จอดรถไว้ทั้งวัน เสี่ยงน้ำท่วม เลือกประกันชั้นไหนดี
แล้วสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีรถยนต์ แต่ไปทำงานด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส (ฺBTS) รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือเรือ จึงจำเป็นต้องจอดทิ้งไว้ทั้งวัน ไม่ว่าเป็นใต้คอนโดหรือภายในบ้าน รู้ไหมว่าเสี่ยงน้ำท่วมแบบไม่รู้ตัว แล้วแบบนี้ควรทำประกันชั้นไหนไว้ดีที่สุด?
แต่หากพูดถึงความคุ้มครองในการเลือกทำประกันรถยนต์นั้น ทุกคนต้องนึกถึง
ประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้น จะให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่ามากที่สุด เพราะอย่างที่ทราบกันว่าเงื่อนไขความคุ้มครองในส่วนของประกันชั้น 1 จะครอบคลุมมากกว่าชั้นอื่นๆ ทั้ง รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม รถชน ทั้งรถชนรถ รถชนคน หรือ อุบัติเหตุต่างๆก็จะได้รับความคุ้มครองตามที่ตกลงกันไว้ แต่ในกรณีรถเสี่ยงน้ำท่วมแต่ไม่ค่อยได้ขับ ทำประกันชั้น1 คุ้มจริงหรือไม่ วันนี้พี่หมีมีคำตอบครับ
ซึ่งน้ำท่วมสามารถสร้างความเสียหายให้รถยนต์ได้หลายพันคันในแต่ละปี โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ มีหลายพื้นที่ที่มีจุดน้ำท่วมขัง เรียกได้ว่าแทบจะหาพื้นที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมขังไม่ได้เลย เพราะในกรุงเทพฯ มีแม่น้ำลำคลองหลายสาย อีกทั้งระบบการระบายน้ำที่อาจยังไม่เข้าที่เข้าทางดีนักจนทำให้ช่วงเวลาที่ฝนตกหนัก มักจะเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ถึงแม้จะไม่ใช่เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่อย่างในปี 2554 แต่หลายคนก็เลือกมองหาการป้องกัน เพราะหากเกิดน้ำท่วมเสียหายมาก ไม่คุ้มอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 จะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่ามากที่สุด แต่หากไม่ใช่รถยนต์ที่ใช้งานบ่อยๆ ก็คงไม่อยากจะเสียค่าเบี้ยประกันรถยนตชั้น 1 ที่มีค่าเบี้ยประกันสูงกว่าประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น หากอยากได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมในส่วนของน้ำท่วม และไฟไหม้อยู่นั้น พี่หมีแนะนำให้เลือกทำประกันรถยนต์แบบ 2+ ที่ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่ค่าเบี้ยประกันถูกกว่ามาก
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถือเป็นความคุ้มครองที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเมื่อดูความคุ้มครองแล้วนั้น แทบจะไม่แตกต่างอะไรจากประกันชั้น 1 เลย ความคุ้มครองประกันชั้น 2+ ให้ความคุ้มครองดังนี้....
• ความคุ้มครองต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกหรือคู่กรณี
• ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของผู้เอาประกันรถยนต์ในกรณี รถหาย ไฟไหม้ หรือ น้ำท่วม
• ความคุ้มครองต่อทรัพย์สินของผู้ทำประกันในกรณีรถชนรถเท่านั้น ซึ่งหากผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ถึงแม้ยังจะได้รับความคุ้มครองแต่ก็ต้องจ่ายในส่วนของค่า Excess หรือค่าเสียหายส่วนแรกเริ่มต้นที่ 1,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับข้อตกลงตามที่ตกลงในส่วนของค่าเสียหายส่วนแรกกับบริษัทประกัน
• ประกันชั้น 2+ ต้องทำการเคลมสดเท่านั้น เมื่อเกิดการชนเกิดขึ้น ผู้ทำประกันต้องรีบติดต่อบริษัทประกันภัยให้มาทำการเคลมต่อหน้าคู่กรณีทันที
• กรณีเฉี่ยวชนแบบไม่มีคู่กรณี ไม่สามารถเคลมได้
สำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถบ่อยๆ
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ นั้นเป็นความคุ้มครองที่คุ้มค่าน่าสนใจเลยทีเดียว เพราะได้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม และ
ค่าเบี้ยประกันที่ราคาถูกกว่าประกันชั้น 1 ไม่น้อย แต่วงเงินและความคุ้มครองก็จะลดต่ำลงเช่นเดียวกัน รู้แบบนี้แล้วประกันชั้น 2+ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยใช่ไหมละครับ ซึ่งทาง TQM เองก็มีประกันรถยนต์ 2+ รองรับเช่นเดียวกัน หากต้องการปรึกษาในส่วนของความคุ้มครองหรือการเลือกแผนประกัน คลิกเลย
ประกันรถยนต์สำหรับมนุษย์เงินเดือน ให้คุณผ่อน0% นาน 10 เดือน พร้อมบริการเสริมมากมาย หรือสามารถปรึกษาพี่หมีโทร 1737 ตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ
READ MORE :