17/12/61

|

อ่านแล้ว 463 ครั้ง

มือใหม่ขับรถทางไกลได้ไหม ระวังอะไรบ้าง

มือใหม่ขับรถก็สามารถขับรถทางไกลได้

 
ในวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ ใครหลายคนต่างแพลนสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศเอาไว้มากมาย เพราะถือเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนที่แสนสุข จะได้มีแรงกลับมาลุยงานต่อ! และหากใครมีแพลนไปเที่ยวต่างจังหวัด โดยการขับรถไปด้วยตัวเอง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยเป็นอันขาดคือ ตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง รวมถึงศึกษาเส้นทางให้ดีเสียก่อน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาระหว่างทาง
 
มือใหม่ขับรถทางไกล
 
 
ส่วนใครที่เป็นมือใหม่หัดขับ และอยากขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัดแบบชิลล์ๆ ก็อาจมีคำถามกับตัวเองว่า สามารถขับรถทางไกลได้หรือไม่ ? เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งจริง ๆ แล้วสามารถขับได้ แต่ต้องมีความระมัดระวังตั้งแต่วินาทีที่ก้าวขึ้นรถในฐานะคนขับ และควรสลับเปลี่ยนคนขับ เพื่อป้องกันอาการเมื่อยล้า หรือเกิดอาการง่วงนอน และยับยั้งการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน โดยเบื้องต้นพี่หมีมีข้อควรระวังมาบอก ดังนี้
 
รถความเร็วและเพิ่มความระมัดระวัง
สิ่งที่สำคัญสำหรับมือใหม่หัดขับคือควบคุมความเร็วให้เหมาะสม และระมัดระวังในการขับรถ ซึ่งหากเป็นสถานที่ทีไม่คุ้นเคย ควรศึกษาเส้นทาง หรือเปิด Google Maps เพื่อให้ช่วยนำทาง
 
ตรวจเช็คระบบเบรคก่อนขับรถทางไกล
สิ่งที่ไม่ควรละเลยเป็นอันขาดคือ ตรวจเช็คการทำการของระบบเบรคให้ดีเสียก่อน ว่ามีปัญหาขัดข้องอะไรหรือไม่ เพราะมิเช่นนั้นอาจเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้! ซึ่งหากใครที่มีแพลนไปเที่ยวขับรถขึ้นเขา นอกจากจะต้องเจอกับเส้นทางที่มหาโหดแล้ว เบรกก็จะถูกใช้ตลอดการเดินทางเช่นกัน ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดกลิ่นไหม้ เนื่องจากใช้งานเบรกหนัก เพราะฉะนั้นควรขับรถช้า ๆ และคงความเร็วของรถให้สม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าเบรกเกิดความเสียหาย และเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน
 
เลือกใช้เกียร์ให้ถูกต้อง
หากใช้เกียร์ผิดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้! เพราะฉะนั้นสิ่งที่มือใหม่หัดขับต้องตระหนักเอาไว้ให้มั่นคือ เลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสม หากวิ่งทางราบให้ใช้เกียร์ D ถ้าต้องขับในบริเวณที่เนินชัน ๆ ให้ลดความเร็วลงไปที่ D3 หรือ D2 หากพื้นที่ในบริเวณนั้นมีความสูงชันมาก ให้สลับใช้เกียร์ต่ำ จะช่วยเพิ่มกำลังในการขับรถขึ้นเขา และมีส่วนช่วยหน่วงความเร็วของรถไม่ให้พุ่งตัวเร็วจนทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน
ในกรณีขับรถขึ้นเขาที่มีทางโค้ง ให้เปลี่ยนจากเกียร์ D มาอยู่ที่ D3 สลับกับเปลี่ยนไปที่เกียร์ D2 โดยจะช่วยประคองรถไม่ให้พุ่งลงมาด้วยความเร็ว เพื่อความปลอดภัยให้ใช้เกียร์ต่ำ เพราะมีส่วนช่วยหน่วงความเร็ว ป้องกันไม่ให้รถเกิดการแหกโค้ง ซึ่งจะช่วยเซฟความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
 
เกียร์ที่ใช้เมื่อขับรถลงเขา
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือห้ามเปลี่ยนเกียร์ในขณะที่ขับรถลงมาจากเขา และควรรักษาระยะความเร็วอย่างระมัดระวัง เพื่อจะได้ควบคุมรถได้ดี ในกรณีที่เขามีเส้นทางลาดชัน และมีโค้งหักศอกเป็นจำนวนมาก ให้เลือกใช้เกียร์ D3 จะช่วยรักษาความเร็วได้ดี จากนั้นในระหว่างที่ขับลงเขา ให้เบรกและเปลี่ยนมาใช้เป็นเกียร์ D2 หรือ D1
 
เคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
การเคารพกฎจราจรมีส่วนช่วยลดความเสี่ยง ที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ซึ่งหากมีทริปท่องเที่ยวขับรถขึ้นเขา สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือ ให้สังเกตป้ายเตือนต่าง ๆ รวมถึงจุดที่ให้ชะลอความเร็ว รวมถึงเส้นทึบบริเวณโค้งหุบเขาสูง โดยเป็นสัญลักษ์ว่าห้ามแซงโดยเด็ดขาด!
 
เว้นระยะห่างจากรถคันหน้า
อีกข้อควรรู้ที่มือใหม่ไม่ควรละเลยคือ การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางรถยนต์ ยิ่งถ้าหากขับรถขึ้นเขาด้วยแล้ว ก็ต้องมีควาระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะหากขับรถประชิดรถคันหน้าที่บรรทุกของมาหนักมากเกินไป ก็มีความเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายได้ หรือหากพยายามหาทางแซงรถขึ้นหน้า ก็ถือเป็นสาเหตุที่มีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเช่นกัน
 

เมื่อต้องขับรถเดินทางไกล ควรมีการเตรียมพร้อมดังต่อไปนี้

- ตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ เช็คลมยาง ดอกยาง รวมถึงร่องรอยการฉีกขาด เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหา หรืออุบัติเหตุระหว่างทาง
- ตรวจเช็คว่ามีรอยรั่วซึมบริเวณห้องเครื่อง และเช็คน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ รวมถึงน้ำมันเบรกให้รอบครอบ
- ตรวจเช็คระบบไฟหน้า ไฟหลังรถ ไฟเบรก ไฟสูง ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉินให้ละเอียด ว่ามีความพร้อมในการใช้งานหรือไม่
- ตรรจเช็คที่ปัดน้ำฝนว่าสามารถใช้งานได้ดีหรือไม่
- ตรวจเช็คแผงควบคุมอุปกรณ์ภายในรถ ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่
- เตรียมฟิวส์สำรองที่มีขนาดค่ากระแสไฟฟ้าตามที่แผงฟิวส์กำหนดไว้
- ตรวจเช็คสภาพเบรกว่ามีความขัดข้อง และมีสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่
- ตั้งศูนย์พวงมาลัยให้ตรง เพื่อการควบคุมรถที่มีประสิทธิภาพ
- ทดสอบระบบเกียร์ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่
- ตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็น หม้อน้ำ ท่อยาง สายพาย สายไฟ น้ำกลั่น แบตเตอรี่ น้ำมันเบรก และท่อน้ำมันเชื้อเพลิง ว่ามีปัญหาหรือร่องรอยชำรุดหรือไม่
 
ถ้าไม่อยากให้การท่องเที่ยวต้องสะดุด เพราะเกิดอุบัติที่ไม่คาดฝัน อย่าลืมทำตามขั้นตอนที่พี่หมีได้แนะนำเอาไว้นะครับ และอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยคือการทำประกันรถยนต์ เพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยที่ TQM มีประกันรถยนต์ที่ให้การคุ้มครองอย่างครอบคลุมจากหลายบริษัทชั้นนำ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1737 ตลอด 24 ชั่วโมง
 
 
READ MORE : 
 
 

เช็คราคาแผนประกัน

กรอกข้อมูลเพื่อค้นหาแผนประกัน

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อ *

นามสกุล *

เบอร์โทรศัพท์มือถือ *

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด123 ถนนลาดปลาเค้า แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

ใบอนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เลขที่0105540084143

ใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย
เลขที่ว00019/2546

โทรศัพท์
โทรสาร
เวลาทำการ
จันทร์ - เสาร์ 8.30 - 17.30 น.
อีเมล