ความคุ้มครองหลักของประกันสุขภาพ มีอะไรบ้าง?
การทำประกันสุขภาพนอกจากมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเข้ารักษาในโรงพยาบาลยามเจ็บป่วยแล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าในยามเจ็บปวดจะได้รับการรักษา และการคุ้มครองที่ครอบคลุม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการรักษาพยาบาล อีกทั้งยังมีรายได้ระหว่างการเข้ากับรับการรักษาไม่กระทบกระเทือนกับเงินส่วนตัวอีกด้วย
ซึ่งในเบื้องต้นประกันสุขภาพให้การคุ้มครองในการจ่ายเงินทดแทน รวมถึงมี
ค่าสินไหมแก่ผู้ประกันสำหรับการใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าบริการต่าง ๆ นอกจากนี้ยังให้การคุ้มครองเมื่อยาม
เกิดโรคร้ายแรง และอาการเจ็บป่วยที่มาจากอุบัติเหตุ โดยทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับการคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยประกันสุขภาพมี 2 ประเภท ดังนี้
1. ประกันสุขภาพ และอุบัติเหตุแบบรายบุคคล
2. ประกันสุขภาพ และอุบัติเหตุแบบรายกลุ่ม
ประกันสุขภาพมีลักษณะการคุ้มครองหลักๆ ดังนี้
• หากผู้เอาประกันต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล จากกรณีเจ็บไข้ หรือได้รับอุบัติเหตุ ทางผู้รับประกันจะมีค่าชดเชยจากค่ายา ค่านอนโรงพยาบาล ค่าอาหาร ค่าใช่จ่ายจากการบาดเจ็บ รวมถึงค่าบริการอื่น ๆ
• ให้การคุ้มครองเมื่อต้องรักษาการผ่าตัด รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการปรึกษาแพทย์
• ในกรณีที่เข้ารับการรักษาฟัน จะได้รับค่าชดเชยสำหรับค่ารักษา และค่าบริการทันตแพทย์
• ให้การคุ้มครองเมื่อต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรืออยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอการทำคลอดบุตร
• ในกรณีที่เข้ารับการรักษาที่คลินิก ผู้ประกันจะได้รับการค่าชดเชยสำหรับค่าบริการทางการแพทย์
• หากต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เป็นพิเศษ จะได้รับการคุ้มครองค่าใช้จ่ายชดเชย รวมถึงค่าบริการทางการแพทย์
• ในกรณีที่มีพยาบาลพิเศษจะได้รับค่าชดเชยสำหรับค่าบริการในการรักษา
โรคภัยไข้เจ็บมักมาแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันไม่เกิดความเสี่ยงที่ทำให้โรคร้ายลุกลาม ควรหมั่น
ตรวจสุขภาพอย่างเป็นประจำ และการทำประกันสุขภาพเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรละเลยเช่นกัน เพราะหากมีเกิดเจ็บป่วยแบบกระทันหันจะได้รับการคุ้มครองในเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ พี่หมีมีข้อมูลเกี่ยวกับการทำสุขภาพที่คุ้มค่ามาบอก เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในยามเจ็บป่วย
1. ซื้อประกันในขณะที่มีสุขภาพแข็งแรง
การทำประกันสุขภาพในขณะที่มีสุขภาพแข็งจะได้รับการคุ้มครองที่ครอบคลุม เพราะหากตรวจพบว่าเป็นโรคเบาหวาน หรือโรคที่ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง ก็ทำให้ไม่ได้รับเงินชดเชย รวมถึงต้องแบกรับค่ารักษาพยาบาลที่หนักหน่วงอีกด้วย
2. เลือกซื้อประกันที่จ่ายเบี้ยไหว
สิ่งที่ควรให้ความสำคัญมาเป็นอันต้นๆ ของการซื้อประกันคือ ต้องเลือกที่สามารถจ่ายเบี้ยประกันไหว และมีการคุ้มครองที่ตอบโจทย์
3. เลือกซื้อที่ให้การคุ้มครองครอบคลุม
หากมีกำลังในการจ่ายเบี้ยประกัน แนะนำให้เลือกทำประกันที่ได้รับการคุ้มครองครอบคลุม เพื่อที่จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและค่าบริการด้านอื่น ๆ ได้อย่างเต็มที่
READ MORE :