ติดฟิล์มดำแบบไหนไม่ผิดกฎหมาย

ติดฟิล์มดำแบบไหนไม่ผิดกฎหมาย

 

ด้วยอากาศบ้านเรามันร้อนนัก ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์บางท่านที่ต้องใช้เวลาช่วงกลางวันอยู่บนรถบ่อย ๆ รู้สึกเคืองและแสบตา เพียงสวมแว่นตากันแดดอย่างเดียวก็อาจไม่พอ จึงต้องพึ่งพาฟิล์มติดรถยนต์ที่มีค่าเปอร์เซ็นต์ป้องกันแสงส่องผ่านสูง ๆ ซึ่งเมื่อก่อนเคยมีข่าวว่าห้ามรถยนต์ติดฟิล์มดำจนคนภายนอกมองไม่เห็นภายในรถ แต่ปัจจุบันกฎหมายฉบับดังกล่าวได้ยกเลิกไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เรียบร้อยแล้ว

 

แต่ถึงอย่างไรก็ดี “ฟิล์มดำ” นั้นมีประโยชน์ด้านการกรองแสงลอดผ่านได้สูงสุด 95% แต่ก็ไม่ได้ยกเว้นให้แก่ฟิล์มประเภทหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า “ฟิล์มปรอท”

 

 

 

คุณสมบัติของฟิล์มปรอทเอง เข้าข่าย ผิด พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ซึ่งเป็นบทลงโทษเกี่ยวกับการติดตั้งส่วนเพิ่มเติมที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ท่านอื่น  ซึ่งหมายถึงแสบตาจนบดบังทัศนวิสัยนั่นเอง

 

นั่นก็หมายความว่า หากต้องการติดฟิล์มดำรอบคัน นั้นก็สามารถทำได้ แต่อย่าลืมว่า เวลาขับขี่เองคุณอาจจะไม่ถนัดก็ได้ ส่วนใหญ่นิยมติดด้านหน้าให้สว่าง แต่ด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำที่มีเปอร์เซ็นต์กรองแสงสูงกว่า

 

เปอร์เซนต์กรองแสงคืออะไร?

เวลาเราเอารถเข้าร้านติดฟิล์ม ร้านก็จะถามว่าติดฟิล์มเปอร์เซนต์เท่าไหร่ดี มีให้เลือกตั้งแต่ 40% ไปจนถึง 95% ยิ่งเข้มมากก็ยิ่งทำให้มองไม่เห็น ซึ่งรถยนต์ขับขี่ส่วนบุคคลมักใช้เปอร์เซ็นต์ฟิล์ม 40, 60 และ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นค่าที่เหมาะกับการขับขี่ช่วงเวลากลางวันและกลางคืน ส่วนที่เข้มกว่านั้น มักจะเป็นรถขนเงินธนาคาร หรือ รถตำรวจที่ต้องการรักษาความปลอดภัย

 

แท็กซี่ติดฟิล์มปรอท ผิดกฎหมายไหม

 

รถแท็กซี่ เป็นรถที่นำมาใช้งานด้านคมนาคมขนส่ง ต้องใช้งานนานกว่ารถนั่งส่วนบุคคลทั่วไป คนขับบางท่านต้องการบังแดดไม่ให้ต้อง เติมน้ำยาแอร์บ่อย ๆ เพราะได้รับความร้อนจากแสงแดดกลางวันอยู่เสมอ การติดฟิล์มปรอทนั้นผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีรถแท็กซี่จำนวนมากที่เน้นความสวยงาม นำฟิล์มปรอทมาติด ซึ่งหากขับกลางวันทั้งวันแล้วกลัวร้อน ก็เลือกเป็นฟิล์มกรองแสงเปอร์เซ็นต์สูงกว่า 40% ขึ้นมาหน่อยก็จะไม่ผิดกฎหมาย แต่หากเลือกฟิล์มปรอทอาจถูกจับแน่นอน

READ MORE :

 

►  เลือกฟิล์มติดรถยนต์ให้ คุ้ม คูล สู้ร้อน

►  ติดฟิล์มยังไง ไม่ให้กลายเป็นเตาอบ !

►  เทคนิคจอดรถยังไงให้ปลอดภัย