25/08/64

|

อ่านแล้ว 11,170 ครั้ง

ตรวจเช็ครถตามระยะที่กี่กิโล ตรวจอะไรบ้าง

    การตรวจเช็ครถตามระยะ หรือ การตรวจสภาพรถ เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะรถยนต์ หากมีการใช้งานแล้ว ก็ย่อมมีวันเสื่อมสภาพเช่นกัน หากเราไม่ใส่ใจ อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ ฉะนั้นยิ่งต้องได้รับการดูแลและบำรุงรักษาตลอดเวลา จึงจะมีอายุการใช้งานคุ้มค่าราคารถ แต่อะไหล่รถยนต์แต่ละชิ้นนั้น มีระยะเวลาการใช้งานที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องหมั่นเช็ครถตามระยะอยู่บ่อยๆ นับว่าเป็นเรื่องที่จุกจิกเลยก็ว่าได้ เพื่อไม่ให้เป็นการหลงลืม วันนี้พี่หมี TQM จึงรวบรวมรายการที่ต้องตรวจเช็คของแต่ละระยะทาง ให้เพื่อนสามารถจดเซฟเก็บไว้ใช้เช็คลิสต์กันครับ

เช็คสภาพรถยนต์ตามระยะ กิโลที่เท่าไหร่บ้าง

     การเช็คสภาพรถยนต์ แท้จริงก็คือ การบำรุงรักษารถยนต์อย่างนึง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือ การเช็คสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ และแบบที่ 2 คือ เปลี่ยนตามระยะทางหรือระยะไมล์
 
เช็คสภาพรถยนต์ตามระยะ
 

เช็คสภาพรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ

    การตรวจเช็คสภาพรถแบบแรก จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ไม่จำกัดระยะเวลาหรือระยะทาง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้นยามที่เราประมาท 
  1. ตรวจเช็ครถยนต์ เครื่องยนต์ เช็คสภาพ ก่อนออกเดินทาง เพื่อให้พร้อมใช้งานทุกครั้ง
  2. การล้างทำความสะอาดตัวรถ กระจก และล้อหรือยางรถยนต์ ตามความจำเป็น เพื่อป้องกันคราบเศษหินดินทรายติดแน่นจนกินสีรถจนเกิดสนิม หรือเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน
  3. หมั่นเช็ครายการต่อไปนี้ สัปดาห์ละครั้ง
    • ระดับน้ำมันหล่อลื่น
    • เช็ควันหมดแบตเตอรี่
    • เช็คระดับน้ำหล่อเย็น
    • เช็คเครื่องปรับอากาศให้ทำงาน 3 – 4 นาที
  4. ภายใน 2 สัปดาห์ ควรมีการเช็คความดันลมยาง

เช็คความดันลมยาง
 

เช็คสภาพรถยนต์ตามระยะทาง

    การเช็คสภาพรถโดยใช้ระยะทางในการใช้งานเป็นตัวกำหนดว่า ถึงเวลาตรวจเช็คสภาพแล้ว จะมีตั้งแต่ 1,500 กิโลเมตร หรือ ประมาณ 1 เดือนหลังจากออกรถใหม่ จนไปรถเก่าที่ถูกใช้งานจนเลขไมล์หลักแสนเลยหละ ซึ่งในวันที่เราออกรถใหม่ ตัวแทนจำหน่ายรถแต่ละยี่ห้อ จะมีศูนย์ซ่อมบำรุงช่วยดูแลเรื่องรถของบริษัทตัวเองแล้วส่วนหนึ่ง และมีคู่มือพร้อมรายการบอกเตือนเช็คระยะในแต่ละครั้ง ว่ามีอะไรบ้าง หรืออาจมีป้ายที่จะเตือนเจ้าของรถว่า ถึงเวลาที่ต้องนำรถเข้าศูนย์เมื่อผ่านการใช้งานไปถึงกิโลเมตรที่เท่าไหร่ ฟังดูแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่พอถึงเวลาต้องเข้าศูนย์ตามระยะ หากศึกษาการเช็คสภาพรถดูดีๆ หละก็ อะไหล่บางตัวอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนหรือตรวจสภาพก่อนถึงเวลากำหนด หรือบางตัวอาจยังไม่ถึงเวลา เพราะรถแต่ละคันมีสภาพการใช้งานที่แตกต่างกัน บางคันสายขับน้อยจอดนาน บางคันสายขับนานขยันลุย ก็ทำให้อะไหล่ถึงกำหนดที่ต้องเปลี่ยนต่างกัน และอีกสิ่งหนึ่งก็คือ ข้อมูลที่ทางศูนย์กำหนดคือระยะมาตรฐานปกติทั่วไปเท่านั้น
  1. เลขไมล์ที่ 1,500 กิโลเมตร หรืออายุรถ 1 เดือน ควรเช็ครถตามรายการต่อไปนี้
    • ความสะอาดของขั้วแบตเตอรี่
    • สภาพท่อน้ำหล่อเย็น
    • การสึกของยาง
    • ระดับน้ำมันเบรก
    • ฝาหม้อน้ำ
    • สายพานขับปั๊ม
    • สายพานแอร์
  2. เลขไมล์ที่ 5,000 กิโลเมตร หรืออายุรถ 3 เดือน มีอุปกรณ์รถยนต์หลายอย่างที่ควรเช็ค ดังนี้
    • สายพานและระดับความตึง
    • ความสะอาดกรองอากาศ
    • น้ำมันคลัตช์
    • ระดับน้ำมันในปั๊ม
    • ใบปัดน้ำฝน
    • การทำงานของหัวฉีด
    • ความสะอาดของคอยล์ร้อน
    • รอยรั่วที่ข้อต่อ
    • ปริมาณน้ำยาทำความเย็น
  3. เลขไมล์ที่ 5,000 - 10,000 กิโลเมตร หรือในระยะเวลา 6 เดือน ควรมีการเช็คของเหลวอย่าง น้ำมันหล่อลื่น เพื่อทำการเปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่น ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นต้องมีการเปลี่ยนกรองน้ำมันหล่อลื่นด้วย
  4. เลขไมล์ที่ 10,000 กิโลเมตร หรืออายุรถครบ 6 เดือน ต้องระมัดระวังในเรื่องของความเสื่อม โดยเฉพาะของยางรถยนต์ จึงควรเช็คสภาพรถในเรื่องต่อไปนี้
    • ระยะหน้าทองขาวและเขี้ยวหัวเทียน
    • พื้นยางล้อหน้ากับล้อหลัง อาจสับเปลี่ยนตำแหน่งของยาง เพื่อทำให้ยางแต่ละเส้นสึกเสมอกัน
    • ความลึกของดอกยาง
    • ระยะฟรีของแป้นคลัตช์
    • ระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
    • สภาพเบรก
    • การหล่อลื่นข้อต่อต่าง ๆ
  5. เลขไมล์ที่ 20,000 กิโลเมตร เริ่มมีอุปกรณ์บางอย่างที่ต้องถึงเวลาเปลี่ยนใหม่แล้ว จึงมีรายการเช็คสภาพดังนี้
    • ระยะช่องว่างของวาล์ว
    • สายหัวเทียน
    • ฝาครอบจานจ่ายและหัวโรเตอร์
    • วาล์ว พีซีวี
    • ล้างหม้อน้ำ
    • ชุดทองขาวและคอนเดนเซอร์
    • น้ำหล่อเย็น
    • หัวเทียน
    • ตัวกรองอากาศ
  6. เลขไมล์ที่ 40,000 กิโลเมตร หรืออายุรถประมาณ 2 ปี ยังคงมีมีอุปกรณ์สำคัญๆ ที่ต้องปรับเปลี่ยนดังนี้
    • สายพาน
    • น้ำมันเกียร์อัตโนมัติ
    • สายพานขับปั๊ม
    • สายพานแอร์
    • ใบปัดน้ำฝน
  7. เลขไมล์ที่ 60,000 กิโลเมตร หรืออายุรถประมาณ 3 ปี มีสิ่งที่ควรเปลี่ยนและทำความสะอาดดังนี้
    • เปลี่ยนสายหัวเทียน
    • เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง
    • ทำความสะอาดคาร์บูเรเตอร์
  8. เลขไมล์ที่ 100,000 กิโลเมตร สำหรับเครื่องเบนซิน จำเป็นต้องเช็คสายพานไทม์มิ่ง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ  ไม่ว่าจะเป็นนิสัยการขับขี่ ควรเช็คสภาพความแข็ง มีรอยแตกหรือฉีกขาดชำรุดหรือไม่ หากพบให้รีบเปลี่ยนทันที
เช็คเบี้ยประกันรถยนต์
 
    เพราะรถยนต์ ยิ่งใช้งานนาน ยิ่งเสื่อมสภาพได้ง่าย เราจึงควรหมั่นดูแลและซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอตามระยะการใช้งาน เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของรถ และที่สำคัญกว่านั้นคือ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม การขับรถยนต์ในแต่ละครั้ง แม้เครื่องยนต์จะพร้อมมากไหน เราก็ไม่ควรประมาท เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ พี่หมีขอแนะนำ ทำประกันรถยนต์ไว้อุ่นใจกว่า สนใจเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ คลิกที่นี่เลย
 

 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล