ราคาผ่อนรถ ฉบับมนุษย์เงินเดือน
“
อยากมีรถยนต์เป็นของตัวเองสักคัน” คือ ความฝันของ
มนุษย์เงินเดือนหลาย ๆ คน เพราะเป็นทรัพย์สินชิ้นใหญ่ที่สร้างความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ไม่ว่าคุณอยากจะเดินทางไปที่ไหนก็สามารถขับรถไปได้เลย แต่ในขณะเดียวกันการมีรถก็ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น อาทิ ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง
ค่าประกันรถยนต์ ค่าภาษี
ค่าต่อพรบ.รถยนต์ และอื่น ๆ อีกมากมายที่จะตามมาหลังจากที่มีรถ รวมไปถึง
ค่าผ่อนรถยนต์
ผู้คนส่วนใหญ่มักจะใช้วิธีดาวน์และผ่อนชำระในการซื้อรถกันมากกว่าการซื้อเงินสด ซึ่งนั่นหมายถึงการเป็นหนี้ในระยะยาว หากผ่อนต่อไม่ไหว รถก็จะถูกยึด ดังนั้น หากไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง วันนี้พี่หมีจึงมีวิธีคำนวณว่ารายได้ของเราจะผ่อนรถเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ไม่ให้เดือดร้อนตัวเองมากจนเกินไป และสามารถผ่อนรถยนต์ได้สำเร็จ
อยากซื้อรถราคานี้..จะต้องผ่อนเท่าไหร่?
หลักในการพิจารณาค่างวดผ่อนรถยนต์
การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อรถยนต์จากสถาบันการเงินหรือบริษัทไฟแนนซ์ จะมีหลักเบื้องต้น คือ ค่างวดผ่อนรถต่อเดือนจะต้องอยู่ที่ประมาณ 30% หรือไม่เกินครึ่งหนึ่งของเงินเดือน ซึ่งจะพิจารณาถึงภาระหนี้สินอื่น ๆ ร่วมด้วย นอกจากนี้ ดอกเบี้ยจะสูงหรือไม่ยังขึ้นอยู่กับเงินดาวน์อีกด้วย
ดังนั้น หากอยากจะมีรถยนต์สักคัน จะต้องดูถึงรายรับรายจ่าย เงินออม และภาระหนี้สิน หากมีภาระค่าผ่อนรถเพิ่มขึ้นมา จะมีความสามารถผ่อนไหวหรือไม่ เนื่องจากเงินผ่อนรถนั้นจะเกือบครึ่งหนึ่งของเงินเดือน สำหรับใครที่อยากทราบราคาผ่อนรถที่แน่ชัด ปัจจุบันก็มีโปรแกรมคำนวณหรือเว็บไซต์ให้คุณได้ทดลอง โดยคุณจะต้องกรอกข้อมูลต่างๆ อาทิ
-
รายได้ของคุณต่อเดือน
-
ราคารถยนต์ที่รวมภาษีแล้ว
-
จำนวนเงินดาวน์กี่บาทหรือกี่เปอร์เซ็น
-
ระยะเวลาผ่อนชำระกี่เดือน
-
อัตราดอกเบี้ยต่อปีกี่เปอร์เซ็น
เมื่อกรอกข้อมูลแล้วให้กดคำนวณ ระบบก็จะแสดงผลออกมาว่าคุณจะต้องผ่อนรถยนต์ต่องวดเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถที่คุณจะต้องจ่ายต่อเดือน ซึ่งสรุปแล้วมีรถยนต์ 1 คัน จะมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไหร่? ตัวอย่าง ค่างวดรถเดือนละ 7,250 บาท ค่าน้ำมันเดือนละ 3,000 บาท ค่าประกันรถยนต์ ค่าพรบ. ค่าต่อทะเบียน จ่ายเป็นรายปีแต่คิดเป็นประมาณเดือนละ 1,450 บาท รวมทั้งหมด 11,700 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ยังไม่รวมกับค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ
จะเห็นได้ว่าการผ่อนรถยนต์สักคันนั้น มีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมาก แต่มนุษย์เงินเดือนก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะหากคุณวางแผนการเงินมาอย่างดี ก็จะช่วยให้ผ่อนรถยนต์สำเร็จได้ไม่ยาก และคุณสามารถเลือกทำประกันรถยนต์ที่มีค่าเบี้ยราคาสบายกระเป๋า แต่ให้ความคุ้มครองอย่างเต็มที่ โดย
TQM มีกว่า 40 บริษัทประกันภัยชั้นนำ ให้คุณได้เปรียบเทียบ