัญญาซื้อขาย
  • เล่มทะเบียนรถตัวจริง
  • สำเนาบัตรประชาชน พร้อมลายเซ็นถูกต้อง ของเจ้าของรถคนล่าสุด
  • สำเนาทะเบียนบ้าน พร้อมลายเซ็นถูกต้อง ของเจ้าของรถคนล่าสุด
  • แบบคำขอโอนและรับโอนจากกรมขนส่งทางบก พร้อมลายเซ็นถูกต้องของเจ้าของรถคนล่าสุด
  • หนังสือมอบอำนาจจากกรมขนส่งทางบก พร้อมลายเซ็นถูกต้องของเจ้าของรถคนล่าสุด (ในกรณีที่เจ้าของรถไม่ได้ไปทำเรื่องโอนที่กรมขนส่งเอง สามารถให้บุคคลอื่นหรือบุคคลที่ซื้อรถต่อไปทำเรื่องโอนแทนได้)
  • สำเนาบัตรประชาชน พร้อมลายเซ็นถูกต้อง ของผู้ซื้อ (กรณีที่เจ้าของรถขายต่อกับผู้ซื้อโดยตรง)

 

ตัวอย่างแบบฟอร์มการโอนลอยรถยนต์

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการโอนลอยรถยนต์ได้ที่นี่

โอนรถ โอนลอยรถยนต์ที่ไหนได้บ้าง?

    การโอนรถเปลี่ยนเจ้าของ สามารถเดินทางไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งในพื้นที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร สำนักงานขนส่งในพื้นที่ที่อาศัย สำนักงานขนส่งในพื้นที่ที่มีการระบุไว้ในเล่มทะเบียน ซึ่งในกรณีที่เป็นสำนักงานขนส่งในพื้นที่ก็สามารถดำเนินการได้แม้จะไม่ใช่จังหวัดที่มีระบุไว้ในเล่มทะเบียนได้เช่นกัน

 

ค่าธรรมเนียมโอนรถยนต์

1. ค่าอากรแสตมป์ 50 บาท ต่อราคาประเมิน 10,000 บาท เช่น รถยนต์มีราคาประเมิน 100,000 บาท จะเสียค่าอากรแสตมป์ 500 บาท
2. ค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท
3. ค่าคำขอ 5 บาท

 

    และคำถามที่คนถามบ่อยที่สุดก็คือ การโอนรถใช้ระยะเวลากี่วัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเอกสารที่เตรียมไปพร้อมมากน้อยแค่ไหนด้วย หากเตรียมเอกสารไปพร้อม แล้วทางขนส่งฯ ไม่มีคนต่อคิวโอนรถเลย เวลาในการดำเนินการเพียง 2-3 ชั่วโมงก็เป็นอันเสร็จ แต่หากมีคิว อาจใช้เวลานานแต่ไม่เกิน 15 วันทำการ ฉะนั้นควรตรวจเช็คความถูกต้องของเอกสารและเตรียมเอกสารครบถ้วนก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลานะครับ และเมื่อเป็นเจ้าของรถยนต์แล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ พ.ร.บ. ที่รถทุกคันต้องมีคุ้มครองไว้ และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่คุ้มครองครอบคลุมทั้งตัวรถยนต์และคุณจากเหตุไม่คาดฝัน สนใจเช็คราคาประกันรถยนต์ บริษัทชั้นนำ กับ TQM กรอกข้อมูลด้านล่างเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หรือโทร 1737 บริการให้คำปรึกษาเรื่องประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมงครับ

 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง