เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 112 ครั้ง
สำหรับใครที่เพิ่งซื้อรถเป็นครั้งแรก และยังมีความงุนงงเรื่องประกันภัย วันนี้พี่หมีจะพาไปทำความรู้จักกับประกันภัยรถยนต์แต่ละประเภท ว่ามีอะไร แตกต่างกันยังไง แล้วอะไรที่เหมาะกับเราบ้าง ?
ประกันภัยรถยนต์ แบ่งเป็น 2 ประเภท
1. ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.รถยนต์)
คือ ประกันภัยที่กฎหมายบังคับให้ทุกคนที่มีรถต้องทำ เพื่อคุ้มครองผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทั้งคนขับ ผู้โดยสาร คู่กรณี รวมถึงคนเดินถนน ตามจำนวนเงินที่กฎหมายกำหนด แต่จะไม่คุ้มครองทรัพย์สินที่เสียหาย ซึ่งถ้าหากไม่ทำก็จะถูกปรับตามจำนวนเงินที่กฎหมายกำหนด
2. ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
คือ ประกันภัยที่เจ้าของรถสมัครใจทำกับบริษัทประกันภัยต่างๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งจะให้ความคุ้มครองทั้งทรัพย์สินและบุคคลตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่เมื่อคุ้มครองเพิ่ม ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะตัดสินใจทำประกันประเภทใดนั้นควรพิจารณาจากมูลค่าของรถ และอายุรถ โดยถูกแบ่งย่อยเป็น 4 ประเภทหลักๆ
กรมธรรม์ประเภทที่ 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันที่คุ้มครองครอบคลุมที่สุด มีเงื่อนไขว่ารถนั้นต้องอยู่ในสภาพดี และมีอายุไม่เกิน 7 ปี ซึ่งราคาเบี้ยจะสูงขึ้นตามอายุรถ ดังนั้นผู้ที่เพิ่งซื้อรถยนต์ใหม่จึงเหมาะจะทำประกันนี้
• คุ้มครองทรัพย์สิน ทั้งรถของเราและคู่กรณี
• คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายและชีวิต
• เคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี เช่น โดนหินตกใส่กระจกแตก ชนเสา เป็นต้น
• โจรกรรม ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ
กรมธรรม์ประเภทที่ 2
• คุ้มครองรถและทรัพย์สินเฉพาะคู่กรณี
• คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายและชีวิต
• โจรกรรม และไฟไหม้
กรมธรรม์ประเภทที่ 3
ส่วนใหญ่รับทั้งรถส่วนบุคคลและรถสาธารณะ เป็นประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสำหรับคนที่อยากลดความเสี่ยงเวลาขับรถไปชนคนอื่น และสามารถดูแลค่าใช้จ่ายรถตัวเองได้
• คุ้มครองเฉพาะรถและทรัพย์สินของคู่กรณี
• คุ้มครองความเสียหายต่อร่างกายและชีวิต
กรมธรรม์ประเภทที่ 5
• ประกันรถยนต์ 2+ เป็นประกันรถยนต์ที่ได้รับความคุ้มครองรองลงมาจากประกันชั้น 1 ซึ่งจะคุ้มครองต่อเมื่อมีคู่กรณี รถหาย และไฟไหม้ ดังนั้นจึงเหมาะกับรถที่ติดแก๊ส และคนที่อยากป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุใหญ่ รถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ
• ประกันรถยนต์ 3+ ความคุ้มครองของประกันชนิดจะเหมือนกับ 2+ คือคุ้มครองอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี แต่ต่างตรงที่จะไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ เหมาะกับคนที่รถไม่มีความเสี่ยงจากการติดแก็ส โจรกรรม และภัยธรรมชาติ
การทำประกันรถยนต์นั้นช่วยให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นเมื่อยามเกิดอุบัติเหตุในระดับหนึ่งใช่ไหมครับ ด้วยความเป็นห่วงพี่หมีจึงอยากแนะนำในส่วนของพื้นฐานให้หลายคนเข้าใจก่อนตัดสินใจทำประกัน จะเลือกแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับความคุ้มครองและคุ้มค่าด้วยนะครับ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมก็ต่อสายตรงหาพี่หมีได้ที่ Hotline 1737 หรือที่นี่ www.tqm.co.th ได้เลยครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *