ฟรีแลนซ์ ควรทำประกันสุขภาพแบบไหน ใช้ลดหย่อนภาษีส่วนบุคคลได้?
ภาพยนตร์ชื่อดัง ตีโจทย์สุขภาพของมนุษย์ฟรีแลนซ์ว่า “ห้ามป่วย ห้ามพัก” ซึ่งสะท้อนความเป็นจริงของฟรีแลนซ์ที่ มักทำงานห้ามรุ่งหามค่ำ แก้งานลูกค้ากว่าจะได้พักผ่อน
เข้างานก็ไม่เหมือนมนุษย์เงินเดือน เพื่อแลกกับการรับงานได้มาก ๆ เพื่ออัพฐานรายได้ของตัวเองให้เกินงานประจำ
แต่การแลกมาซึ่งรายได้ที่สูงขึ้นนี้บางทีทำให้มนุษย์ฟรีแลนซ์ ก็น็อคได้เหมือนกัน เนื่องจากการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ นอนน้อย ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดต่ำ เป็นลม อาหารไม่พอเลี้ยงสมอง อันนี้ไม่รวมถึงโรคไข้หวัด หรือโรคอื่น ๆ ที่มาจากกรรมพันธุ์ที่เพิ่งมาแสดงอาการของโรค ณ ช่วงอายุต่าง ๆ ของคุณได้ รวมถึง เพศหญิง เพศชาย ก็มีโรคจำเพาะให้ป่วยได้ไม่เหมือนกัน
แล้วอย่างนี้ฟรีแลนซ์ควรเลือกทำสุขภาพแบบไหน?
1. ครอบคลุมค่ารักษา OPD เกิน 1,500 บาท ขึ้นไป สำหรับผู้ที่ฐานรายได้ 15,000 บาท
ค่าตรวจของแพทย์ปกติอยู่ที่ 400 – 2,000 บาท ต่อครั้ง ในโรคธรรมดา อย่าง โรคไข้หวัด, ปวดหัว, ปวดท้อง ซึ่งก็เพียงพอกับการหาหมอ 1 ครั้ง โดยไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล
2. ครอบคลุมค่ารักษา อุบัติเหตุ เกิน 3,000 บาท ขึ้นไป สำหรับผู้ที่ฐานรายได้ 15,000 บาท
ทำประกันสุขภาพคุ้มครองพ่วง
ประกันอุบัติเหตุไปได้เลย โดยความคุ้มครองค่ารักษา กรณีต้องเข้าห้องฉุกเฉิน อย่าง รถเฉี่ยว, กระดูกหัก, สุนัขกัด อยู่ที่ 2,000 – 4,000 บาท ต่อครั้ง ส่วนกรณีต้องผ่าตัดใหญ่ ต้องมีค่าแพทย์ ค่ายา ค่าห้อง เพิ่มเติมอยู่แล้ว เมื่อทำร่วมกับประกันสุขภาพ ก็จะได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากขึ้น
3. ครอบคลุมค่ารักษา IPD ค่าแพทย์และการนอนโรงพยาบาลรวม 40,000 บาท ขึ้นไป สำหรับผู้ที่ฐานรายได้ 15,000 บาท
การนอนโรงพยาบาลนั้น ค่าใช้จ่ายเป็นหมื่นแน่นอน อาหารเป็นพิษโรงพยาบาลเก็บค่ารักษาประมาณ 15,000 บาท แล้ว หากป่วยหนักขึ้น ค่ายา ค่าห้อง ก็เพิ่มขึ้นตามลำดับ ยิ่งต้องนอน ICU ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่อาจเกิน 100,000 บาท ให้ทำแผนประกันสุขภาพที่คุ้มครองการนอนโรงพยาบาล เริ่มต้น 40,000 บาท ขึ้นไปยิ่งดี
นอกจากนี้ ฟรีแลนซ์ที่มีประวัติคนในครอบครัว เป็นโรค เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, มะเร็ง ควรทำประกันชีวิตคู่กับประกันสุขภาพตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะ
ค่าเบี้ยประกันจะถูก และหากเจอโรคดังกล่าวขึ้นมาก่อนทำประกัน ทางประกันชีวิตอาจปฏิเสธไม่รับทำได้!
ทั้ง 3 ข้อ ที่แนะนำมานี้ คุณอาจจะทำแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าที่เราแนะนำให้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถที่คุณจ่ายได้ เพราะบางท่านมีรายได้เกิน 30,000 บาท ต่อเดือน ก็เลือกจ่ายตามความคุ้มครองที่คุณต้องการได้
• Trick หากฟรีแลนซ์ต้องการประหยัดค่าทำประกันสุขภาพต่อปี
ถ้าคุณอยากได้ความคุ้มครองที่คุ้มค่าและจ่ายเบี้ยน้อยที่สุด ให้รวมกลุ่มกับเพื่อนให้ได้สัก 15 คน ทำประกันสุขภาพแบบกลุ่ม ทุกคนจะได้จ่ายเบี้ยเป็นรายปี ในราคาประหยัดลง แต่ว่าได้ความคุ้มครองที่เทียบเท่ากับพนักงานประจำ ลองมองหาแผนประกันที่ทำแพ็คเกจสำหรับฟรีแลนซ์ / ผู้ประกอบอาชีพอิสระ โดยเฉพาะ