รู้ทันกฎหมาย! ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับเท่าไหร่ ล่าสุด

    การคาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับขี่รถยนต์เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพราะไม่เพียงแต่ช่วยลดการบาดเจ็บเมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว แต่ยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่รัฐกำหนดไว้อย่างชัดเจนด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยที่ละเลยเรื่องนี้ ซึ่งนอกจากเสี่ยงต่ออันตรายแล้วยังต้องเผชิญกับค่าปรับอีกด้วย วันนี้พี่หมี TQM พาเพื่อนๆ มา รู้ทันกฎหมาย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับเท่าไหร่ ล่าสุด กันแบบละเอียด เพื่อเตรียมตัวรับมือได้ถูกต้องและปลอดภัยที่สุด

 

ความสำคัญของการคาดเข็มขัดนิรภัยในการขับรถยนต์

การคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยป้องกันชีวิตอย่างไร

    เข็มขัดนิรภัยไม่ได้มีไว้แค่เพื่อเลี่ยงค่าปรับ แต่เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยป้องกันชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสารจากการกระแทกและการเหวี่ยงตัวออกจากที่นั่งขณะเกิดอุบัติเหตุ จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า การคาดเข็มขัดนิรภัย อย่างถูกต้องสามารถลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ถึง 45-50% และลดความรุนแรงของการบาดเจ็บได้กว่า 60%

 

การคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยป้องกันชีวิตได้อย่างไร?

• ป้องกันไม่ให้ร่างกายกระเด็นออกจากรถ
• ลดแรงกระแทกต่ออวัยวะสำคัญ เช่น ศีรษะ หน้าอก และกระดูกสันหลัง
• ป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงจากแรงเหวี่ยงในขณะเกิดอุบัติเหตุ

 

ประเภทของเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์

เข็มขัดนิรภัยในรถยนต์มีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

• เข็มขัดนิรภัยแบบ 2 จุด (Two-point seatbelt): เป็นเข็มขัดที่คาดผ่านช่วงเอวเท่านั้น มักพบในรถยนต์รุ่นเก่าหรือที่นั่งผู้โดยสารในรถโดยสารขนาดใหญ่ มีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยเนื่องจากไม่สามารถยึดส่วนบนของร่างกายไว้ได้

• เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด (Three-point seatbelt): เป็นประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน ประกอบด้วยสายที่พาดผ่านทั้งช่วงเอวและไหล่ ช่วยกระจายแรงกระแทกได้ดีและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บได้มากที่สุด

• เข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด (Five-point seatbelt): เป็นเข็มขัดที่มีความปลอดภัยสูงสุด มักใช้ในรถแข่งหรือที่นั่งสำหรับเด็กเล็ก ประกอบด้วยสายรัดบริเวณหัวไหล่สองข้าง สายรัดบริเวณสะโพก และสายรัดที่ระหว่างขาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

สถิติการเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

    กรมการขนส่งทางบกได้รายงานว่า ในปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกว่า 50% ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด นี่คือเหตุผลที่ทางการพยายามรณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการคาดเข็มขัดนิรภัย และกำหนดบทลงโทษที่หนักขึ้น

 

กฎหมายใหม่ 2568 กับการคาดเข็มขัดนิรภัย

ใครบ้างที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายใหม่

ตามกฎหมายใหม่ พ.ศ. 2568 กำหนดให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งเบาะหน้าและเบาะหลังทุกตำแหน่งต้องคาดเข็มขัดนิรภัยโดยไม่มีข้อยกเว้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

 

เขตพื้นที่ไหนที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายนี้

• ทุกเขตทั่วประเทศไทย โดยเฉพาะถนนหลักและถนนสายรอง
• พื้นที่ในเมืองและชุมชนต่างๆ รวมถึงเขตชนบทและทางหลวง

 

ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับเท่าไหร่ ล่าสุด

    ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับไม่เกิน 2,000 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. 2565 หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 จำนวน 18 หน้า โดยพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 120 วัน ให้ผู้โดยสารในรถทั้งนั่งตอนหน้าและตอนอื่นต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หากไม่ทำตามเตรียมจ่ายค่าปรับ 2,000 บาท

 

ขั้นตอนการชำระค่าปรับเมื่อไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

• ชำระที่สถานีตำรวจหรือสำนักงานขนส่ง
• ชำระออนไลน์ผ่านระบบ e-Ticketing ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

 

หากชำระค่าปรับล่าช้าหรือหลีกเลี่ยงจะมีผลกระทบอย่างไร

• ถูกเพิ่มค่าปรับตามระยะเวลาที่ล่าช้า
• อาจถูกระงับการต่อทะเบียนรถหากมีค่าปรับค้างชำระ

 

วิธีหลีกเลี่ยงการถูกปรับจากการไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

• เตือนผู้โดยสารทุกครั้งก่อนออกเดินทาง
• ติดตั้งป้ายหรือสติกเกอร์แจ้งเตือนในรถยนต์
• ตรวจสอบสภาพเข็มขัดนิรภัยเป็นประจำ
• ใช้เข็มขัดนิรภัยที่ถูกต้องกับวัยของผู้โดยสาร โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ

 

    ปัจจุบันการไม่คาดเข็มขัดนิรภัยมีอัตราค่าปรับที่สูงขึ้น เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้การมีประกันรถยนต์ที่ดี จะช่วยให้คุณอุ่นใจยิ่งขึ้นในทุกเส้นทาง เพราะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา ก็ยังมีตัวช่วยในการดูแลค่าใช้จ่ายที่อาจตามมา การคาดเข็มขัดนิรภัยและการมีประกันรถยนต์จึงเป็นคู่หูที่ช่วยให้ทุกการเดินทางของคุณปลอดภัยและสบายใจตลอดเส้นทาง สนใจเช็คราคาประกันรถยนต์ออนไลน์กับ TQM เพียงกรอกข้อมูลที่กล่องด้านล่าง หรือปรึกษาเรื่องประกันภัย โทร 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง