ดูแลรถช่วงหน้าร้อนไม่ให้เกิดไฟไหม้
ไฟไหม้รถ เกิดได้จากหลายสาเหตุ สายไฟหลวม น้ำมันรั่ว พัดลมไม่ทำงาน ก็สามารถทำให้ไฟลุกไหม้ได้ แต่อีกสาเหตุหนึ่งที่หลายคนมักมองข้ามคือ สภาพอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งหลายจังหวัดของประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงติดอันดับ 1 ใน 15 ของเมืองที่ร้อนที่สุดในโลก และไม่นานมานี้ก็มีข่าวรถไฟไหม้ให้เห็นถึง 2 เหตุการณ์ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นกับรถของเรา วันนี้พี่หมี TQM มีวิธีดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อนเพื่อไม่ให้เกิดไฟไหม้รถมาฝาก พร้อมคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถเพราะอากาศร้อนไว้เป็นอุทาหรณ์กันครับ
เหตุการณ์สุดสลดจาก รถไฟไหม้เพราะอากาศร้อนจัด
-
ไฟไหม้ปาเจโร่วอดทั้งคัน สูญเงินสด 2 แสน
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2562 จังหวัดตรัง รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ เกิดไฟลุกไหม้อย่างรุนแรงในห้องโดยสาร และลุกลามไปทั่วทั้งคันในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้ต้องสูญเสียเงินสด 2 แสนกว่าบาทที่เพิ่งจะรับมาจากลูกค้า (เจ้าของรถเป็นเซลล์ขายเครื่องครัว) เจ้าของรถในสัมภาษณ์ถึงสาเหตุน่าจะมาจากอากาศที่ร้อนจัด
-
ร้อนจนรถน้ำแข็งไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งคัน
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2562 จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่คนขับกำลังนำรถไปเติมน้ำมัน มีควันออกมาจากฝากระโปรงรถและเกิดไฟลุกไหม้ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้รถไฟไหม้ คาดว่าจะเกิดจากอากาศร้อนจัด ขั้วแบตเตอรี่หลวมหรือเกิดจากสายไฟในห้องเครื่องต่างๆ ชำรุด จนเกิดประกายไฟ
จากเหตุการณ์ข้างต้น รถยนต์เกิดไฟลุกไหม้ด้วยสาเหตุเดียวกันคือ สภาพอากาศที่ร้อนจัด แต่นอกจากอากาศแล้วยังมี สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดไฟไหม้รถ ได้แก่
1. สายไฟในห้องเครื่องชำรุด หลุดหรือหลวม
2. ระบบของเหลวรั่ว เช่น น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หากเกิดการรั่วขึ้นมา จะทำให้เกิดประกายไฟได้
3. พัดลมห้องเครื่องไม่ทำงาน ทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถระบายความร้อนได้
4. อุปกรณ์กรองก๊าซพิษไอเสียอุดตัน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นจนเกิดไฟลุกไหม้
5. รถชนอย่างรุนแรง อาจกระแทกถังน้ำมันหรือระบบไฟฟ้าภายในจนเกิดไฟลุกไหม้
6. น้ำหอมหรือน้ำเปล่าในขวด เมื่อแดดกระทบกับน้ำในขวดจะกายเป็นจุดรวมแสงทำให้เกิดความร้อนสูง
วิธีดูแลรถช่วงหน้าร้อนไม่ให้เกิดไฟไหม้
1. เช็คหม้อน้ำรถยนต์ น้ำในหม้อน้อจะต้องอยู่ในระดับที่กำหนด
2. เช็คท่อน้ำมันเชื้อเพลิง จะต้องไม่มีรอยรั่ว ไม่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปติดในท่อยางและหม้อน้ำ
3. เช็คสายพานรถยนต์ ควรมีความตึงในระดับที่เหมาะสมคือตึงแบบพอดี ไม่น้อยหรือมากเกินไป
4. เช็คใต้ท้องรถ ต้องไม่มีร่องรอยน้ำมันหยด
5. เตรียมขวดน้ำหรือถังดับเพลิงไว้ข้างคนขับ
6. สังเกตมาตรวัดระดับความร้อน
7. สังเกตอาการเครื่องยนต์กระตุกขณะสตาร์ท
อย่างไรก็ตาม การดูแลรถยนต์ช่วงหน้าร้อนถ้าจะให้ดีที่สุด นำรถเข้าอู่รถยนต์ที่เชื่อถือได้ เพื่อตรวจสภาพรถยนต์ให้มีความพร้อมก่อนออกเดินทางทุกครั้ง แต่ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ เกิดขึ้นได้เสมอ ฉะนั้นให้ประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่คุ้มครองเรื่องรถไฟไหม้ดูแลรถยนต์หากเกิดเหตุไม่คาดฝันดีกว่านะครับ สนใจปรึกษาเรื่องประกันโทร 1737 หรือคลิกค้นหาประกันชั้น1 ได้ที่
www.tqm.co.th