เช็คด่วน! คุณคือ 1 ใน 7 กลุ่มเสี่ยงป่วยโรคฮีทสโตรกหรือไม่
สภาพอากาศประเทศไทยนับวันยิ่งร้อนสูงขึ้นเรื่อยๆ หลายจังหวัดมีอุณหภูมิทะลุ 40 องศาไปแล้ว ส่งผลต่อสุขภาพ ทำให้เสี่ยงต่อโรคลมแดดได้ง่าย หรือโรคที่ใครๆ คุ้นหูว่า "ฮีทสโตรก" ซึ่งสาเหตุหลักๆ เลยก็มาจากกิจกรรมในชีวิตประจำวัน วันนี้พี่หมี TQM จึงรวม "7 กลุ่มเสี่ยงป่วยโรคฮีทสโตรก" เพื่อนจะอยู่ใน 7 กลุ่มเสี่ยงนี้หรือไม่ เรามาดูกันครับ
โรคลมแดด หรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) เป็นโรคที่เกิดจากภาวะร่างกายคนเราได้รับความร้อนมากเกิน 41 องศาเซลเซียส จนไม่สามารถควบคุมระดับความร้อนในร่างกายได้ ซึ่งผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคลมแดดได้ง่ายคือกลุ่มที่ทำงานหรือกิจกรรมอยู่ในสถานที่ร้อนอบอ้าว หรืออยู่ท่ามกลางแสงแดด โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงติดอับดับโลก
สถิติอุณหภูมิประเทศไทยร้อนติดอันดับโลก
ล่าสุดได้รับข้อมูลอุณหภูมิทั่วโลกจาก เว็ปไซต์
eldoradocountyweather.com พบว่าหลายจังหวัดของประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงติดอันดับ 1 ใน 15 ของเมืองที่ร้อนที่สุดในโลก ซึ่งได้แก่ (สภาพอากาศวันที่ 21 เม.ย. 2562)
อันดับ 5 จังหวัดเลย 43.4 องศา
อันดับ 6 อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม 43.3 องศา
อันดับ 8 อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง 43.3 องศา
และลำดับ 13 จังหวัดสุโขทัย 42.9 องศา
สถิติข้างต้นถือเป็นอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจากปีที่แล้วจนน่าตกใจ ซึ่งสิ่งที่ตามมาและน่ากลัวคืออัตราการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของปีนี้ เพราะขนาดช่วงฤดูร้อนของปี 61 (มี.ค.-พ.ค.) สถิติการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคฮีทสโตรก ปี61 มีผู้เสียชีวิต 18 ราย จึงคาดว่าปีนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยจากภาวะอากาศร้อนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใน 7 กลุ่มป่วยโรคฮีทสโตรก ดังนี้
7 กลุ่มเสี่ยง ที่ต้องป้องกันตนเองจากภาวะฮีทสโตรก
1. เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบและผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว
2. ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หรือโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน
3. คนอ้วน
4. ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ
5. ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดดเป็นเวลานาน เช่น ออกกำลังกาย นักกีฬากอล์ฟ เกษตรกร ทหารใหม่ฝึกกำลังพล
6. ผู้ที่ทำงานออฟฟิศ (ทำงานในห้องแอร์เป็นเวลานาน) แล้วออกมาเจอกับอากาศร้อนจัด ร่างกายจะปรับตัวไม่ทัน
7. ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากกว่าคนที่ไม่ได้ดื่ม และในสภาพอากาศที่ร้อนจัด แอลกอฮอล์ออกฤทธิ์กระตุ้นหัวใจให้สูบฉีดเลือดเร็วและแรงขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น จนอาจทำให้ช็อกและเสียชีวิตได้
ฉะนั้นเราจึงควรหาวิธีป้องกัน ดื่มน้ำมากๆ 6-8 แก้วในแต่ละวัน สวมเสื้อสีอ่อนไม่หนา ออกกำลังกายในที่ที่อากาศถ่ายเท ส่วนเด็ก ผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัว ไม่อยู่ในที่อากาศร้อนและไม่อยู่ตามลำพัง เพียงเท่านี้ก็ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะฮีทสโตรกได้ แต่อย่างไรก็ตาม เจ็บป่วยไม่เคยบอกล่วงหน้า ทำ
ประกันสุขภาพไว้อุ่นใจดีกว่า เพราะค่ารักษาพยาบาลสูงขึ้นทุกปี สนใจสอบถามรายละเอียดโทร 1737 หรือ คลิก
www.tqm.co.th หรือกรอกข้อมูลด้านล่างให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้เลยครับ