ยาฟาวิพิราเวียร์ ทำตาเปลี่ยนสีได้จริงไหม

     ด้วยสถานการณ์ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ตอนนี้ยังคงรุนแรง อัตราการติดเชื้อรายวันยังคงพุ่งสูงหลักพัน ในขณะยอดผู้ติดเชื้อทั้งหมดสูงถึง 2 ล้านกว่าราย โดยการรักษาแบ่งตามกลุ่มอาการของผู้ติดเชื้อ หากอาการไม่หนัก ก็จะรักษาแบบ Home Isolation หรือ Hospitel หากอาการหนักขึ้นมาหน่อยก็ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ไปจนถึงห้อง ICU ส่วนตัวยาหลักที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิดคือ ยาฟาวิพิราเวียร์ เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง  แต่ต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ที่ลงความเห็นว่าควรใช้ยาตัวนี้เท่านั้น

     และล่าสุดกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสื่อออนไลน์ เมื่อผู้ติดเชื่อโควิดได้ออกมาโพสต์วิดีโอถึงดวงตาของตนเองเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง หลังกินยาฟาวิพิราเวียร์รักษาโควิด-19  ความจริงแล้ว ยาฟาวิพิราเวียร์ มีผลข้างเคียงอะไร  ทำให้ตาเปลี่ยนสีได้จริงหรือ วันนี้ พี่หมี TQM มีคำตอบมาฝากครับ

ทำความรู้จัก ยาฟาวิพิราเวียร์ 

     ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) เป็นยาต้านไวรัสที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเพิ่มจำนวนของไวรัส SARS CoV2 ที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID-19 มีลักษณะโครงสร้างเป็นอนุพันธ์ไพราซีนคาร์บอกซาไมด์ (pyrazinecarboxamide derivative) ค้นพบโดย บริษัทฟูจิฟิล์ม โตยามะ เคมิคอล (Toyama Chemical Co., Ltd) ในประเทศญี่ปุ่น สำหรับในประเทศไทย ยาฟาวิพิราเวียร์ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในผู้ป่วย COVID-19 เป็นกรณีพิเศษและจากการเก็บข้อมูลย้อนหลังพบว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ มีความปลอดภัย สามารถลดความรุนแรงและการสูญเสียจาก COVID-19 ได้ โดยองค์การเภสัชกรรมได้ทำการวิจัยและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์วัตถุดิบยาฟาวิฟิราเวียร์ ในระดับห้องปฏิบัติการได้เรียบร้อยแล้ว

ยาฟาวิพิราเวียร์  ทำให้ตาเปลี่ยนสีได้จริงหรือ

     ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์หัวหน้างานตรวจโรคติดเชื้อทางโลหิตวิธีอณูชีววิทยาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โพสต์ลงเฟซบุ๊กเพจ หมอแล็บแพนด้า เกี่ยวการผลข้างเคียงจากการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ ดังนี้

"ฟาวิพิราเวียร์เป็นยาต้านไวรัสที่ อย่างที่เรารู้กันว่ามีฤทธิ์ต่อต้านอาร์เอ็นเอไวรัสหลายชนิด ก็เลยเอามารักษาโควิดเพราะโควิดมันเป็นไวรัส ฟาวิพิราเวียร์ อีกชื่อนึงมันคือ 5-Fluoro-2-hydroxypyrazine-3-carboxamide ซึ่งประกอบไปด้วยสารเรืองแสง ทีนี้พอเรากินยาเข้าไปเพื่อรักษาโควิด แถมต้องกินวันละเป็น 10 เม็ด ยามันก็เลยกระจายไปทั่วร่าง ทั้งผิว เส้นผม เล็บ ลูกตา บางคนจะเห็นชัดเลยว่าเรืองแสง บางคนก็มองด้วยตาเปล่าแล้วเห็นเป็นสีม่วงๆ ไม่ต้องตกกะใจครับ ไม่กี่วันเดี๋ยวร่างกายก็กำจัดยาออกไปเอง"

     ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ ยังมีผลข้างเคียงในด้านอื่นๆอีก เช่น ระดับกรดยูริกในเลือดเพิ่มขึ้น ค่าเม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลลดลง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ หอบหืด เจ็บบริเวณคอหอย จมูกอักเสบ ค่าเอนไซม์ในตับเพิ่มขึ้น อย่างค่า AST และค่า ALT เป็นต้น (ข้อมูลจาก pobpad)

ใครที่ควรได้รับยาฟาวิพิราเวียร์

     แพทย์จะพิจารณาเริ่มยาฟาวิพิราเวียร์ในผู้ป่วยที่มีภาวะปอดอักเสบ ที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ได้แก่ อายุมากกว่า 60 ปี มีโรคประจำตัว ดังนี้ โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ ไตเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวาน รวมถึงในผู้ป่วยที่มีภาวะอ้วนหรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยวิธีรับประทานขนาดยาที่ใช้สำหรับผู้ใหญ่ รับประทานครั้งละ 9 เม็ดทุก 12 ชั่วโมงในวันแรก และลดเหลือครั้งละ 4 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมงในวันที่เหลือ

 

     จะเห็นได้ว่ายาฟาวิพิราเวียร์ค่อนข้างมีผลข้างเคียงที่มากมาย ต้องสั่งจ่ายและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น ส่วนอาการตาเปลี่ยนสี เป็นผลข้างเคียงจากการรับประทานยาเท่านั้น เดี๋ยวร่างกายก็กำจัดยาออกไปเอง หมดห่วงถ้ามี ประกันสุขภาพ คุ้มครองโควิดทุกสายพันธุ์ จะเดลต้า หรือ โอมิครอน ประกันสุขภาพก็คุ้มครอง ให้คุณจ่ายเบี้ยเพียงหลักพัน แต่รับความคุ้มครองแบบจัดเต็ม สบายใจในทุกๆ วิกฤตสุขภาพ สนใจคลิกเลยที่นี่ หรือโทรสอบถามข้อมูลประกันภัยเพิ่มเติมโทรเลย 1737 ตลอด 24 ชั่วโมงครับ

READ MORE :