เช็คราคาแผนประกัน
กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *
|
อ่านแล้ว 7,130 ครั้ง
ปัญหารถความร้อนขึ้น พี่หมี TQM เชื่อว่าต้องเคยกับขึ้นกับรถของใครหลายๆ คน ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ต้องระมัดระวังหากรถเกิดความร้อนขึ้นไม่ควรที่จะขับรถต่อไป อาจจ่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์พังได้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี่เราควรหมั่นสังเกตุระดับน้ำยาหล่อเย็นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินและในรถไม่มีน้ำยาหล่อเย็น จะสามารถใช้น้ำเปล่าแทนได้หรือเปล่า จะส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ไหม ไปหาคำตอบกันครับ
น้ำยาหล่อเย็น ถือเป็นระบบที่สำคัญของเครื่องยนต์ มีด้วยกันหลากสีสัน ทั้งฟ้า ชมพู เขียว เป็นต้น มีหน้าที่ในการช่วยลดความร้อน ระบายความร้อนของเครื่องยนต์ อีกทั้งยังช่วยป้องการเกิดสนิม ตะกอน ลดการแข็งตัวของน้ำในระบบหล่อเย็น ช่วยหาจุดรั่วไหลของหม้อน้ำได้ง่าย และลดการอุดตันภายในหม้อน้ำ โดยน้ำยาหล่อเย็นแบ่งได้ 2 ประเภทคือ แบบผสมเสร็จพร้อมใช้งาน และ แบบเข้มข้นต้องผสมน้ำก่อนใช้
คำตอบก็คือ ได้แต่ไม่แนะนำ เนื่องจากน้ำเปล่ามีจุดเดือดเพียง 100 องศาเซลเซียส อีกทั้งการระบายความร้อนก็ไม่ดีเท่าที่ควร และที่ร้ายไปกว่านั้นคือเมื่อน้ำเปล่าไปทำงานร่วมกับโลหะ จะทำให้เกิดสนิมในหม้อน้ำ เกิดการอุดตัน และทำให้หม้อน้ำนั้นรั่วซึมได้
จึงควรใช้น้ำมันหล่อเย็นในการเติมลงในหม้อน้ำมากกว่า ด้วยคุณสมบัติที่มีส่วนผสมของของสารเอธิลีน ไกลคอล จะช่วยชะลอการเดือดของน้ำให้สูงขึ้นเป็น 120-125 องศาเซลเซียส เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ช่วยให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ระบายความร้อนได้ดีขึ้น และไม่ทำร้ายเครื่องยนต์ของเราด้วย
แต่หากกรณีฉุกเฉิน เช่น หม้อน้ำรั่วระหว่างทาง แล้วเราหาน้ำยาหล่อเย็นไม่ได้จริงๆ ก็สามารถเติมน้ำเปล่าไปก่อนได้ แต่ต้องเป็นน้ำเปล่าที่สะอาด เช่นน้ำดื่ม น้ำกลั่น และควรเติมเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดผลเสียต่อหม้อน้ำในอนาคตครับ
โดยปกติแล้วน้ำยาหล่อเย็นจะเริ่มเสื่อมสภาพประมาณ 2 ปี ให้สังเกตจากการมีตะกอนในหม้อพักน้ำ และควรนำไปให้ศุนย์ทำการเปลี่ยนให้ ดังนั้นก่อนการใช้รถอย่าลืมที่จะสังเกตุระดับน้ำยาหล่อเย็น และตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆก่อนนำรถออกไปใช้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุฉุกเฉินบนท้องถนน และหากใครที่ สนใจมองหาประกันรถยนต์ราคาสุดคุ้ม กับ TQM คลิกที่นี่เลย หรือโทร 1737 สอบถามเรื่องประกันภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ
READ MORE :
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ *
นามสกุล *
เบอร์โทรศัพท์มือถือ *