เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 57 ครั้ง
แบตเตอรี่รถยนต์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน อากาศที่ร้อนจัดอาจส่งผลให้ แบตเตอรี่รถยนต์ร้อนมากกว่าปกติ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น การเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรือแบตเตอรี่หมดกลางทางได้ วันนี้พี่หมี TQM จะพามาดูกันว่า สาเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน มีอะไรบ้าง และมี วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ในหน้าร้อน อย่างไรให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นกันครับ
ก่อนที่เราจะไปดู วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ในหน้าร้อน เราต้องเข้าใจก่อนว่า สาเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน เกิดจากอะไรบ้าง เพื่อป้องกันปัญหาได้อย่างถูกต้อง ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของปัญหานี้ มีดังนี้
ในช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิภายนอกอาจสูงถึง 35-40 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้น ความร้อนที่สูงขนาดนี้สามารถทำให้ของเหลวอิเล็กโทรไลต์ในแบตเตอรี่ระเหยเร็วขึ้น และอาจทำให้แผ่นตะกั่วภายในเกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
การใช้เครื่องปรับอากาศ วิทยุ ระบบ GPS หรือการชาร์จอุปกรณ์มือถืออย่างต่อเนื่อง สามารถทำให้ แบตเตอรี่รถยนต์ร้อน ได้ง่าย เพราะต้องจ่ายกระแสไฟฟ้าออกมาเป็นจำนวนมาก
เมื่อแบตเตอรี่มีอุณหภูมิสูงเกินไป อาจเกิดการชาร์จไฟเกินความจำเป็น ซึ่งทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสะสม และอาจทำให้เซลล์ภายในเสียหาย ส่งผลให้แบตเตอรี่ทำงานผิดปกติ
แบตเตอรี่ที่ใช้งานมาเป็นเวลานาน (เกิน 2-3 ปี) อาจมีประสิทธิภาพในการกักเก็บไฟฟ้าลดลง ทำให้เกิดความร้อนสะสมมากขึ้นเมื่อมีการใช้งาน
หากแบตเตอรี่มีคราบขี้เกลือหรือเกิดการรั่วไหลของสารเคมี อาจส่งผลให้เกิดความร้อนขณะใช้งาน ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่ทำงานผิดปกติหรือเกิดการชำรุดได้
หากระบบระบายความร้อนของรถยนต์ทำงานผิดปกติ หรือมีความร้อนสะสมภายในห้องเครื่องยนต์ แบตเตอรี่อาจได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง สาเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน
แสงแดดและอุณหภูมิที่สูงมากทำให้ แบตเตอรี่รถยนต์ร้อน ได้ง่ายขึ้น การจอดรถในที่โล่งและไม่มีร่มเงา อาจทำให้ความร้อนสะสมจนส่งผลต่อแบตเตอรี่
เมื่อเราทราบถึง สาเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน แล้ว ก็มาดู วิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ในหน้าร้อน กันว่าควรทำอย่างไรบ้างเพื่อให้แบตเตอรี่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร
สำหรับรถยนต์ที่ใช้แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นเป็นประจำ และเติมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะอุณหภูมิที่สูงอาจทำให้น้ำกลั่นระเหยเร็วขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้แบตเตอรี่เสียหายได้
พยายามจอดรถในที่ร่ม หรือใช้ผ้าคลุมรถเพื่อป้องกันไม่ให้รถยนต์ได้รับความร้อนมากเกินไป ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่ แบตเตอรี่รถยนต์ร้อน จนทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ระบบไฟฟ้าที่มีปัญหาอาจทำให้แบตเตอรี่ต้องทำงานหนักขึ้น ควรตรวจสอบไดชาร์จ และสายไฟต่าง ๆ ว่ายังอยู่ในสภาพดี เพื่อให้ระบบชาร์จไฟทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบสนิมหรือสิ่งสกปรกอาจส่งผลให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ควรทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ และใช้สารป้องกันการกัดกร่อนเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน
ในช่วงที่อากาศร้อน ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าในรถมากเกินไป เช่น การเปิดแอร์แรงสุดตลอดเวลา หรือการใช้เครื่องเสียงที่กินพลังงานสูง เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักและเกิดความร้อนสะสมได้
หากแบตเตอรี่ของคุณใช้งานมานานเกิน 2-3 ปี อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะแบตเตอรี่ที่เก่าอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเสี่ยงต่อปัญหาความร้อนสะสมมากขึ้น
หากคุณต้องขับรถในสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจพิจารณาติดตั้งอุปกรณ์ช่วยระบายความร้อนแบตเตอรี่ เช่น ฉนวนกันความร้อน หรือแผ่นกันความร้อนแบตเตอรี่ เพื่อลดความร้อนสะสม
ปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน เป็นสิ่งที่คนใช้รถไม่ควรมองข้าม การเข้าใจถึงสาเหตุแบตเตอรี่รถยนต์ร้อน และรู้จักวิธีดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ในหน้าร้อน ที่พี่หมีนำมาฝากกันในวันนี้ จะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ และป้องกันปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลรถยนต์ช่วงอากาศร้อนเป็นสิ่งที่จำเป็น หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแดดเป็นเวลานาน รวมไปถึงสิ่งของที่ห้ามทิ้งไว้ในรถหน้ารถเด็ดขาด เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้รถในช่วงอากาศร้อน อย่างไรก็ตาม ไฟไหม้รถ เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝัน และสร้างความเสียหายอย่างมาก การมีประกันรถยนต์ที่คุ้มครองไฟไหม้รถจึงเป็นตัวเลือกที่ดี อย่างประกันชั้น 1 , ประกันชั้น2+ และประกันชั้น 2 โดยเพื่อนๆ สามารถเข้ามาเช็คราคาประกันรถยนต์ กับ TQM เพียงกรอกข้อมูลที่กล่องด้านล่างเพื่อค้นหาแผนประกันตรงใจ หรือทักแชทหาพี่หมีได้ที่นี่ หรือติดต่อเจ้าหน้าที่ผ่านทาง Hotline 1737 ยินดีให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *