ข้อดีการซื้อสัญญาแนบท้าย ประกันโรคมะเร็ง

การซื้อสัญญาแนบท้าย ประกันโรคมะเร็งมีข้อดียังไงบ้าง ทำไมถึงควรทำ

 

โรคร้ายแรง ถึงเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสถิติการเสียชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน นั้นมีเพิ่มมากขึ้นนทุกๆปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง “โรคมะเร็ง” และที่น่าห่วงยิ่งกว่านั้นคืออายุของผู้ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมีจำนวนช่วงอายุที่น้อยลงเรื่อยๆอีกด้วย

 

ดังนั้นในปัจจุบันการเลือกทำประกันสุขภาพ จึงเป็นเรื่องที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่กำลังมองหาความคุ้มครองเพื่อสุขภาพ อย่างที่พอทราบกันว่า ประกันสุขภาพจะเน้นคุ้มครองดูแลสุขภาพของเราเมื่อยามเจ็บป่วยเป็นหลัก ชดเชยในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ค่าห้อง ค่าหมอ ค่ายารักษา ตามวงเงินทุนคุ้มครองที่ผู้เอาประกันภัยได้เลือกทำ แต่ก็ใช่ว่าประกันสุขภาพจะคุ้มครองได้ทุกโรคนะครับ เพราะประกันสุขภาพเหล่านี้จะไม่คุ้มครองในส่วนของโรคร้ายแรงที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่อครั้งเป็นมูลค่าเงินที่ค่อนข้างสูง และต้องใช้การรักษาแบบเฉพาะทาง ทางบริษัทประกันจึงไม่รวมโรคร้ายแรงเหล่านี้เข้าไปในแผนกรมธรรม์

 

 

 

โรคร้ายแรง จะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ประกันเพิ่มเติม ที่ให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมเป็นสัญญาแนบท้ายได้ ประกันที่ผู้คนทำมากที่สุดสำหรับสัญญาเพิ่มเติมคือ ประกันมะเร็ง เพราะเป็นโรคที่ยังรักษาไม่หาย อีกทั้งยังสามารถเป็นได้ทุกส่วนของร่างกายอีกด้วย ส่วนใหญ่การซื้อประกันมะเร็งเพิ่มเติม หรือ แนบท้ายในกรมธรรม์นั้นจะเป็นกรจ่ายเบี้ยประกันแบบปีต่อปี ซึ่งทุกวันนี้ประกันมะเร็งแบบเพิ่มเติมเราจะหาซื้อเพิ่มได้ที่บริษัทประกันชีวิต ครั้งนี้พี่หมีก็เลยจะมาบอกข้อดีของการซื้อสัญญาแนบท้าย สำหรับประกันมะเร็งให้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจหากใครหลายคนยังลังเล ในการเลือกทำประกันอยู่นะครับ

 

ประกันมะเร็ง ถือเป็นการประกันโรคร้ายแรงชนิดหนึ่ง ที่จะระบุชัดเจนในกรมธรรม์เลยว่าค่าใช้จ่ายทุกส่วนในกรมธรรม์นี้สำหรับรักษาและชดเชยในส่วนของโรคมะเร็งเท่านั้น หากใครที่คิดว่าทำมะเร็งแล้วไม่คุ้ม พี่หมีว่าต้องลองคิดดูใหม่กันสักนิดเพราะคนไทยมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง และ เสียชีวิตเนื่องจากโรคมะเร็งเป็นอันดับหนึ่ง

 

อย่างที่ทราบกันว่ามะเร็งนั้นสามารถเป็นได้ทุกส่วนของร่างกายดังนั้นเราจะไม่สามารถทราบได้ว่าจเป็นมะเร็งที่ส่วนไหนของร่างกาย อาทิ มะเร็งลำไส้ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด เป็นต้น ดังนั้นหากทำประกันมะเร็งไปแล้ว ก็เท่ากับว่าหากเกิดเป็นโรคมะเร็งตัวใดขึ้นมาก็สามารถรักษาได้

 

สัญญาแนบท้ายส่วนใหญ่จะเป็นการจ่ายเบี้ยแบบปีต่อปี เช่น ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ประกันชดเชยรายได้ ประกันโรคร้ายแรง ประกันมะเร็ง เป็นต้น ซึ่งการจ่ายเบี้ยเช่นนี้ถือว่าเป็นผลดีกับผู้ที่ซื้อความเสี่ยง เพราะมีโอกาสที่จะได้เบี้ยประกันที่ถูกกว่าการจ่ายเบี้ยแบบคงที่ หากไม่ป่วยเป็นโรคต่างๆ ก็ไม่เป็นไร สามารถหยุดสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากป่วยขึ้นมาก็รับการรักษาได้เลย ไม่ต้องผูกมัดอยากต่อหรืออยากเปลี่ยนบริษัทประกันก็สามารถทำได้ แต่ก็มีบางบริษัทที่เปิดแบบแผนเป็นความคุ้มครองแบบตลอดชีพที่จะมีเงื่อนไขต่าง ๆ ที่แตกต่างกันเช่นเดียวกัน

 

ประกันภัยต่างๆ ที่เกี่ยวกับการรักษาโรคภัยต่างๆ ล้วนแล้วแต่ต้องมีระยะการรอคอย หรือ ช่วงที่รอระยะการเกิดโรคของผู้เอาประกันภัย โดยแต่ละบริษัทประกันจะมีการกำหนดระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น 30 วัน 60 วัน 90 วัน และ 120 วัน หากในช่วงวันที่บริษัทกำหนดให้เป็นช่วงระยะรอคอย ทางบริษัทประกันอาจเลือกที่จะยกเลือกความคุ้มครอง หรือ ยกเลือกสัญญากรมธรรม์ให้เป็นโมฆียะได้ แต่หากครบกำหนดแล้วไม่พบโรคใดๆ ก็ถือต่อไปได้ยาวๆ หากเกิดป่วยขึ้นในอนาคตก็สามารถรับการรักษาและความคุ้มครองจากบริษัทประกันได้ทันที

 

ประกันที่เป็นสัญญาแนบท้ายหรือประกันเพิ่มเติมเหล่านี้จะแสดงว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองหากเกิดป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังจากที่พ้นระยะรอคอยไปแล้ว ซึ่งประกันเหล่านี้จะถูกแนบไปในประกันชีวิตที่ถือเป็นประกันเล่มใหญ่ และผู้เอาประกันภัยสามารถหรือประกันเพิ่มเติมหรือแนบท้ายเพิ่มได้ตามต้องการที่จะได้รับความคุ้มครอง

 

 

 

เห็นไหมละครับว่าแท้จริงแล้ว ประกันมะเร็งถือเป็นอีกแผนความคุ้มครองที่จะเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ควรทำเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ร่างกายแข็งแรงไว้จะดีกว่า เพราะหากตรวจพบว่าตนเองเป็นมะเร็งแล้วไม่มีบริษัทประกันไหนที่รับประกันอย่างแน่นอน อีกทั้งราคาค่าเบี้ยไม่สูงมากหากเทียบกับค่าใช้จ่ายในการรักษา ที่สำคัญสัญญาเพิ่มเติมเหล่านี้ต้องซื้อบริษัทเดียวกันกับที่ทำประกันชีวิตไว้อย่างเช่น ถือประกันชีวิตบริษัท A และต้องการทำประกันมะเร็งแบบเป็นสัญญาแนบท้ายก็ต้องเลือกทำกับ บริษัท A เท่านั้น โดยสัญญาแนบท้ายหนึ่งบริษัทจะซื้อได้หนึ่งกรมธรรม์เท่านั้นต่อประเภท อาทิ ประกันชีวิต + สัญญาแนบท้ายประกันมะเร็ง + ประกันสุขภาพ + ประกันอุบัติเหตุ + ประกันโรคร้ายแรง + ประกันชดเชยรายได้ เช่นนี้เป็นต้น แต่หากอยากได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นก็สามารถทำของบริษัทประกันอื่นเป็นสัญญาเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกัน