ทำไมต้องใช้ เอกสารจองโรงแรม ยื่นวีซ่า

     มีใครเพิ่งเคยยื่นวีซ่าครั้งแรก แล้วสงสัยว่าทำไมต้องใช้ “เอกสารจองโรงแรม” ยื่นประกอบการขอวีซ่าบ้างไหมเอ่ย? แม้ว่าบางประเทศจะเปิดให้ Free VISA เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว แต่ยังมีบางประเทศในทวีปยุโรป ที่ขอรายละเอียดการเข้าเมืองอย่างครบวงจร ซึ่งการขอเอกสารหลายอย่าง มีผลต่อการอนุมัติผ่านวีซ่ามาก ๆ มาดูกันครับว่าทำไมเราต้องใช้เอกสารจองโรงแรมเพื่อขอวีซ่าด้วย

 

     การขอวีซ่า เป็นคนละอย่างกับบัตรเครดิตวีซ่า ซึ่งมันคือเอกสารอนุญาตเข้าเมืองที่ทางประเทศปลายทางจะอนุญาตให้เราเข้าเมืองเขา โดยแต่ละประเทศก็มีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน ซึ่งตัว VISA เองก็มีหลายประเภท ทั้งวีซ่านักท่องเที่ยว, วีซ่านักเรียน, วีซ่าผ่านประเทศ ฯลฯ ส่วนเอกสารการจองโรงแรม เป็นตัวหนึ่งที่ยืนยันว่าเรามีที่พัก และติดต่อได้ระหว่างที่เดินทางไปยังประเทศนั้นนั่นเอง โดยเอกสารหลักสำหรับการขอวีซ่า มี 4 อย่าง ได้แก่ 1) แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า, 2) หนังสือเดินทาง ที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน, 3) รูปถ่ายหน้าตรง และ 4) หลักฐานการเงิน (อาจจะเป็นของผู้สนับสนุนการเดินทาง)

 

 

 

• ตั๋วเครื่องบินเพื่อยืนยันว่าจะมีการเดินทาง

• ประกันสุขภาพ หรือ ประกันอุบัติเหตุ

• ใบรับรองแพทย์ กรณีผู้เดินทางมีโรคประจำตัวร้ายแรง

• หนังสือรับรองจากบริษัทว่าคุณมีงานประจำจริง

• สำเนาเดินบัญชีย้อนหลัง

• หลักฐานการถือครองอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นชื่อผู้เดินทาง

• หากขอวีซ่าเพื่อเยี่ยมญาติ ต้องมีหลักฐานที่ตั้ง หรือ ที่อยู่ ของผู้ที่เราไปพักพิงด้วย 
 

     ทั้งการเดินทางท่องเที่ยว และธุระอื่น ๆ หากมีหลักฐานที่อยู่ของผู้ขอผ่านเข้าเมืองที่ชัดเจน เวลาเกิดเหตุอะไรจะได้ติดต่อกันได้สะดวก และเพื่อป้องกันการเข้ามาทำกิจกรรมที่ขัดต่อกฎหมายของประเทศนั้น ๆ จึงต้องเข้มงวดกันเป็นพิเศษ เพื่อให้สอดคล้องกับเหตุผลที่จะขออนุญาตเข้าเมืองทาง ตม. มีสิทธิ์เรียกร้องขอดูเอกสารนี้ได้ทุกขั้นตอน และมีสิทธิ์ที่จะส่งตัวคุณกลับหากทำไม่ถูกต้อง

 

     แต่ก็มีบางคนหัวใส ใช้วิธีไปยกเลิกการจองโรงแรมภายหลังแล้วไปพักกับเพื่อนตามเมืองต่าง ๆ แต่ก็มีคนที่ถูกส่งตัวกลับประเทศด้วยเหตุผลนี้ด้วย และวิธีที่จะทำให้ผ่านเข้าเมืองได้ง่ายขึ้น ต้องกรอกชื่อและบุคคลอ้างอิงไว้ในใบขอผ่านเข้าเมืองด้วย ดั่งฉากดังในภาพยนตร์เรื่อง MITTY ที่พระเอกเกือบกลับเข้าประเทศไม่ได้ หลังจากเล่าเรื่องราวการผจญภัยจริงที่เหมือนเพ้อฝัน แต่เขาก็ผ่านมาได้ด้วยดี เพราะกรอกชื่อเจ้าของเว็บบล็อกคนที่เขาคุยด้วยตลอดทริปการเดินทาง

 

 

 

     จึงสรุปได้ว่า “เอกสารจองโรงแรม” จำเป็นต้องใช้กับการขอเดินทางต่างประเทศเสมอไปหรือไม่? คำตอบคือไม่ครับ.. คุณต้องสอบถามไปยังสถานทูตของประเทศที่คุณต้องการเดินทางว่าต้องใช้เอกสารตัวนี้หรือไม่? เพราะแต่ละประเทศมีความเข้มงวดไม่เหมือนกัน หากจำเป็นต้องใช้จึงค่อยจองก่อนไปยื่นขอวีซ่าครับ

 

     น้อยคนที่ไม่จองที่พักหลังรู้ตัวว่าจะเดินทางท่องเที่ยว เพราะจะทำให้การวางแผนฉุกระหุกและกะทันหันมาก ๆ เพราะต้องลากกระเป๋าสัมภาระไปเก็บ และเดินทางทำธุระหรือท่องเที่ยว การมีที่พักที่แน่นอนแล้วจะอุ่นใจในการเดินทางมากกว่า และการมีที่พักที่ชัดเจนมีผลต่อการแจ้งความหากกระเป๋าเดินทางหายหรือเสียหายขณะอยู่ในที่พัก โดยประกันการเดินทางหลายบริษัทให้ความคุ้มครองกระเป๋าเดินทางหายขณะอยู่ที่โรงแรมที่พักด้วย หากมีที่ตั้งชัดเจนก็สามารถขอดูกล้องวงจรปิดและสืบได้ง่ายกว่าหายระหว่างการขนย้ายครับ ซึ่งคุณต้องไปติดต่อกับสถานีตำรวจภายใน 24 ชั่วโมง และเก็บใบแจ้งความไว้แจ้งกับบริษัทประกันภัยในภายหลัง

 

     ทั้งหมดนี้ หากรู้ตัวว่าต้องเดินทางท่องเที่ยวก็อย่าลืม “ทำประกันการเดินทาง” ไว้ด้วยนะครับ ครอบคลุมแม้กระทั่งโรคที่เราไปติดมาจากเมืองนอก หรือหากเกิดอุบัติเหตุอยู่ที่เมืองนอกก็จะเบิกเคลมประกันโดยไม่กระทบค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เลือกทำออนไลน์ได้ใน 2 ชั่วโมงก่อนเดินทางได้ครับ โดยเฉพาะประกันการเดินทางรายปี ที่คิดแล้วเป็นส่วนลดที่ถูกมาก รวมถึง การเดินทางในประเทศก็สามารถทำประกันคุ้มครองได้ (ดูรายละเอียด ประกัน TQM สร้างสุข ชุมชนไทย ได้ที่นี่)