ซ่อมรถยนต์หลังถูกน้ำท่วม เราจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเช็กอุปกรณ์ไหนของรถยนต์บ้าง ชิ้นส่วนไหนที่จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือซ่อมเพื่อให้รถยนต์กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม ซึ่งถ้าเรานำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมเพื่อให้ช่างช่วยตรวจสอบให้ เจอช่างดีก็อุ่นใจไป แต่ถ้าเจอช่างไม่ดีก็อาจเสียรู้ ถูกหลอกให้เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นได้ วันนี้พี่หมี
TQM จึงรวบรวม
วิธีเช็กรถยนต์เบื้องต้นหลังรถถูกน้ำท่วม แต่ละระดับมาฝากกันครับ
น้ำท่วมรถสูงถึงระดับพื้นรถยนต์
น้ำท่วมเข้ามาในห้องโดยสาร แต่ท่วมไม่ถึงเบาะรถยนต์ มีโอกาสทำให้อุปกรณ์รถยนต์ได้รับความเสียหาย ควรตรวจเช็กเบื้องต้น ได้แก่
-
ระบบเบรกทั้ง 4 ล้อ และผ้าเบรก เมื่อล้อรถยนต์ถูกแช่น้ำเป็นเวลานาน ทำให้เกิดสนิมบนอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนรถยนต์ที่ทำจากเหล็กและโลหะ อย่างบริเวณใต้ท้องรถและผ้าเบรกของทั้ง 4 ล้อ
-
ห้องเครื่องยนต์ คลัทช์คอมแอร์ สายพานแอร์ และไดสตาร์ท เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมเช็ก หากได้รับความเสียหายจากน้ำเข้า อาจทำให้เกิดปัญหาระยะยาวตามมาได้
-
พรมภายในห้องโดยสาร เมื่อมีความเปียกชื้น ควรถอดพรมไปซักและตากแดดเพื่อขจัดกลิ้นอับชื้น ส่วนภายนอกรถยนต์ก็ควรทำความสะอาดเพื่อล้างคราบโคลนสิ่งสกปรกต่างๆ และป้องกันการกัดกินสีรถของคุณ
น้ำท่วมรถสูงถึงระดับเบาะผู้โดยสาร
น้ำท่วมรถถึงเบาะที่นั่ง มีโอกาสทำให้อุปกรณ์รถยนต์ได้รับความเสียหายหลายส่วน ควรตรวจเช็กเบื้องต้น ได้แก่
-
แบตเตอร์รี่ เมื่อนำรถขึ้นจากน้ำแล้ว ห้ามสตาร์ทรถโดยเด็ดขาด ให้ถอดแบตเตอร์รี่ออกในทันทีเพราะระดับความสูงของน้ำจะสร้างความเสียหายภายในห้องเครื่องยนต์
-
ห้องเครื่องยนต์ กล่อง ECU เป็นสมองกลไฟฟ้าควบคุมเครื่องยนต์
-
พัดลมระบายความร้อน เป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับการถ่ายเทความร้อนของห้องเครื่อง
-
เครื่องยนต์, น้ำมันเครื่อง, ระบบเกียร์, น้ำมันเกียร์, ขั้วสายไฟต่างๆ, พวงมาลัยไฟฟ้า EPS
-
พรมรองพื้นกับเบาะที่นั่ง ถ้าถอดออกได้ ควรนำออกมาทำความสะอาดทั้งหมด แล้วผึ่งแดดไว้ ส่วนตัวรถให้เปิดประตูทุกบานและจอดตากแดดจนกว่าจะแน่ใจว่าภายในแห้ง และมีกลิ่นอับลดลง
-
สวิตช์แผงประตู และระบบเซ็นทรัลล็อก
-
ชุดตู้แอร์
น้ำท่วมรถสูงเกินคอนโซลหน้าขึ้นไป
รถยนต์ถูกน้ำท่วมสูงเกินคอนโซล หรือแทบมิดหลังคา มีโอกาสทำให้อุปกรณ์รถยนต์ได้รับความเสียหายมากที่สุด จำเป็นต้องตรวจเช็กอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วนทั้งภายในและภายนอกรถยนต์
เมื่อน้ำลดแล้ว หรือสามารถนำรถขึ้นมาจากน้ำได้ ห้ามสตาร์ทรถโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจรและเครื่องยนต์ได้รับความเสียหายอย่างมาก สิ่งแรกที่ควรทำคือ ควรถอดแบตเตอร์รี่ออกในทันที และตรวจสอบว่ามีน้ำเข้าแบตเตอร์รี่หรือไม่ หากมีน้ำเข้า แปลว่าควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
จากนั้นควรนำรถไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเช็กอย่างละเอียด โดยมีการเช็กของเหลวทุกอย่างภายในรถ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำหล่อเย็น หรือสารหล่อลื่น และยังต้องเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่
แผงหน้าปัทม์และคอนโซล จะต้องถอดออกมาทำความสะอาดและเป่าให้แห้งทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามรถที่ถูกน้ำท่วมมิดคัน ไม่สามารถที่จะซ่อมให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้ หากรถยนต์ของคุณมีประกันที่คุ้มครอง ก็สบายใจได้ เพราะบริษัทประกันยินดีที่จะจ่ายเงิน 70-80% ของทุนประกันเพื่อเป็นการขอซื้อซากรถนั้นเอง
วิธีเช็กรถยนต์เบื้องต้นหลังรถถูกน้ำท่วมอาจจะไม่ได้ละเอียดมาก แต่ก็พอให้เพื่อนๆ ทราบว่ามีอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนไหนของรถยนต์ที่ต้องตรวจเช็กเป็นพิเศษหลังรถถูกน้ำท่วมมาเป็นเวลานาน และสามารถนำไปเทียบกับ list รายการซ่อมรถยนต์ เพื่อไม่ให้เสียรู้ช่างได้
เมื่อ
น้ำท่วมรถ แน่นอนสร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ไม่น้อย ย่อมมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมตามมา ฉะนั้นอย่าลืม
ทำประกันรถยนต์ คุ้มครองน้ำท่วม เพื่อช่วยชดใช้ค่าเสียหาย รับมือกับค่าซ่อมอย่างสบายๆ
เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ราคาสุดคุ้ม กับ
TQM คลิกที่นี่เลย >>
bit.ly/3szwEeP หรือโทร 1737 ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง
READ MORE :