วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อน้ำเข้าห้องโดยสารรถ
แม้ว่าหน้าฝนของประเทศไทยไม่ได้โหดร้ายเท่ากับบางประเทศที่ต้องสร้างบ้านเรือน เพื่อการระบายน้ำกันทีเดียว แต่นาน ๆ ก็จะได้ยินข่าวว่า
น้ำท่วมถนนในขณะที่รถติด แล้วเคลื่อนย้ายรถไม่ทัน หากโชคร้ายสุด ๆ รถคงดับตรงนั้น แต่หากโชคยังอำนวย รถยังพอขับไปได้ แต่ถ้าน้ำเข้ารถแล้วทำอย่างไรดี?
1 ตรวจสอบว่าน้ำมาจากไหน
หากหยุดรถไม่ได้ ผู้โดยสารจะต้องช่วยกันตรวจสอบที่มาของน้ำที่ไหลเข้ามาในห้องโดยสาร โดยส่วนใหญ่ก็จะมาตามขอบกระจกหน้าต่าง และประตูรถ
• ซันรูฟ
• ขอบยางหน้าต่าง
• เบาะ
• คอนโซลรถยนต์
2 อุดรอยน้ำรั่ว
ถ้าเกิดเหตุการณ์น้ำรั่ว ณ เดี๋ยวนั้น จากหน้าต่าง หรือ ซันรูฟ ก็ต้องรีบปิดกระจกให้สนิท หรือหากเกิดจากความบิ่น ก็ต้องรีบหาอุปกรณ์มาอุดรูนั้นชั่วคราวก่อน
3 ซับน้ำออก
เมื่ออุดรอยรั่วเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว อาจจะมีคราบน้ำเลอะอยู่ภายในรถ ทั้งบริเวณเบาะ และพื้น ให้รีบหาผ้าหรือกระดาษทิชชู่มาซับ เพื่อไม่ให้เปียกชื้นเป็นสาเหตุของกลิ่นอับและเชื้อรา
4 ถ่ายภาพเอาไว้เคลมประกัน
ถ้ามีอุปกรณ์โทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือ กล้อง ก็ใช้แอปฯ ถ่ายภาพเอาไว้ก่อนที่จะซ่อมแซมเอง เพื่อเปรียบเทียบเป็นหลักฐานสำหรับการเคลมประกันภัย
5 ลิสต์ว่าต้องซ่อมอะไรบ้าง
หากซ่อมแซมเฉพาะหน้าเองไม่ได้ ก็ต้องเตรียมเอารถเข้าอู่ โดยทำ Check List เพื่อตรวจสอบก่อนและหลังซ่อมแซม จะได้เช็คได้อย่างครบถ้วน
หากรถแช่น้ำ ส่วนที่มีความเสียหายที่สุด คงมีมากกว่าห้องโดยสาร อาจจะลุกลามไปถึงห้องเครื่อง และ
ตัวเครื่องยนต์ หากรถจมน้ำแล้วต้องเคลมประกันแบบรถน้ำท่วม ซึ่ง
ประกันชั้น 1 ประเภทเดียวเท่านั้นที่จ่ายค่าซ่อมทั้งหมด เลือกได้ทั้งซ่อมอู่ และ ซ่อมห้าง สิ่งที่น่ากังวลกับรถที่เคยลุยน้ำก็คือ การขึ้นสนิมของอะไหล่รถยนต์ แม้ว่าเราจะทำให้แห้งได้แล้ว ภายหลังจากการใช้งานอุปกรณ์บางส่วนก็อาจจะไม่เหมือนเดิม จึงเป็นที่กังวลของคนมีรถมาก ๆ อย่างไรก็ดี หลีกเลี่ยงเส้นทางถนนต่ำ น้ำขัง หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องมีประกันที่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมนี้ไว้ด้วย จะได้ไม่รบกวนเงินสดในกระเป๋าของคุณ
READ MORE