จอดรถทั้งทีจอดยังไงให้ปลอดภัย
อย่างที่ทราบกันว่า เจ้าของรถที่หวงรถมาก ๆ ต้องเล็ง
ที่จอดรถดี ๆ เพื่อไม่ให้ใครมาชนท้าย หรือ เสยไฟหน้า และมักจะเป็นผู้ที่มีวินัยในการจอด จอดแบบเกรงใจคนอื่น ไม่เพิ่ม
ความเสี่ยงให้กับรถยนต์ของเขาเอง เช่นเดียวกัน การจอดรถที่ดี จะช่วยป้องกันภัยต่าง ๆ ทั้ง
ภัยโจรกรรม ภัยจากการมีของหล่นจากที่สูงหล่นมาถูกหลังคารถ ซึ่งไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วันนี้ พี่หมีจึงมีวิธีจอดรถอย่างปลอดภัยมาบอกกัน
1. จอดรถเข้าซองปลอดภัยเสมอ
การจอดรถในพื้นที่จัดไว้ให้จอด หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ กันว่า “จอดรถเข้าซอง” ก็ยังคงจัดว่าเป็นเทคนิคจอดรถที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากทางอาคารสถานที่นั้น ๆ ได้จัดทำเลที่เหมาะสม ไม่วางสิ่งกีดขวางไว้ในที่จอดรถ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ราชการ โรงเรียน โรงแรม ศูนย์การค้า ซึ่งหากคุณจอดรถไม่ล้ำเส้นที่ตีเอาไว้รับรองว่ารถของคุณจะปลอดภัยมากกว่าจอดที่อื่น
2. จอดรถห่างไกลอุปกรณ์ติดไฟ / ไวไฟ / เครื่องจักร ทุกชนิด
แต่การจอดรถในที่จอดรถอาจจะไม่ปลอดภัยเสมอไป หากมุมที่คุณจอดอยู่ใกล้กับจุดซ่อมแซมก่อสร้าง มีสายไฟระโยงระยางออกมาเต็มไปหมด รวมถึงหากมีถังน้ำมัน หรือ วัตถุไวไฟตั้งอยู่ หรือเครื่องจักรที่กำลังทำงาน ก็อาจจะทำให้เสี่ยงเกิดการระเบิด-เพลิงไหม้รถยนต์ได้ ดังนั้นเทคนิคการจอดรถที่รอบคอบ ต้องคอยมองหน้าหลังว่าเราจอดรถใกล้กับวัตถุไวไฟอันตรายหรือเปล่า?
3. ปลดเกียร์ว่างเมื่อจอดซ้อนคัน
สำหรับท่านที่ขับรถเกียร์อัตโนมัติเมื่อต้องจอดซ้อนคัน ต้องปลดเกียร์ว่างเสมอ เพื่อให้คนอื่นที่กำลังจะย้ายรถเข้าออก ได้เข็นรถได้สะดวก และมารยาทของการจอดซ้อนคัน ต้องไม่จดเบียดจนทิศทางการเคลื่อนรถอาจทำให้รถเสียหาย และพับกระจกมองข้างด้วยหากจอดริมถนนที่รถจักรยานยนต์พลุกพล่าน
4. จอดรถในที่ร่ม ให้มองดูก่อนว่าอาจจะมีอะไรตกใส่รถหรือเปล่า?
การจอดในที่ร่มแม้ว่าจะปลอดภัย แต่ว่าหากด้านบนเหนือรถมีของแขวนอยู่ หรือ มีกิ่งไม้ ต้นไม้ ที่ทำท่าว่าใกล้จะหัก ก็อาจจะต้องย้ายที่จอดให้พ้น เนื่องจากกระแสลมที่แรงอาจจะพัดกิ่งไม้ลงมาหล่นทับรถได้รับความเสียหายได้
5. จอดรถในที่แจ้ง ดีกว่าในที่ลับตา
ไม่ต้องกลัวรถจะร้อนหากจะจอดรถประเดี๋ยวเดียว การจอดรถยนต์ในที่ลับตามีโอกาสที่อาจจะเกิดเหตุโจรกรรมมากกว่ารถที่อยู่ในที่ผู้คนพลุกพล่านและมองเห็นง่าย และควรจะเก็บของมีค่าไว้ในท้ายกระโปรงหลัง หรือ หาผ้าและหมอนมาวางทับไม่ให้ดูเป็นที่น่าสังเกต อย่าง กระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้าแบรนด์เนม กระเป๋าคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
6. ไม่จอดรถเหนือท่อระบายน้ำ ป้องกันหนูกัดสายไฟ (และงู)
ถ้าต้องจอดรถทิ้งไว้นาน ๆ หรือข้ามคืน ต้องหลีกเลี่ยง การจอดรถเหนือท่อระบายน้ำ เพราะอาจจะมี
หนูท่อขึ้นมากัดสายไฟใต้ห้องเครื่องขาด ได้รับความเสียหายได้ และหากโชคร้ายกว่านั้นก็อาจจะเจอเป็นงูขึ้นมาเลื้อยอยู่ใต้รถให้ผวาเล่นกันอีกด้วย
7. ไม่จอดรถบนทางโค้ง / ทางชัน
หากยังเหลือพื้นที่ดี ๆ ให้จอดรถได้อยู่ ก็ไม่ควรจอดในทางโค้งหรือทางชัน ไม่ว่าคุณจะล็อคล้อไว้ดีแค่ไหน ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุจากคันหน้าหรือคันหลังไหลเข้ามาชนได้ ทำให้รถยนต์ของคุณได้รับความเสียหาย รวมถึงเป็นจุดเสี่ยงที่รถมีโอกาสได้รับแรงสะเทือนจากรถคันอื่นที่วิ่งผ่าน ทำให้รถไหลได้อย่างไม่รู้ตัว
8. ไม่จอดรถขวางประตูบ้านคนอื่น หรือ พื้นที่ห้ามจอด
อีกจุดที่จอดแล้วคนขับจะไม่สบายใจก็คือพื้นที่ขวางทางประตูหน้าบ้านคนอื่น เพราะเราก็ไม่ทราบได้ว่าจะมีการเข้าออกตลอดเวลาหรือเปล่า? บางบ้านก็ไม่ได้ติดป้ายไว้ แต่ตามมารยาทก็ไม่ควรจอดรถขวางทางเข้าออก ทั้งหน้าบ้าน หน้าตรอก หน้าซอย
9. ไม่จอดรถใกล้ตลิ่ง
เราไม่อาจมั่นใจได้ว่า ริมตลิ่งที่เห็นอยู่นั้นแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน อาจจะมองแล้วดูแข็งแรงดี มีไม้กั้น แต่หากเกิดเหตุรถคันอื่นไหลมาชน หรือ อุบัติเหตุจากผู้อื่น ก็อาจทำให้รถของคุณไหลตกคูน้ำได้อย่างไม่คาดคิด
10. เว้นระยะให้คันอื่นได้ออกบ้าง
เทคนิคการจอดสุดท้ายที่ขอแนะนำไว้ คือการจอดอย่างเว้นช่วงให้คันอื่นได้ออกง่าย ๆ ไม่ว่าจะจอดเข้าซอง จอดตรงลานจอดรถทั่วไป จอดริมถนน ต้องเหลือพื้นที่ให้รถยนต์คันอื่นได้ผ่านเข้าออกได้อย่างน้อย 1 ช่วงคันรถ เพื่อไม่เป็นการรบกวนการสัญจรของผู้อื่น
เห็นไหมว่าจอดรถดี ก็เป็นที่อุ่นใจของคนขับและคนใช้ถนน ซึ่งถือเป็นข้อควรระวังอย่างหนึ่งที่คนมีรถควรตระหนักไว้ และหากคุณเชี่ยวชาญการจอดแล้ว
การขับขี่ และ จังหวะการใช้รถอื่น ๆ ก็จะปลอดภัยมากขึ้น ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการใช้รถยนต์ แต่หากประกันภัยที่มีอยู่ใกล้หมดก็อย่าลืมติดต่อพี่หมี TQM นะครับ!
READ MORE :