ขับรถตอนฝนตก ทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่า? บางคนโทษฟ้าโทษฝน เพราะไม่รู้จตัวว่ากำลังทำสิ่งที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอยู่ หรือบางเรื่องรู้ แต่ก็อดใจที่จะทำไม่ได้ วันนี้ พี่หมี จึงรวม "สิ่งที่ไม่ควรทำขณะขับรถลุยฝน" มาฝาก ยิ่งช่วงนี้ประเทศไทยเจอพายุฝนกระหน่ำอย่างต่อเนื่องแบบนี้ ยิ่งควรอ่านแล้วนำไปปฎิบัติใช้ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและรถที่คุณรักนะครับผม 

 

    พื้นฐานของการขับรถลุยฝน หรือ บนถนนที่เปียก คือ ไม่ขับรถเร็ว ควรลดความเร็วเพื่อให้มองเห็นถนนระหว่างฝนตกได้ชัดขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตกตอนกลางคืน น้ำจะเข้าไปอยู่ระหว่างยางรถยนต์กับพื้นผิวถนน ถ้าขับเร็วอาจทำให้รถเสียการทรงตัว และมีอาการเหินน้ำได้ ดังนั้นเมื่อมีฝนตก ควรชะลอรถให้ช้าลง

 

    หลายคนคิดว่า การเปิดไฟฉุกเฉินจะช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถคุณได้ชัดขึ้น แต่เป็นความคิดที่ผิดถนัด เพราะ การเปิดไฟฉุกเฉินอาจทำให้รถคันอื่นคิดว่า มีรถเสียอยู่ตรงหน้า และเมื่อคุณตบสัญญาณไฟเลี้ยว รถคันอื่นจะไม่รู้เลย ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ฉะนั้นเมื่อมีฝนตก ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินโดยเด็ดขาด

 

    ไฟตัดหมอก ใช่ว่าจะเปิดเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะ ไฟตัดหมอก มีไว้เปิดช่วงที่ฝนตกหนัก หรือหมอกลงหนาจัดจนบดบังทัศนวิสัยเท่านั้น หากนำมาเปิดใช้ตอนฝนตกปรอยๆ หรือในสถานการณ์ปกติ แสงไฟจะแยงตาผู้ที่ขับขี่รถคันข้างหน้า ทำให้เกิดความรำคาญ และเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น ดังนั้นอย่าไปเผลอเปิดไฟตัดหมอกเล่นๆ เพราะนอกจากจะแยงตาแล้วยังผิดกฎหมายจราจรอีกด้วย!

 

    ไม่ว่าจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน ผู้ขับขี่ควรชะลอรถและเปิดสัญญาณไฟก่อน แต่ในขณะที่ฝนตก ทัศนวิสัยในการมองเห็นน้อยลง พี่หมีจึงแนะนำให้เปิดไฟเลี้ยวแต่เนิ่นๆ เพื่อให้รถที่ตามหลังสังเกตเห็นก่อนและพร้อมให้ทางเรา 

 

    ไม่ว่ารถของคุณเป็นรถเก๋งหรือกระบะ ควรเลี่ยงขับรถลุยน้ำ เพราะขณะที่ขับรถอยู่ คุณอาจเดาไม่ถูกว่าระดับน้ำข้างหน้านั้นลึกหรือตื้นแค่ไหน ถ้าพลาดขับฝ่าไปแล้ว น้ำอาจจะเข้ามาในห้องโดยสาร และทำให้รถเกิดความเสียหายได้ 

 

    เมื่อฝนตก น้ำบนถนนจะทำให้หน้ายางสัมผัสกับถนนน้อยลง การหยุดรถจึงต้องการระยะเบรคที่มากกว่าการขับรถบนถนนแห้ง ดังนั้นจึงควรแตะเบรกตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ควรเหยียบเบรกกะทันหันหรือกระชั้นชิด เพื่อป้องกันรถเสียหลัก

 

    ขณะที่ขับรถลุยฝน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำคือ เล่น แชท คุยโทรศัพท์ เพราะจะทำให้เสียสมาธิ แม้เป็นเพียงเสี้ยววินาที ก็สามารถเกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นเวลาขับรถควรงดเล่นโทรศัพท์ ให้สายตาของคุณโฟกัสไปที่ถนนตลอดเวลา หากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นมาจะได้แก้ไขทัน 

 

    อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าฝนจะตกหรือไม่ ก็ไม่ควรปล่อยปะละเลยให้รถยนต์ขาดการต่อประกัน เพราะเมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์ เราไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า หากเกิดรถเสีย หรืออุบัติเหตุกลางทาง อย่างน้อยก็ยังมีประกันช่วยเหลือ เช่น บริการรถลาก รถรับ-ส่งเข้าอู่ซ่อม และเข้ารับการเคลมประกันได้ ไม่ต้องควักเงินเก็บมาจ่ายค่าซ่อม ถือเป็นผลประโยชน์ที่คนทำประกันจะได้รับไปเต็มๆ ดังนั้น เมื่อประกันใกล้หมด ควรมองหาประกันที่เหมาะสมกับการใช้งานของรถคุณ เพื่อได้รับการคุ้มครองที่ตรงความต้องการนะครับ

 

    เป็นอย่างไรบ้างครับ กับ 8 สิ่งที่ไม่ควรทำขณะขับรถลุยฝน เชื่อว่าเพื่อนๆ บางคนขับรถมานานก็อาจจะมีละเลยกันบ้าง เช่น ขับรถเร็ว เพราะคิดว่าตัวเองชำนาญแล้ว แต่อย่างไรก็ตามอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ฉะนั้นกันไว้ดีกว่าสายไป ขับรถอย่างมีสติ ไม่ประมาท และมองหาประกันที่ใช่สำหรับคุณ เพียงกรอกข้อมูลด้านล่าง หรือโทร 1737 ปรึกษาเรื่องประกันภัย ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเลยนะครับ ^^