ขับรถลุยน้ำท่วมระดับไหนที่รถยังไหวอยู่?
พอฝนตกสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ๆก็คงไม่พ้นเรื่องนำ้ท่วม หากถึงคราวจำเป็นที่ต้องขับรถลุยน้ำ ระดับน้ำขนาดไหนที่ยังปลอดภัยสำหรับรถอยู่? วันนี้พี่หมีจะมาให้คำตอบเอง
5 - 10 ซม.
ระดับความสูงของน้ำขังเล็กๆทั่วไป เกิดขึ้นทุกครั้งที่ฝนตก รถทุกคันสามารถขับรถลุยน้ำระดับนี้ได้ ไม่มีผลอะไรกับเครื่องยนต์ ขอแค่ขับด้วยความระมัดระวังก็พอ
10 - 20 ซม.
ความสูงขนาดนี้ ใครหลายคนอาจเริ่มลังเลที่จะขับรถลุยน้ำฝ่าไป แต่จริงๆแล้วยังสามารถทำได้ ไม่มีผลกับเครื่องยนต์ แต่คนที่ขับรถเก๋งอาจมีเสียวๆกันบ้างแหละ เพราะจะได้ยินเสียงน้ำกระเพื่อมได้ท้องรถตลอดเวลา
20 - 40 ซม.
การขับรถลุยน้ำระดับนี้อาจเริ่มมีปัญหากับรถเก๋ง เพราะระดับประตูรถเก๋งเกือบทุกรุ่นจะมีระยะความสูงจากพื้นประมาณ 15-17 ซม.เท่านั้น ดังนั้นขับไปนี่อาจเกิดอาการพรมแฉะ หากระดับน้ำสูงท่วม 3 ใน 4 ของล้อรถ ให้คิดไว้ก่อนเลยว่าท่อไอเสียกำลังจมอยู่ใต้น้ำ แต่ยังพอขับต่อได้อีกหน่อย ส่วนรถกระบะและรถขับเคลื่อน 4 ล้อนี่ยังสบายใจได้อยู่
40 - 60 ซม.
ระดับน้ำขนาดนี้ถือว่าเป็นอันตรายกับรถเก๋งทุกประเภท ไม่ควรขับรถลุยน้ำอย่างยิ่ง ส่วนรถปิกอัพเริ่มมีลุ้น ขับลุยได้นิดหน่อย แต่ต้องระวังเรื่องของคลื่นน้ำ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นฉับพลันและอาจเข้าตัวเครื่องได้ สุดท้ายคือรถกระบะ ขับได้ ไม่มีปัญหา ถ้าปิดแอร์ขณะขับได้จะยิ่งปลอดภัย
60 - 80 ซม.
บอกเลยว่า ระดับน้ำขนาดนี้เป็นอันตรายกับรถทุกประเภท ถึงแม้จะเป็นรถใหญ่ก็ตาม หากน้ำไหลเข้าเครื่องยนต์ อาจทำให้เครื่องยนต์หยุดชะงักและสร้างความเสียหายแก่ระบบต่างๆได้ หากใครที่ไม่ชำนาญแนะว่าให้หลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำท่วม และหันไปใช้เส้นทางอื่นที่น้ำไม่ท่วมหรือท่วมน้อยกว่าแทน
80 ซม.ขึ้นไป
ระดับขนาดนี้คือระดับที่สูงที่สุดที่รถยนต์จะขับลุยน้ำได้แล้ว ซึ่งน้ำสูงระดับนี้หมายถึงน้ำท่วมทั้งกระโปรงรถและไฟหน้า โดยสิ่งสำคัญคือต้องเดินเครื่องต่อเนื่องห้ามหยุด เพื่อกันการลัดวงจร แต่ถ้าจะให้แนะนำตรงๆ อย่าขับลุยจะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของรถและตัวคนขับเอง
ตอนนี้ทุกคนก็คงรู้แล้วว่าเราสามารถขับรถลุยน้ำท่วมได้ในระดับไหนบ้าง หลังจากนี้ทุกๆคนจะได้ระมัดระวัง และหาทางหลีกเลี่ยง แต่ทางที่ดีควรจะมีประกันเอาไว้เป็นตัวช่วยในกรณีฉุกเฉิน พี่หมีแนะนำ
ประกันภัยชั้น 1 ที่ครอบคลุมดูแลถึงกรณีรถเสียหายจากน้ำท่วม หากสนใจสามารถโทรมาสอบถามได้เลยที่
Hotline 1737